ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจอรัลด์ ฟอร์ด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 84:
เขาเกิดใน[[โอมาฮา]] [[รัฐเนแบรสกา]] และเติบโตในแกรนด์ แรพิดส์ [[รัฐมิชิแกน]] ฟอร์ดจบการศึกษาจาก[[มหาวิทยาลัยมิชิแกน]]และ[[โรงเรียนกฏหมายเยล]] ภายหลังจาก[[การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์]] เขาได้เข้าประจำการใน[[กองทัพเรือสำรองสหรัฐ]] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1942 ถึง ค.ศ. 1946 เขาได้ละทิ้งยศตำแหน่งนาวาตรี ฟอร์ดเริ่มต้นอาชีพทางการเมืองในปี ค.ศ. 1949 ในฐานะที่เป็นสมาชิก[[สภาผู้แทนราษฏร์สหรัฐ]]จากเขตรัฐสภาที่ 5 ของรัฐมิชิแกน เขาได้ทำหน้าที่นี้มาเป็นเวลา 25 ปี เก้าคนสุดท้ายในฐานะผู้นำเสียงข้างน้อยในสภา ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1973 สองเดือนภายหลังจากการลาออกของ Spiro Agnew ฟอร์ดกลายเป็นบุคคลแรกที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีภายใต้เงื่อนไขของการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 25 โดยประธานาธิบดี [[ริชาร์ด นิกสัน]] ภายหลังในเวลาต่อมา การลาออกของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสันในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1974 ฟอร์ดได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีทันที การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงตลอด 895 วันของเขานั้นช่างสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐสำหรับประธานาธิบดีคนใดก็ตามที่ไม่เสียชีวิตในตำแหน่งนี้
 
ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี ฟอร์ดได้ลงนาม[[ข้อตกลงเฮลซิงกิ]]  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวหน้านำไปสู่[[การผ่อนคลายความตึงเครียด]]ใน[[สงครามเย็น]]พร้อมกับการล่มสลายของ[[เวียดนามใต้]]ในเวลาเก้าเดือนในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา การมีส่วนร่วมของสหรัฐในเวียดนามจึงสิ้นสุดลง ภายในประเทศ ฟอร์ดได้ดำรงตำแหน่งในช่วงท่ามกลางเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในรอบสี่ทศวรรษนับตั้งแต่[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นและภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วงระหว่างดำรงตำแหน่ง<ref name="'70s">{{cite book|title=How We Got Here: The '70s|last=Frum|first=David|authorlink=David Frum|year=2000|publisher=Basic Books|location=New York City|isbn=978-0-465-04195-4|pages=xxiii, 301|url=https://archive.org/details/howwegothere70sd00frum}}</ref> หนึ่งในกฏหมายที่เป็นทำให้เป็นขัดแย้งมากที่สุดของเขา เขาได้ประกาศอภัยโทษแก่ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน สำหรับบทบาทของเขาใน[[คดีวอเตอร์เกต]]ที่อื้อฉาว ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของฟอร์ด นโยบายต่างประเทศนั้นมีลักษณะตามขั้นตอนของวาระโดยบทบาทที่เพิ่มขึ้นของสภาคองเกรสที่เริ่มจะมีบทบาท และโดยการควบคุมที่สอดคล้องในอำนาจของประธานาธิบดี<ref name="Lenczowski">{{cite book|author=George Lenczowski|title=American Presidents, and the Middle East|year=1990|isbn=978-0-8223-0972-7|pages=142–143|publisher=Duke University Press|author-link=George Lenczowski}}</ref> ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันในปี ค.ศ. 1976 ฟอร์ดได้เอาชนะอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย [[โรนัลด์ เรแกน]] จากการถูกเสนอชื่อการเลือกตั้งของพรรครีพับลิกัน เขาได้พ่ายแพ้อย่างน่าเสียดายในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีให้กับผู้ท้าชิงจาก[[พรรคเดโมแครต (สหรัฐ)|พรรคเดโมแครต]] อดีตผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย [[จิมมี คาร์เตอร์]]
 
ภายหลังจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาอยู่หลายปี ฟอร์ดยังคงทำงานอยู่ในพรรครีพับลิกัน มุมมองความคิดเห็นปานกลางของเขาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมต่างๆ ทำให้เขามีความขัดแย้งกับสมาชิกอนุรักษ์นิยมภายในพรรคในปี ค.ศ. 1990 และต้นปี ค.ศ. 2000 ในการเกษียณอายุ ฟอร์ดได้เลิกที่จะเป็นศัตรูที่เขารู้สึกที่มีต่อคาร์เตอร์ในภายหลังจากการเลือกตั้ง ปี ค.ศ. 1976 และอดีตประธานาธิบดีทั้งสองต่างได้พัฒนาความสัมพันธ์แบบมิตรภาพ ภายหลังจากประสบปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เขาจึงเสียชีวิตที่บ้าน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2006