ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทหารม้า"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 2:
[[ไฟล์:Polski ułan z karabinem przeciwpancernym UR.jpg|thumb|right|[[กองทัพทหารม้าโปแลนด์|ทหารม้าโปแลนด์]] (Polish cavalry) ในปี 1938]]
[[ไฟล์:M1A1 abrams front.jpg|thumb|right|ทหารม้าบน[[รถถัง]]]]
'''ทหารม้า''' ({{lang-en|Cavalry}}, จากคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสคำว่า cavalerie สืบทอดจากตัวของมันเองจากคำว่า "cheval" หมายถึง "ม้า") เป็น[[ทหาร]]หรือ[[นักรบ]]ที่ต่อสู้รบด้วยการขี่บนหลังม้า ในเมื่อครั้งอดีต ทหารม้าเป็นหน่วยกองกำลังรบที่เคลื่อนที่ได้เร็วมากที่สุด ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารม้าเบาในบทบาทของ[[การลาดตระเวน]] การคุ้มกัน(Screening) และการรบปะทะที่เล็กน้อย(harassing) ในหลายกองทัพ หรือจะเป็นทหารม้าหนักสำหรับการโจมตีที่เด็ดขาดในกองทัพอื่นๆ ทหารแต่ละคนในกองทหารม้าเป็นที่รู้จักกันโดยชื่อที่ถูกตั้งให้เป็นจำนวนมากซึ่งขึ้นอยู่กับยุคสมัยและกลยุทธ์ เช่น พลทหารม้า นักขี่ม้า ทรูปเปอร์ [[คาตาฟรัค]] [[ฮุสซาร์]] [[แลนเซอร์]] หรือ[[ดรากูน]] การกำหนดชื่อของทหารม้าโดยทั่วไปแล้วจะไม่ได้กำหนดให้กับกองกำลังทหารที่ใช้สัตว์อื่นมาเป็นพาหนะ เช่น [[อูฐ]] หรือ[[ช้าง]] ทหาราบผู้ที่ซึ่งเคลื่อนไหวบนหลังม้า แต่เมื่อลงจากหลังม้าเพื่อเข้าต่อสู้รบบนทางเท้า เป็นที่รู้จักกันในศตวรรษที่ 17 และช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 คือ ดรากูน ซึ่งเป็นกลุ่ม[[ทหารราบที่ขี่บนหลังม้า]]ซึ่งกองทัพส่วนใหญ่ในเวลาต่อมาได้พัฒนาเป็นทหารม้าแบบมาตรฐาน ในขณะที่ยังคงรักษาชื่อที่ถูกกำหนดไว้ในประวัติศาสตร์
ทหารม้านั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น และทหารที่ต่อสู้รบจากหลังม้าก็มีข้อได้เปรียบในเรื่องของความสูงและความเร็วที่ดีกว่า และ[[มวล|มวลเฉื่อย]]ที่มีมากกว่าคู่ต่อสู้บนทางเท้า องค์ประกอบอีกประการหนึ่งของการทำสงครามบนหลังม้าคือ ผลกระทบทางจิตใจของทหารที่ขี่บนหลังม้าสามารถทำลายล้างคู่ต่อสู้ได้
ด้วยความเร็ว ความคล่องแคล่ว และค่าที่ทำให้เกิดความสะดุ้งหวาดกลัวของทหารม้าได้รับความชื่นชมและใช้ประโยชน์อย่างมากในกองทัพใน[[สมัยโบราณ|ยุคโบราณ]]และ[[สมัยกลาง|ยุคกลาง]] กองกำลังบางส่วนส่วนใหญ่เป็นทหารม้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมชนเผ่าเร่ร่อนของเอเชีย ที่เด่นที่สุดคือ [[ชาวฮัน]]ของ[[อัตติลา]]และต่อมาเป็น[[กองทัพมองโกล]] ในทวีปยุโรป ทหารม้าได้รับการติดตั้งด้วยการหุ้มเกราะที่มากขึ้น(หนัก) และท้ายที่สุดก็พัฒนาเป็น[[อัศวิน]]ที่ขี่บนหลังม้าในยุคกลาง ในช่วงศตวรรษที่ 17 ทหารม้าในทวีปยุโรปได้สูญเสียเกราะส่วนใหญ่ไป ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมากนักเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ[[ปืนคาบศิลา]]และ[[ปืนใหญ่]]ที่นำเข้ามาใช้งาน และในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ชุดเกราะส่วนใหญ่ต่างได้ยกเลิกใช้ไปหมดแล้ว แม้ว่าบางหน่วยทหารจะยังคงมีการใช้เสื้อเกราะขนาดเล็กที่มีความหนามากขึ้นที่สามารถใช้ในการป้องกันหอกและดาบและบางครั้งก็ป้องกันกระสุนได้ด้วย
ในช่วง[[สมัยระหว่างสงคราม|สมัยระหว่าง]]ของ[[สงครามโลก]] ทหารม้าหลายหน่วยต่างได้ถูกเปลี่ยนเป็นหน่วย[[ทหารราบยานยนต์]]และหน่วย[[ทหารราบยานเกราะ]] หรือเปลี่ยนมาเป็นพลขับรถถัง อย่างไรก็ตาม ทหารม้าบางส่วนยังคงทำหน้าที่ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ที่เด่นมากที่สุดคือ [[กองทัพแดง]]แห่ง[[สหภาพโซเวียต]] [[กองทัพประชาชนมองโกเลีย]] [[กองทัพบกราชอาณาจักรอิตาลี]] กองทัพโรมาเนีย [[กองทัพบกโปแลนด์]] และหน่วยทหารลาดตระเวนเบาภายในหน่วย[[วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส]] หน่วยทหารม้าส่วนใหญ่ที่ขี่บนหลังม้าในกองทัพสมัยใหม่นั้นได้ทำหน้าที่ในพิธีทางการอย่างสง่าผ่าเผย หรือทหารราบที่ขี่ม้าในภูมิประเทศที่มีความยากลำบาก เช่น ภูเขา หรือพื้นที่ป่าทึบ การใช้คำศัพท์สมัยใหม่โดยทั่วไปหมายถึงหน่วยทหารที่ทำหน้าที่บทบาทของการลาดตระเวน การเฝ้าระวัง และการได้มาซึ่งเป้าหมาย (reconnaissance, surveillance, and target acquisition, RSTA)
== คุณลักษณะของทหารม้า ==
| |||