ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การสังหารหมู่ที่บิสคารี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20:
เป็นส่วนหนึ่งของ[[การบุกครองเกาะซิซิลีของฝ่ายสัมพันธมิตร]] [[กองทัพสหรัฐที่เจ็ด]]ภายใต้บัญชาการโดยพลโท [[จอร์จ เอส. แพตตัน]] และ[[กองทัพบกบริติซที่แปด]]ภายใต้บัญชาการโดยนายพล เซอร์ [[เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี]] ทำการบุกครองหัวมุมทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1943 ในขณะที่ส่วนหนึ่งชองกองทัพน้อยที่สองภายใต้บัญชาการโดย[[โอมาร์ แบรดลีย์|โอมาร์ เนลสัน แบรดลีย์]] กองพลทหารราบที่ 45 ได้รับภารกิจที่ยากลำบาก แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกองพล"สีเขียว"(เช่น ไม่มีประสบการณ์ในการสู้รบมาก่อน) มีส่วนร่วมในการบุกครอง กรมทหารราบที่ 157 และ 179 ของกองพลที่ 45 ได้รับภารกิจในการเข้ายึดครองเมืองชายฝั่งหลายเมืองและสนามบินโคมิโซก่อนที่จะไปเข้าสมทบกับ[[กองพลทหารราบแคนาดาที่ 1]]
 
กรมทหารราบที่ 180 ได้รับภารกิจในการเข้ายึดสนามบินบิสคารีและไปเข้าสมทบกับกองพลทหารราบสหรัฐที่หนึ่ง<ref>Atkinson, (2007), pp. 37–8.</ref> กรมทหารราบที่ 180 ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้แย่ใน 48 ชั่วโมงแรกของการยกพลขึ้นบกที่พลตรี Troy Middleton ได้พิจารณาที่จะบรรเทาผ่อนคลายให้กับผู้บัญชาการ แแทนที่, ผู้ช่วยของผู้บัญชาการกองพลซึ่งถูกส่งไปควบคุมดูแลการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิดมากกว่าการจัดตั้งหน่วยกรมทหาร<ref>{{cite book|last=Garland|first=Lt. Col. Albert N.|title=Sicily and the Surrender of Italy|year=1965|publisher=Department of the Army|location=Washington DC|pages=189–190}}</ref>
 
ในช่วงการเข้ายึดสนามบินบิสคารี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1943 ทหารของกรมทหารราบที่ 180 ได้ทำการสังหารต่อเชลยศึกทั้งหมด ได้แก่ ชาวอิตาลี 71 นาย และชาวเยอรมัน 2 นายในสองเหตุการณ์ที่แยกต่างหาก ในช่วงเหตุการณ์แรก เชลยศึกชาวอิตาลี 35 นาย และชาวเยอรมัน 2 นายล้วนถูกสังหาร ในขณะที่เชลยศึกชาวอิตาลีอีก 36 นายล้วนถูกสังหารเช่นกันในช่วงเหตุการณ์ที่สอง<ref>Weingartner (November 1989), pp. 24-39.</ref><ref>Robbins (2000), pp274-6.</ref><ref>Borch (2013), pp. 1–6.</ref>