ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตลาดพลู"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เพิ่มเติมข้อมูล |
|||
บรรทัด 17:
ความพิเศษของชุมชนตลาดพลูในยุคนี้คือ ผู้คนต่างอยูร่วมกันในเรือนไม้ห้องแถวและเริ่มมีการก่อสร้างอาคารพานิชโครงสร้างปูนผสมไม้ตามซอยต่างๆเช่น ซอยวัดโพธิ์นิมิตร ซอยวัดใหม่จีนกัน ซอยโรงเจ และซอยวัดบางสะแกนอก ในแต่ละซอยจะมีคนหลากหลายอาชีพมาอยู่ร่วมกัน ทั้งช่างไม้ ช่างเฟอร์นิเจอร์ ช่างทาสี ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า มีทั้งคนไทยและจีนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ ในส่วนของซอยวัดบางสะแกนอก จะเป็นแหล่งรวมของช่างอัญมณี ช่างทอง ที่ทำงานให้กับร้านเพชรและร้านทองต่างๆในย่านเยาวราช โดยมากจะเป็นช่างจากจังหวัดราชบุรี อำเภอดำเนินสะดวก
''ตลาดพลูยุคที่ 4'' ดินแดนแห่งอาหาร ช่วงเวลาของยุคนี้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2531-2550 ถือเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดของชุมชนตลาดพลู
เมื่อบ้านที่เคยอยู่อาศัย อาชีพที่เคยทำถูกเพลิงไหม้ไปหมด ประกอบกับวิกฤติครั้งสำคัญของประเทศไทยคือ วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ทำให้อาชีพต่างๆในอดีตที่เคยรุ่งเรืองในตลาดพลูค่อยๆเลือนหายไป เช่น กลุ่มช่างทอง อัญมณีในซอยวัดบางสะแกนอกหรือกลุ่มช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ต่างต้องยุติอาชีพของตนลงและเปลี่ยนมาทำการค้าขายแทน จุดเปลี่ยนนี้คือจุดสำคัญที่ทำให้ชุมชนตลาดพลู เป็นดินแดนของอาหารในเวลาต่อมา เมื่อคนในชุมชนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตและวิถีชีวิตเดิมของชุมชนมีการประกอบอาหารกันเองในครอบครัวอยู่แล้ว ทางเลือกหนึ่งของคนกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มาจากจังหวัดราชบุรีคือการหันมาประกอบอาชีพขายอาหารแทนนั่นเอง ช่วงเวลานี้ศูนย์กลางของตลาดพลูได้เกิดขึ้นบริเวณใต้สะพานตลาดพลูเพราะเป็นจุดคมนาคมที่สำคัญมากของคนฝั่งธน เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายของผู้คนในชุมชนริมทางรถไฟจากย่านบางบอน บางขุนเทียน หากต้องการเข้าสู่กรุงเทพชั้นในผู้คนจะเดินทางไปสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ แต่หากต้องการเข้าสู่ย่านจรัลสนิทวงศ์ ถนนตก บางไผ่ ราชฎร์บูรณะ ผู้คนจะลงสถานีรถไฟตลาดพลูเพื่อเดินทางต่อไปย่านดังกล่าว หากต้องการเดินทางด้วยรถโดยสารไปฝั่งพระนครไม่ว่าจะสนามหลวง รถเมล์สาย 9 / เยาวราช รถเมล์สาย 4 / นนทบุรี รถเมล์สาย 103 / ประชาชื่น รถเมล์สาย 66 / สาธุประดิษฐ์ รถเมล์ 205 / อนุเสาวรีย์ รถเมล์สาย 108 หรือแม้แต่การโดยสารเรือสาธารณะ ธงเหลือง สะพานพุทธ-ตลาดบางแค ธงเขียว รร.ราชินี-พาณิชยการธนบุรี
|