ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โป๊ยเซียน (เทพเจ้าจีน)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Eight Immortals Crossing the Sea - Project Gutenberg eText 15250.jpg|thumb|ภาพ "แปดเซียนข้ามสมุทร" (Eight Immortals Crossing the Sea) จากหนังสือ ''มิทส์แอนด์เลเจนส์ออฟไชนา'' (Myths and Legends of China) ฉบับพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1922 แสดงภาพโป๊ยเซียนกลับจากงานประชุมท้อสวรรค์
{{ต้องการอ้างอิง}}
* '''ในเรือ''' (ลำดับตามเข็มนาฬิกา): [[เหอเซียนกู]] (แจวเรือ), [[หาน เซียงจื่อ]] (เป่าขลุ่ย), [[หลาน ไฉ่เหอ]] (ชมท้อ), [[หลี่เถียไกว่]] (พิงน้ำเต้า), [[ลฺหวี่ ต้งปิน]] (สะพายดาบ), [[จงหลี เฉฺวียน]] (โบกพัด), [[เฉากั๋วจิ้ว]]
* '''นอกเรือ:''' [[จาง กั๋วเหล่า]]]]
 
'''โป๊ยเซียน''' หรือ[[ภาษาจีนมาตรฐาน|สำเนียงมาตรฐาน]]ว่า '''ปาเซียน''' ({{zh|t=八仙|p=Bāxiān}}) แปลว่า "แปดเซียน" เป็น[[เซียน]]กลุ่มหนึ่งใน[[ประมวลเรื่องปรัมปราจีน]] เป็นที่นับถือใน[[ลัทธิเต๋า]] และมีชื่อเสียงมาช้านาน เซียนทั้งแปดนี้ เชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ใน[[ราชวงศ์ชาง]]หรือ[[ราชวงศ์ถัง]] ทั้งยังเชื่อว่า อาศัยอยู่ด้วยกัน ณ หมู่เกาะหมู่หนึ่งใน[[ทะเลปั๋วไห่|ทะเลปั๋ว]] (渤海) โดยเฉพาะที่[[ภูเขาเผิงไหล]] (蓬萊) และมักได้รับการแสดงภาพเป็นกลุ่มบุคคลที่นั่งเรือกลับจาก[[งานประชุมท้อสวรรค์]] (蟠桃會)
[[ไฟล์:Eight Immortals Crossing the Sea - Project Gutenberg eText 15250.jpg|''แปดเทพข้ามสมุทร'' ภาพจาก ''Myths and Legends of China'',1922 โดย อี. ที. ซี. เวอร์เนอร์<br>'''ในเรือ''' (ลำดับตามเข็มนาฬิกา): [[นางฟ้าเหอ]] (แจวเรือ), [[ปราชญ์หัน เซียง]] (เป่าขลุ่ย), [[หลัน ไฉ่เหอ]] (ชมท้อ), [[หลี่ขาเหล็ก]] (พิงน้ำเต้า), [[ลหฺวี่ ต้งปิน]] (สะพายดาบ), [[จงหลี ฉวน]] (โบกพัด), [[พระมาตุลาเฉา]]<br>'''นอกเรือ:''' [[อาวุโสจัง กัว]]|thumb|right|300px]]
 
==สมาชิก==
'''โป๊ยเซียน''', '''ปาเซียน''' หรือ '''แปดเทพ''' ({{Zh-all|c=八仙|p=bā xiān, ''ปาเซียน''|w=Pa-hsien}}; {{lang-en|Eight Immortals หรือ Eight Genies}}) คือ [[เซียน]]แปดองค์ ตามความเชื่อใน[[ลัทธิเต๋า]]ของ[[ประเทศจีน|จีน]] เป็น[[เทพเจ้า]]ที่ชาวจีนนับถือมาช้านาน นับเป็นหนึ่งในบรรดาเซียนนับร้อย ๆ องค์ของจีน แต่เซียนทั้งแปดนี้ นับว่าเป็นที่รู้จักดีและได้นับการนับถืออย่างกว้างขวางมาก
 
* '''[[จงหลี เฉฺวียน]]]''' (鐘离權), กวางตุ้งว่า "จงสิดขือ", ฮกเกี้ยนว่า "เจี๋ยงตีควน"
ใน[[ศาลเจ้า]]ตามของหมู่บ้านชาวจีน มักจะมีแท่นบูชาที่ปูด้วยผ้ามีภาพวาดเซียนทั้งแปดรวมเป็นกลุ่ม บ้างก็เป็นภาพเซียนนั่งเรือกลับจากการไป[[งานประชุมท้อสวรรค์]] ({{zh-all|c=蟠桃會|p=pán taó huì}}; {{lang-en|Conference of the Magical Peach}})
* '''[[จาง กั๋วเหล่า]]''' (張果老; "เฒ่าจาง กั่ว"), แต้จิ๋วว่า "เจียงกั๋วเล้า", ฮกเกี้ยนว่า "ติวเกอหล่าว"
* '''[[เฉากั๋วจิ้ว]]''' (曹國舅), กวางตุ้งว่า "โฉวกวอเกา", แต้จิ๋วว่า "เชาก๊กกู๋", ฮกเกี้ยนว่า "ฉิวก๊กกู๋"
* '''[[ลฺหวี่ ต้งปิน]]''' (呂洞賓), แต้จิ๋วว่า "ลือท่งปิน", ฮกเกี้ยนว่า "ลีตงปิ่น"
* '''[[หลาน ไฉ่เหอ]]''' (藍采和), แต้จิ๋วว่า "น่าไชหัว", ฮกเกี้ยนว่า "หน่าไฉฮัม"
* '''[[หลี่เถียไกว่]]''' (李鐵拐; "หลี่ไม้เท้าเหล็ก"), กวางตุ้งว่า "เหล่ยทิดกวาย", แต้จิ๋วว่า "ลี้ทิก๋วย", ฮกเกี้ยนว่า "ลี่ทิกุย",
* '''[[หาน เซียงจื่อ]]''' (韓湘子), ฮกเกี้ยนว่า "ฮั้นเจียวจู้"
* '''[[เหอเซียนกู]]''' (何仙姑; "นางฟ้าเหอ"), แต้จิ๋วว่า "ฮ่อเซียนโกว", ฮกเกี้ยนว่า "เฮอเซียนก๊อ"
 
สมาชิกทั้ง 8 ในกลุ่มของโป๊ยเซียนนั้นแตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่ปัจจุบันนี้โป๊ยเซียนมีด้วยกันดังนี้
 
{| class="wikitable"
|-
! ไทย
! จีน
! อังกฤษ
|-
| [[หลี่ขาเหล็ก]]
|| '''อักษรจีน:''' 鐵拐李 ([[พินอิน]]: Tiě Guǎi Lǐ; [[ เวด-ไจลส์]]: T'ieh-kuai Li) <br> '''เสียงอ่าน:''' เถียไกว่หลี่ ([[ภาษาจีน|กลาง]]), ทิกุยลี่ ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), ทิดกวายเหล่ย ([[กวางตุ้ง]]), ทิก๋วยลี้ ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Iron-Crutch Li
|-
| [[จงหลี เฉฺวียน]]
| '''อักษรจีน:''' 鐘离權 ([[พินอิน]]: Zhōnglí Quán; [[ เวด-ไจลส์]]: Chung-li Ch'üan) <br> '''เสียงอ่าน:''' จงหลี เฉฺวียน ([[ภาษาจีน|กลาง]]), เจี๋ยงตีควน ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), จงสิดขือ ([[กวางตุ้ง]]), ฮั่นจงหลี ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
| Zhongli Quan
|-
| [[พระเทวันเฉา]]
|| '''อักษรจีน:''' 曹國舅 ([[พินอิน]]: Cáo Guó Jiù; [[ เวด-ไจลส์]]: Ts'ao Kuo-ch'iu) <br> '''เสียงอ่าน:''' เฉากั๋วจิ้ว ([[ภาษาจีน|กลาง]]), ฉิวก๊กกู๋ ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), โฉวกวอเกา ([[กวางตุ้ง]]), เชาก๊กกู๋ ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Royal Brother-in-law Cao
|-
| [[ปราชญ์หัน เซียง]]
|| '''อักษรจีน:''' 韓湘子 ([[พินอิน]]: Hán Xiāng Zi; [[ เวด-ไจลส์]]: Han Hsiang Tzu) <br> '''เสียงอ่าน:''' หัน เซียง จือ ([[ภาษาจีน|กลาง]]), ฮั้นเจียวจู้ ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), ฮั้นเซียงจื่อ ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Philosopher Han Xiang
|-
| [[นางฟ้าเหอ]]
|| '''อักษรจีน:''' 何仙姑 ([[พินอิน]]: Hé Xiān Gū; [[ เวด-ไจลส์]]: Ho Hsien-ku) <br> '''เสียงอ่าน:''' เหอเซียนกู ([[ภาษาจีน|กลาง]]), เฮอเซียนก๊อ ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), ฮ่อเซียนโกว ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Immortal Woman He
|-
| [[หลัน ไฉ่เหอ]]
|| '''อักษรจีน:''' 藍采和 ([[พินอิน]]: Lán Cǎihé; [[ เวด-ไจลส์]]: Lan Ts'ai-ho) <br> '''เสียงอ่าน:''' หลัน ไฉ่เหอ ([[ภาษาจีน|กลาง]]), หน่าไฉฮัม ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), น่าไชหัว ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Lan Caihe
|-
| [[อาวุโสจัง กัว]]
|| '''อักษรจีน:''' 張果老 ([[พินอิน]]: Zhāng Guǒ Lǎo; [[ เวด-ไจลส์]]: Chang Kuo Lao) <br> '''เสียงอ่าน:''' จัง กัว เหล่า ([[ภาษาจีน|กลาง]]), ติวเกอหล่าว ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), เจียงกั๋วเล้า ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Elder Zhang Guo
|-
| [[ลหฺวี่ ต้งปิน]]
|| '''อักษรจีน:''' 呂洞賓 ([[พินอิน]]: Lǚ Dòngbīn; [[ เวด-ไจลส์]]: Lü Tung-Pin) <br> '''เสียงอ่าน:''' ลหฺวี่ ต้งปิน ([[ภาษาจีน|กลาง]]), ลีตงปิ่น ([[ภาษาหมิ่นใต้|ฮกเกี้ยน]]), ลือท่งปิน ([[สำเนียงแต้จิ๋ว|แต้จิ๋ว]])
|| Lu Dongbin
|}
 
เซียนแต่ละองค์ในบรรดา 8 องค์นี้ มีประวัติที่มา และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แตกต่างกันไป ในปัจจุบันทั้งชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ยังนิยมนับถือบูชาโป๊ยเซียนอย่างสม่ำเสมอ
<!--
== ทิก๋วยลี้ (จีนกลางออกเสียง :หลี่ เถีย ไกว่) ==
[[ทิก๋วยลี้]] เดิมแซ่ หลี่ ชื่อ เหียน เกิด[[ยุคชุนชิว]] เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ สติปัญญาเฉลียวฉลาด หน้าตาดี ไม่ชอบทำมาหากินหรือมีครอบครัวเหมือนชาวบ้าน ชอบทางบำเพ็ญตบะถือศีลกินเจ เห็นว่า อำนาจวาสนา ลาภยศสรรเสริญ สมบัติพัสถาน ล้วนเป็นภาพมายา ดุจเมฆหมอกลอยกลางอากาศ ไม่นานก็จางหายไป เมื่อหลี่เหียนพิจารณาเห็นสัจธรรมเช่นนี้ จึงตัดสินใจสละทางโลก อำลาญาติมิตรไปบำเพ็ญพรตอยู่ในถ้ำ จนสามารถถอดกายทิพย์และจิตวิญญาณออกจากร่าง
 
วันหนึ่งมีนัดต้องไปเข้าเฝ้า [[ลีเลากุน]] ผู้เป็นอาจารย์ที่เขาหัวซัน จึงฝากลูกศิษย์ให้ดูแลร่าง จะไปแต่กายทิพย์ ส่วนร่างทิ้งไว้ที่นี่ ถ้าเกิน 7 วันเรายังไม่กลับ ให้เผาร่างได้เลย เมื่อท่านถอดจิตไปแล้ว มารดาผู้เป็นศิษย์ป่วยหนัก คนทางบ้านมาส่งข่าวให้รีบกลับ ศิษย์ไม่อาจทนอยู่เฝ้าร่างได้ จึงนำร่างไปเผาในวันที่ 6 ท่านกลับมาในวันที่ 7 ไม่พบลูกศิษย์ ไม่เห็นร่างของตน ก็เข้าใจ แต่ไม่เคืองไม่แยแสกระไร ไปเข้าร่างขอทานขาพิการที่เพิ่งเสียชีวิต ร่างใหม่ของท่านจึงขาพิการข้างหนึ่ง ดังในรูปทุกวันนี้ เวลาเดินใช้ไม้เท้าเหล็กค้ำ คนจึงเรียกว่า ทิก๋วยลี้
 
== ฮั่นจงหลี ==
[[ฮั่นจงหลี่]] หรือ จงหลีเฉวียน มีชีวิตในสมัยถัง เป็นบุตรของแม่ทัพ จงหลีจาง วันที่เกิด มีแสงสว่างจ้าไปทั้งจวนแม่ทัพ ผู้คนตกใจคิดว่าไฟไหม้วิ่งไปยังจวนจะดับไฟ พอไปถึงไม่เห็นมีอะไร มีแต่ฮูหยิน ภรรยาแม่ทัพคลอดบุตรเป็นชาย มีลักษณะดีผิดแผกเด็กทั่วไป เมื่อโตขึ้นได้ไต่เต้าเป็นแม่ทัพ คราวหนึ่ง นำทัพไปปราบกบฏคนฮวน เกิดพ่ายศึกยับเยิน ตัวเขาหนีรอดคนเดียวเข้าไปในหุบเขา ได้พบกับนักพรตชรา ว่ากันว่าคือ ทิก้วยลี ได้รับถ่ายทอดเคล็ดบำเพ็ญธรรมต่อมาได้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นเซียน
 
== ลือท่งปิน ==
[[ลื่อท่งปิง:หลวี่ต้งปิง]] หรีอ ลื่อโจ้ว:หลวี่จู่ เกิดวันที่ 14 เดือนสี่ สมัย[[ราชวงศ์ถัง]] เป็นคนเฉลียวฉลาดแต่เด็ก เคยไปสอบ[[จิ้นซื่อ]]สองครั้ง แต่ตก อายุ 64 ท่องเที่ยวพเนจรทั่ว ระหว่างพักโรงเตี๊ยมเมือง หันเอ้อ ได้พบกับอาจารย์ ฮั่นจงหลี ทั้งสองสนทนาเรื่องธรรมะถูกอัธยาศัย ลื่อต้งปิงถอนใจว่า ชีวิตช่างอาภัพ สอบจิ้นซื่อไม่ได้สักครั้ง ฮั่นจงหลีเอาหมอนในย่ามยื่นให้ พร้อมกล่าว เจ้าจงหนุนหมอนใบนี้ ทำให้ทุกอย่างสมหวัง จึงหนุนหมอนหลับไม่รู้ตัว ขณะนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมกำลังนึ่งข้าวเกาเหลียงอยู่ ลื่อต้งปิงได้ฝันเห็นอนาคตว่า ชั่วครู่เดียวชีวิตขึ้นๆลงๆ เปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่สอบได้จิ้นซื่อ เป็นนายอำเภอเมืองลั่วหยังได้เลื่อนตำแหน่งหลายครั้ง กระทั่งเป็นแม่ทัพรบชนะข้าศึก มีอำนาจวาสนา มั่งมีศรีสุข 50 ปี เป็นอัครมหาเสนาบดี 10 ปี ต่อมาถูกปลดออกจากตำแหน่ง ชีวิตตกระกำลำบาก ตื่นขึ้น ฮั่นจงหลีกล่าวว่า เกาเหลียงยังไม่สุก ฝันจบชั่วชีวิต ลื่อต้งปิงแปลกใจ อาจารย์รู้ความฝัน ฮั่นจงหลีว่า ชีวิตงคนก็เป็นเช่นนี้แหละ ลื่อต้งปิงจึงปลงตก ละกิเลส ขอปวารณาเป็นศิษย์ ฮั่นจงหลีได้นำลื่อต้งปิงไปบำเพ็ญเพียรที่เขานกกระเรียนและถ่ายทอดเคล็ดลับ จนสำเร็จเป็นเซียน
 
== ฮ่อเซียนโกว :เหอ เซียน กู ==
[[ฮ่อเซียนโกว: เหอเซียนกู]] เดิมชื่อ ฮ่อค้วง เป็นนางฟ้าหนึ่งเดียวในคณะแปดเซียน เกิดในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นชาวเมืองกวงโจว เป็นคนใจบุญและฉลาด วันหนึ่ง ได้พบกับเซียน ลื่อต้งปิง เซียนเห็นแววส่งผลท้อให้ เมื่อกินผลท้อนั้นแล้วก็สำเร็จเป็นเซียน
 
== เจียงกั๋วเล้า:จางกั๋วเหล่า ==
ตำนานหนึ่งว่า เจียงกั๋วเล้า:จางกั๋วเหล่า เป็นคนสมัยถัง เป็นนักพรตจำศีลภาวนาที่ จงเถียวซัน ไปไหนมาไหนมักจะขี่ลาเผือกกลับหัว โดยหันหน้าไปทางหางลา โดยให้สอดคล้องกับบัณฑิตในยุดสมัยนั้นคนหนึ่งที่ประชดบ้านเมืองโดยการขี่ลาหันหลังเหมือนเป็นการบอกว่าบ้านเมืองสับสนวุ่นวายจนคนงุนงงต้องขี่ลาหลัง ลานี้เป็นลาวิเศษ ไม่ใช้ถเก็บพับใส่ในกระเป๋าดั่งกระดาษ เวลาขี่เอาน้ำพ่น กลายเป็นลาดังเดิม อีกตำนานหนึ่งก็ว่า ในสมัยดึกดำบรรพ์มีพญาค้างคาวเผือกตัวหนึ่ง ได้จำศีลบำเพ็ญเพียรโดยกินแสงอาทิตย์และแสงจันทร์เป็นอาหารและอยู่ในถ้ำจนสำเร็จเป็นเซียน ได้กลายร่างเป็นชายชราผิวพรรณผ่องใสแข็งแรงคือ เจียงกั๋วเล้า นั่นเอง
 
== หลันไฉ่เหอ ==
[[หลันไฉ่เหอ]] เป็นคนสมัยถัง ชอบใส่เสื้อผ้าขาด ใส่รองเท้าข้างเดียว ถือกรับไม้ยาวฟุตเศษ เที่ยวเดินร้องเพลงขอทานเรื่อยไป เพลงที่ร้องมีเนื้อเพลงเป็นคติเตือนใจคน เมื่อได้เงินก็เอามาร้อยเป็นพวงแล้ววิ่งลากไปตามถนน เชือกขาดเงินหลุดหล่นหายไปก็ไม่สนใจ มีเงินเหลือกินก็นำไปแจกจ่ายแก่คนยากจน หน้าร้อนใส่เสื้อหนา หน้าหนาวหิมะตกกลับใส่เสื้อตัวเดียวนอนบนหิมะ ต่อมา ทิก๋วยลี้ และ ฮั่นจงหลี ได้มาชวนไปบำเพียรเพียร จนสำเร็จเป็นเซียน
 
== หันเซียงจื่อ ==
[[หันเซียงจื่อ]] สมญานาม ชิงฟู เกิดในสมัยถัง วันที่ 10 เดือนสิบ [[พ.ศ. 1320]] กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก อยู่กับ หันยู่ ผู้เป็นอา ซึ่งเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ นิสัยรักสันโดษชอบปลีกวิเวก วันหนึ่ง ท่าน ลื่อโจ้ว ได้มาโปรดจนบำเพ็ญสำเร็จเป็นเซียน หันเซียงจื่อ ยังกตัญญู โปรด หันยู่ ให้ละทิ้งตำแหน่งขุนนางมาบำเพ็ญธรรม ใช้เวลาถึง 9 ปี จึงโปรดสำเร็จ
 
== เชาก๊กกู๋ : เฉากั๋วจิ้ว ==
[[เชาก๊กกู๋:เฉากั๋วจิ้ว ]] เดิมชื่อ เชาจิ่งซิว เป็นน้องชายของพระราชินี เชาฮองเฮา แห่งราชวงศ์ซ่ง เชาก๊กกู๋เป็นคนเที่ยงตรง มีเมตตา รักสงบ ไม่ชอบโก้หรู เนื่องจากละอายที่ เชายี น้องชายถืออำนาจพี่สาว เที่ยวก่อกรรมทำชั่ว จนถูกท่านเปาตัดสินประหารชีวิต จึงตัดสินใจขึ้นเขาบำเพ็ญเพียร ต่อมาเขาได้พบกับ ฮั่นจงหลี และ ลื่อต้งปิง ลื่อต้งปิง ถามว่า ได้ข่าวว่าท่านบำเพ็ญธรรม ธรรมที่ท่านบำเพ็ญอยู่ที่ใด เชาก๊กกู๋ ชี้นิ้วขึ้นฟ้า ลื่อต้งปิง ถามอีกว่า ฟ้าอยู่ที่ใด เชาก๊กกู๋ ก็ชี้ที่หัวใจ ฮั่นจงหลีหัวเราะแล้วพูดว่า ใจก็คือฟ้า ฟ้าก็คือใจ บัดนี้ท่านค้นพบตัวเองแล้ว จากนั้นเซียนทั้งสองจึงถ่ายทอด มรรควิธีแก่ เชาก๊กกู๋ จนบำเพ็ญสำเร็จเป็นเซียนในที่สุด
-->
[[หมวดหมู่:โป๊ยเซียน]]
{{โครงความเชื่อ}}