ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
.
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ย้อนการแก้ไขที่ 8679794 สร้างโดย 134.236.251.228 (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น|เกี่ยวกับ= |สำหรับ= |ดูที่=การปฏิรูปศาสนา |เปลี่ยนทาง=}}
[[ไฟล์:Lucas Cranach (I) workshop - Martin Luther (Uffizi).jpg|thumb|250px|มาร์ติน ลูเทอร์]]
'''การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์''' ({{lang-en|Protestant Reformation}}) คือการอึ๊บ ล้อเล่นขบวนการ[[การปฏิรูปศาสนา]]ที่เริ่มโดย [[มาร์ติน ลูเทอร์]] เมื่อปี ค.ศ. 1517 เพื่อแก้ไขความเสื่อมโทรมของ[[คริสตจักร]][[โรมันคาทอลิก]] และ[[พระสันตะปาปา|สถาบันสันตะปาปา]] มาเสร็จสิ้นลงด้วย[[สนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลีย ค.ศ. 1648]]<ref name="Simon-120-121">{{cite book |first=Edith |last=Simon |title=Great Ages of Man: The Reformation |pages=pp. 120-121 |publisher=Time-Life Books |year=1966 |isbn=0662278208}}</ref> ผลจากการปฏิรูปคือการแยกตัวจากนิกายคาทอลิกมาเป็นนิกาย[[โปรเตสแตนต์]]
 
== เหตุการณ์ก่อนการปฏิรูป ==
 
มีเหตุการณ์หลายประการที่เป็นต้นเหตุเกิดการเปลี่ยนแปลง และปฏิรูป[[ศาสนาคริสต์]]ครั้งใหญ่ในช่วง [[ศตวรรษ|คริสต์ศตวรรษ]]ที่ 16]]
 
# สถาบันสันตะปาปาตกอยู่ใต้อำนาจของสถาบัน[[พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส]]ระหว่าง ค.ศ. 1305-1375 ที่เรียกว่า ”การคุมขังแห่งบาบิโลเนีย" หรืออาวีญง ทำให้สถาบันฯ เสื่อมอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นชนวนให้ผู้ใฝ่ในศาสนาดิ้นรนที่จะศึกษาถึงแก่นแท้ของคำสอน เกิดเป็นขบวนการการศึกษาภาษาฮีบรูและกรีกโดยมีศูนย์ที่เมืองฟลอเรนซ์ และมีการค้นคว้าศึกษาวิจัยคัมภีร์ไบเบิลอย่างมากมายเพื่อให้ได้มาซึ่งสัจจะในคำสอน การได้ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยตัวเองทำให้นักคิดชั้นนำสามารถวิจารณ์โจมตีสถาบันศาสนาได้อย่างเต็มที่
บรรทัด 12:
## บิชอปซิเมเนส (Ximenes) เป็นผู้ควบคุมจัดทำคัมภีร์ไบเบิลฉบับสมรวม (The Polyglot Bible)
# ในช่วงศตวรรษที่ 14 เรื่อยมา มีการดึงอำนาจที่กระจัดกระจายในหมู่ขุนนางศักดินา กลับคืนสู่ราชบัลลังก์ โดยได้รับความช่วยเหลือของกลุ่มชนใหม่ที่มีภูมิกำเนิดนอกสังคมขุนนางศักดินา คือกลุ่มชนที่มีพลังเศรษฐกิจและมีความรู้ความสามารถอันเป็นผลจากความสำเร็จของครอบครัวทางการค้า หรืออุตสาหกรรม กลายเป็นสังคมรัฐประชาชาติ มีการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจทางการเมืองภายในรัฐ ระหว่างรัฐในยุโรปกับสถาบันสันตะปาปา กลุ่มชนใหม่เหล่านี้ให้การสนับสนุนต่อประมุขการเมืองของรัฐปราบปรามบรรดาขุนนางศักดินาภายในรัฐ และต่อต้านสถาบันสันตะปาปาจากภายนอก กลุ่มชนใหม่นี้เรียกว่าชนชั้นกลางซึ่งประกอบด้วยกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจ นายธนาคาร และกลุ่มผู้มีการศึกษา
# สันตะปาปาในระยะศตวรรษที่ 15-16 ให้ความสำคัญในการประกอบภารกิจทางศาสนาน้อยมาก มีการหมกมุ่นในทางโลกและละเลยหน้าที่รับผิดชอบทางธรรมและพระวินัย มีการขายใบไถ่บาป (Sale of Indulgence) และการบูชา[[เรลิก]]ของนักบุญอย่างงมงาย มีการซื้อขายตำแหน่งสมณศักดิ์ มีการอุดหนุนบุคคลในครอบครัวให้ได้รับตำแหน่งสำคัญใน[[ศาสนา]] เช่น [[สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6]] (ค.ศ. 1492-1503) แห่งสกุลเบอร์เจีย พยายามจะสร้างฐานะมั่นคงทางโลก และทรัพย์สินแก่ลูกชายลูกสาวอย่างลับ ๆ โดยลูกชายคนสำคัญคือ ซีซาเร เบอร์เจีย (ค.ศ. 1476-1507) และให้เมียลับแต่งตัวเป็นชายร่วมขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติของพระองค์
# ในสภา[[สังคายนาแห่งคอนสแตนซ์]] (The Constance Council) ค.ศ. 1417 ภายในการนำของจักรพรรดิซิกิสมุนด์ (Sigismund ค.ศ. 1410-1437) เปิดเผยหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าเอกสาร "บรรณาการของคอนสแตนติน" เป็นเอกสารปลอมที่สถาบันสันตะปาปาจัดทำขึ้นในศตวรรษที่ 8 ทำให้อำนาจของคริสตจักรยิ่งเสื่อมและสูญเสียความนิยม มีกลุ่มคนเช่น จอห์น วิคลิฟฟ์ (John Wyclyffe ค.ศ. 1320-1384) [[ยาน ฮุส]] (Jan Hus ค.ศ. 1369-1415) และ เวสเซล (Wessl ค.ศ. 1420-1489) โจมตีคริสตจักรจากภายในเพื่อรื้อฟื้นให้คริสตจักรกลับเป็นผู้เผยแพร่คำสอนที่แท้จริง ซึ่งถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่มีผลที่ทำให้คนในยุโรปในศตวรรษที่ 15 กล้าก้าวออกมาจากความงมงายของคำสอนที่แหลกเหลว และเคร่งครัดในยุคกลาง ตลอดจนการทำลายบทบาทของคริสตจักร ในฐานะอุปสรรคสำคัญของความก้าวหน้าทางด้านศิลปะวิทยาการ และความคิดที่มีเหตุผล
 
บรรทัด 23:
== จุดเริ่มต้นขบวนการปฏิรูปศาสนา ==
 
# ผลงานวิทยานิพนธ์ “เทวนคร” (City of God) ของ[[ออกัสตินแห่งฮิปโป]] ที่เป็นแรงบันดาลใจในหมู่นักปฏิรูป
# ขบวนการฮุสไซต์ (The Hussites) กลุ่มผู้ติดตาม[[ยัน ฮุส]] (Jan Hus) ชื่อหลักการ Utraquism คือ ฆราวาสมีสิทธิเช่นเดียวกับสงฆ์ในพิธีรับศีลมหาสนิท ที่จะรับทั้งขนมปังและเหล้า โดยในสมัยนั้นฆราวาสจะรับได้เพียงขนมปังและน้ำเท่านั้น ซึ่งเบื้องหลังคือการกดดันให้สถาบันสันตะปาปา และคณะกรรมาธิการศาสนา (Council Authority) ยอมรับว่าทั้งบรรพชิตและฆราวาสนั้นเท่าเทียมกัน และพระคัมภีร์เท่านั้นที่มีอำนาจสูงสุดในศาสนกิจ โดยภายหลังการปฏิรูปศาสนากลุ่มฮุสไซต์ได้เข้ารวมกับพวกติดตามลูเทอร์
# ขบวนการลอล์ลาร์ด (The Lollard Movement) ของจอห์น วิคลิฟฟ์ (John Wycliffe) ที่เน้นการปรับปรุงศาสนาให้เข้ากับความต้องการของสามัญชน เน้นการเทศนาสั่งสอนมากกว่าการรับศีล ต่อต้านการสารภาพบาป การสวดมนต์ให้แก่ผู้สิ้นชีวิตแล้ว การเดินทางไปจาริกแสวงบุญ การเชื่อเครื่องรางของขลัง และเริ่มการใช้คัมภีร์ไบเบิลที่แปลเป็นภาษาพื้นเมือง เพื่อให้ชาวบ้านได้ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยตนเองแทนการพึ่งพิงพระที่ใช้พระคัมภีร์ภาษาละติน โดยขบวนการลอล์ลาร์ดนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการปฏิรูปศาสนาระยะแรกภายใต้มาร์ติน ลูเทอร์
บรรทัด 43:
== ดูเพิ่ม ==
* [[การปฏิรูปศาสนา]]
* นิกาย[[โปรเตสแตนต์]]
* [[การปฏิรูปสถาบันศาสนาคริสต์]]
* [[การปฏิรูปคาทอลิก]]
 
{{ประวัติศาสตร์ยุโรป}}
 
[[หมวดหมู่:ศาสนาคริสต์]]
[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์ยุโรป]]
[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์]]