ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เบเกอรี่มิวสิค"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 91:
 
=== ช่วงมรสุมทางเศษฐกิจ (พ.ศ. 2541-2542) ===
ความมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของเบเกอรี่มิวสิคนอกจากจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการเพลงดังที่กล่าวไปแล้วยังส่งผลให้ระบบการทํางานทำงานของเบเกอรี่มิวสิคต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
 
ความขัดแย้งระหว่างการให้น้าหนักระหว่าง “ศิลปะ” และ “ธุรกิจ” ทำให้สาลินี ปันยารชุน หนึ่งในผู้ก่อตั้งเบเกอรี่มิวสิคลาออกและถอนหุ้น ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในขณะนั้นจนรัฐบาลต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาทใน ปี พ.ศ. 2540
ส่งผลให้ค่ายเพลงจำนวนมากปิดตัวไป ด้วยแนวคิดของเบเกอรี่มิวสิคที่ให้ความสําคัญสำคัญของศิลปะมากกว่าธุรกิจมาตั้งแต่ต้น จึงทำให้ไม่สามารถต้านทานกระแสเศรษฐกิจตกตํ่าได้ ท้ายที่สุดเบเกอรี่มิวสิคมีบัญชีติดลบถึง 60 ล้านบาท
 
=== ช่วงร่วมทุนกับบริษัท BMG (พ.ศ. 2543-2547) ===
 
วิธีการแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของเบเกอรี่มิวสิค คือการหาบริษัทใหญ่มาร่วมทุนนั่นก็คือบริษัท BMG ซึ่งเป็นค่ายเพลงระดับโลกในปี พ.ศ. 2543 บริษัท BMG เป็นบริษัทสาขาของ กลุ่ม Bertsmann ซี่งดําเนินงดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโรงพิมพ์ในประเทศเยอรมันมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาพัฒนาเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีแนวทางการทาธุรกิจโดยการร่วมทุนกับบริษัทต่างๆ บริษัท BMG หรือในชื่อเต็มว่า Bertelsmann Music Group เป็นบริษัทสาขาของ Bertsmann ที่ดําเนินดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องดนตรีโดยเฉพาะ สํานักงานสำนักงานใหญ่ของ BMG อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาและมีสํานักงานสำนักงานย่อยใน 25 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย เบเกอรี่มิวสิคจึงจำเป็นต้องปรับวิธีการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น รวมไปถึงการลดขนาดองค์กรเพื่อประคับประคองบริษัทให้อยู่รอด
 
=== ช่วงค่ายเพลง[[เลิฟอีส]] (พ.ศ. 2548-ปัจจุบัน) ===