ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บะซเว"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 36:
หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง บะซเวได้ร่วมมือกับผู้นำสันนิบาตฯ คนอื่นกำจัดกลุ่มของ[[พรรคคอมมิวนิสต์พม่า]]ออกไปจากพรรคได้สำเร็จ บะซเวยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นหลังการเสียชีวิตของออง ซาน เมื่อพม่าได้รับเอกราชและ[[อู้นุ]]เป็นนายกรัฐมนตรี บะซเวได้ผลักดันให้ลัทธิสังคมนิยมเป็นแนวทางทางเศรษฐกิจของพม่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดความขัดแย้งในรัฐบาลมากขึ้นระหว่างกลุ่มของทินและอู้นุ กับกลุ่มของบะซเวและ[[จอเญ่น]]
 
บะซเวได้เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสั้น ๆ ระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2499 จนถึง เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ซึ่งเป็นช่วงที่อู้นุ ลาอุปสมบทนุลาอุปสมบท เมื่อลาสิกขาแล้ว อู้นุจึงมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่ความขัดแย้งก็ยังไม่สิ้นสุด จนอู้นุตัดสินใจลาออกใน พ.ศ. 2501 และให้นายพลเนวีนเอก [[เนวี่น]] เข้ามาเป็นรัฐบาลรักษาการ จนมีการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2503 กลุ่มของบะซเวและจอเญ่นใช้ชื่อว่าสันนิบาตเสรีชนฯ ฝ่ายมั่นคง ({{my|တည်မြဲဖဆပလ, ''Ti myè hpa hsa pa la''}}) ส่วนกลุ่มของอู้นุที่เคยใช้ชื่อว่าสันนิบาตเสรีชนฯ ฝ่ายสะอาด ({{my|သန့်ရှင်းဖဆပလ, ''Thant shin hpa hsa pa la''}}) ได้จัดตั้งพรรคใหม่ชื่อว่าพรรคสหภาพ ({{my|ပြည်ထောင်စုပါတီ, ''Pyidaungsu''}}) พรรคของอู้นุชนะการเลือกตั้ง <ref name="ms">{{cite book|author=Martin Smith|year=1991|title=Burma – Insurgency and the Politics of Ethnicity|publisher=Zed Books|location=London and New Jersey|pages=54,57,163,176,178,186}}</ref> ส่วนบะซเวและจอเญ่นไม่ได้รับเลือกตั้ง อู้นุจึงได้จัดตั้งรัฐบาลอีก แต่เพราะทหารไม่พอใจนโยบายผ่อนปรนให้ชนกลุ่มน้อย ชาวพม่าและชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้นับถือ[[ศาสนาพุทธ]]ก็ไม่พอใจที่อู้นุประกาศให้พุทธศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ทำให้นายพลเนวีนเอก เนวี่น ก่อการรัฐประหารในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 บะซเวที่แม้จะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอู้นุและสนับสนุนฝ่ายทหารกลับถูกรัฐบาลทหารคุมขังอยู่จนถึง พ.ศ. 2509 จึงได้รับการปล่อยตัว และถึงแก่กรรมเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2530 รวมอายุได้ 72 ปี
 
== อ้างอิง ==
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/บะซเว"