ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สงครามพิวนิกครั้งที่สาม"

จุดเริ่มต้นของสงครามมาจากสนธิสัญญายุติ[[สงครามพิวนิกครั้งที่สอง]] คาร์เธจต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามและห้ามทำสงครามโดยปราศจากการยินยอมจากโรม ในปี 151 ก่อนคริสตกาล คาร์เธจจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจนครบและมองว่าตนพ้นจากสนธิสัญญานี้แล้ว<ref name=French>{{cite book|last=French|first=Peter|title=War and Moral Dissonance|year=2010|publisher=Cambridge University Press|location=Cambridge, UK|isbn=0521169038|pages=302–303}}</ref> ในปีเดียวกัน ชาวนูมิเดียล้อมเมืองโอรอสโคปาของคาร์เธจ ทำให้คาร์เธจต้องยกทัพไปปราบ โรมมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นการละเมิดสนธิสัญญาและประกาศสงครามในปี 149 ก่อนคริสตกาล<ref>{{cite web|url=https://www.history.com/topics/ancient-history/punic-wars|title=Punic Wars - Ancient History|website=HISTORY.com|accessdate=July 31, 2018}}</ref> คาร์เธจพยายามขอเจรจาแต่ภายหลังปฏิเสธเมื่อกงสุลโรมันสั่งให้ชาวเมืองวางอาวุธและย้ายออกจากเมืองคาร์เธจ ก่อนที่เมืองจะถูกเผา ในช่วงแรกโรมล้มเหลวในการบุกเมืองคาร์เธจ แต่การยึดเมืองเนฟาริส ทางตอนใต้ของคาร์เธจทำให้ทหารคาร์เธจเสียขวัญ ชาวคาร์เธจสามารถยันทัพโรมันไว้ได้ถึงปี 146 ก่อนคริสตกาล ก่อนทัพโรมันจะบุกเข้าเมืองได้สำเร็จ เมืองคาร์เธจถูกเผา ส่วนชาวเมืองหลายแสนคนถูกฆ่าและขายเป็นทาส โรมผนวกคาร์เธจเป็น[[แอฟริกา (มณฑลของโรมัน)|จังหวัดแอฟริกา]]<ref>{{cite web|url=https://www.ancient.eu/Third_Punic_War/|title=Third Punic War|author=Mark Cartwright|website=Ancient History Encyclopedia|date=May 31, 2016|accessdate=July 31, 2018}}</ref> เมืองคาร์เธจกลายเป็นเมืองร้างจนกระทั่ง[[จูเลียส ซีซาร์]]สร้างบูรณะเมืองนี้ขึ้นใหม่ในอีกหนึ่งศตวรรษต่อมา<ref>{{cite web|url=https://erenow.com/ancient/carthagemustbedestroyed/83.html|title=A New Heracles and A New Carthage|website=Erenow|accessdate=July 31, 2018}}</ref>