ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรมป่าไม้"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 38:
การทำป่าไม้ของประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นในสมัยที่มีการริเริ่มทำ [[สัก|ป่าไม้สัก]] เป็นสินค้าทางภาคเหนือ โดยป่าสักที่มีความสำคัญ จะอยู่ในเขต 5 นคร ได้แก่ [[นครเชียงใหม่]], [[ลำพูน]], [[ลำปาง]], [[แพร่]], และ [[น่าน]] โดยมีเจ้าผู้ครองนครคอยควบคุม โดยที่ผู้จะทำป่าไม้ในเขตนั้น จะต้องเสียเงิน '''''ค่าตอไม้''''' ตามจำนวนต้นที่จะตัด นอกจากนั้น เจ้าผู้ครองนครจะยกป่าใดในท้องที่ ให้แก่ผู้ใดก็ได้ และเมื่อ เจ้าของป่าถึงแก่กรรมลง ป่าไม้นั้นก็จะเป็นทรัพย์สินอยู่ในกองมรดกด้วย ซึ่งไม่ได้มีการควบคุมการทำไม้ในทางวิชาการเลย เช่น การกำหนด จำนวนไม้ที่จะให้ตัดแต่ละครั้ง ขนาด ช่วงเวลาในการจะตัดออกที่ไม่มีความชัดเจน ทำให้ในเวลาต่อมา การอนุญาตทำป่าไม้ มีความไม่ชอบมาพากล และ เกิดกรณีพิพาท จนมีคำร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก<ref name=":0">http://www.forest.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=404&Itemid=408 '''ประวัติกรมป่าไม้โดยสังเขป - กรมป่าไม้'''</ref>
ทำให้ต้องมีการตรา '''''พระราชบัญญัติ สำหรับผู้รักษาเมืองซึ่งจะทำสัญญากับชาวต่างประเทศ จุลศักราช 1236 (พ.ศ. 2417)''''' โดยมีสาระสำคัญคือการทำป่าไม้ ระหว่างเจ้าเมือง หรือ ผู้ครองนคร กับชาวต่างประเทศนั้นจะต้องได้รับ สัตยาบันจากทาง กรุงเทพฯ ก่อน จึงจะมีผลใชับังคับได้ และ ห้ามไม่ให้เจ้าเมือง หรือ ผู้ครองนคร ออกใบอนุญาตแก่บุคคลเกินกว่า 1 คน ตามสัญญาทางพระราชไมตรีอังกฤษ เมื่อปี 2426 จึงได้ให้ความสำคัญในการควบคุมการทำป่าไม้ ทำให้ [[กระทรวงมหาดไทย (ประเทศไทย)|กระทรวงมหาดไทย]] ได้ว่าจ้าง Mr.Castensjold ชาวเดนมาร์กไปสำรวจการทำป่าไม้สักทางภาคเหนือ<ref name=":0" />
ต่อมาในปี 2438 รัฐบาลบริติชราชได้ให้ความช่วยเหลือในการส่งผู้ชำนาญการป่าไม้ โดยส่ง Mr. H. Slade มาสำรวจการทำป่าไม้ ในภาคเหนือ และได้ทำรายงานผลการสำรวจป่าไม้ ต่อกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2438 โดยในเวลานั้น ได้มีการชี้แจงข้อบกพร่องการทำป่าไม้ของไทยในเวลานั้น 2 ประการคือ<ref name=":0" />
1. กิจการป่าไม้ทั้งหมดที่มีในเวลานั้น อยู่ในการครอบครองของเจ้าผู้ครองนคร ซึ่งทำให้ ทางส่วนกลาง ไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการ หรือ ควบคุม การทำป่าไม้ ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องสัมปทานป่าไม้ ที่ยังมีปัญหาที่ว่า เมื่อเจ้าของสัมปทานเดิม หมดสัญญา ก็ยัง
2. ในช่วงต้น ที่มีการสำรวจป่าไม้สัก เพื่อกำหนดจำนวนไม้ที่อนุญาตให้ตัดฟัน และ เสนอให้ควบคุมการตัดไม้สักเพื่อใช้สอย โดยเสนอให้ใช้ไม้กระยาเลยแทน ต่อมาจึงได้พบอีกว่า ประชาชนได้ตัดต้นสักขนาดเล็กเพื่อใช้สอยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเกินกำลังการทำป่าไม้ ซึ่งมีผลต่อทรัพยากรป่าไม้อย่างยิ่ง ซึ่งสถานการณ์ป่าไม้สักขณะนั้น ได้มีการตัดฟันไม้สักเกินกำลังป่า ถึงประมาณ 3 เท่าครึ่ง
|