ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฟซบุ๊ก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 7383449 สร้างโดย 223.206.181.23 (พูดคุย)
บรรทัด 75:
{{บทความหลัก|เฟซบุ๊ก (บริษัท)}}
[[ไฟล์:Most popular social networking sites by country.svg|thumb|300px|บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมในแต่ละประเทศ{{legend|#3b5998|เฟซบุ๊ก}}{{legend|#5ea9dd|[[ทวิตเตอร์]]}}{{legend|#965220|[[VK (social networking)|VKontakte]]}}{{legend|#de2910|[[Qzone|QZone]]}}{{legend|#f2720c|[[Odnoklassniki]]}}{{legend|#229340|Facenama}}{{legend|#e0e0e0|no data}}]]
รายได้ส่วนมากของเฟซบุ๊กมาจากการโฆษณา โดย[[ไมโครซอฟท์]]เป็นผู้ร่วมหุ้นพิเศษในด้านการบริการแบนเนอร์โฆษณาละ<ref>{{cite web|title=Product Overview FAQ: Facebook Ads|url=http://www.facebook.com/press/faq.php#Facebook+Ads|publisher=Facebook|accessdate=2008-03-10}}{{ลิงก์เสีย|date=สิงหาคม 2553}}</ref> และเฟซบุ๊กให้มีการโฆษณาเฉพาะที่อยู่ในรายการลูกค้าของไมโครซอฟท์ และจากข้อมูลของคอมสกอร์ บริษัทสำรวจการตลาดทางอินเทอร์เน็ต ระบุว่า เฟซบุ๊กได้รวบรวมข้อมูลเข้าเว็บไซต์มากกว่า [[กูเกิล]]และไมโครซอฟท์ แต่น้อยกว่า [[ยาฮู!]]<ref>{{cite news|author=Story, Louise|title=To Aim Ads, Web Is Keeping Closer Eye on You|url=http://www.nytimes.com/2008/03/10/technology/10privacy.html|work=The New York Times|date=2008-03-10|accessdate=2008-03-09}}</ref> ในปี ค.ศ. 2010 ทีมระบบความปลอดภัยได้เพิ่มประโยชน์จากการต่อต้านภัยคุกคามและก่อการร้ายจากผู้ใช้<ref name="revealed">{{cite web|title=Revealed: Which social networks pose the biggest risk?|url=http://www.sophos.com/blogs/gc/g/2010/02/01/revealed-social-networks-pose-biggest-risk/|publisher=[[Sophos]]|last=Cluley|first=Graham|date=February 1, 2010|accessdate=July 12, 2010}}</ref> เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 เฟซบุ๊กได้เปิดตัว [[เฟซบุ๊กบีคอน]] เป็นการพยายามในการโฆษณาให้เหล่าเพื่อน โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เพื่อนซื้อ แต่เฟซบุ๊กบีคอนก็เกิดความล้มเหลว
 
โดยปกติแล้ว เฟซบุ๊กจะมี[[อัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณา]] (clickthrough rate) ต่ำกว่าเว็บไซต์ใหญ่ ๆ อื่น ที่ในแบนเนอร์โฆษณา เฟซบุ๊กจะมีอัตราการคลิก 1 ต่อ 5 เทียบกับเว็บไซต์อื่น<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.businessweek.com/technology/content/nov2007/tc20071128_366355_page_2.htm |title=Facebook May Revamp Beacon |work=BusinessWeek |date=2007-11-28 }}</ref> นั่นหมายถึงว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะกดคลิกโฆษณา ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้กูเกิลคลิกโฆษณาแรกในการค้นหาเฉลี่ย 8% (80,000 คลิกในทุก 1 ล้านการค้นหา) <ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.accuracast.com/seo-weekly/adwords-clickthrough.php |title=Google AdWords Click Through Rates Per Position |publisher=AccuraCast |date=2009-10-09 }}</ref> แต่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะคลิกโฆษณาในอัตรา 0.04% (400 คลิกในทุก 1 ล้านหน้า) <ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://valleywag.gawker.com/242234/facebook-consistently-the-worst-performing-site |title=Facebook 'consistently the worst performing site' |publisher=Gawker |date=2007-03-07 |author=Denton, Nick }}</ref>
 
แซราห์ สมิท ผู้จัดการบริการงานขายออนไลน์ของเฟซบุ๊ก ยืนยันว่า การรณรงค์โฆษณาประสบความสำเร็จ สามารถมีอัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณา (CTR) ต่ำอยู่ราว 0.05% ถึง 0.04% แต่อัตราการคลิกโฆษณาต่อการการแสดงโฆษณาสำหรับโฆษณามีแนวโน้มจะตกลงภายใน 2 อาทิตย์<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://techpulse360.com/2009/08/12/facebook-says-its-click-through-rates-do-not-match-those-at-google/ |title=Facebook Says Click Through Rates Do Not Match Those At Google |publisher=TechPulse 360 |date=2009-08-12 }}</ref> เมื่อเปรียบเทียบ CTR กับ[[มายสเปซ]]แล้ว มียอดประมาณ 0.1% ซึ่งเป็น 2.5 เท่าของเฟซบุ๊ก และต่ำกว่านี้เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น คำอธิบายเรื่อง CTR สำหรับโฆษณาที่ต่ำในเฟซบุ๊กเนื่องจาก ข้อเท็จจริงที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นผู้รอบรู้ทางเทคโนโลยีและใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันและซ้อนโฆษณา ผู้ใช้มักเป็นคนหนุ่มสาวกว่าและชอบที่จะหลีกเลี่ยงข้อความโฆษณา ที่ในมายสเปซแล้วผู้ใช้จะเข้าถึงเนื้อหามากกว่า ในขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะใช้เวลาในการสื่อสารกับเพื่อน เป็นเหตุให้พวกเขาไปสนใจโฆษณา<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.bizreport.com/2007/07/advertisers_disappointed_with_facebooks_ctr.html |title=Advertisers disappointed with Facebook's CTR |publisher=BizReport |date=2007-07-16 |author=Leggatt, Helen }}</ref>
 
ในหน้าของตราสินค้าและผลิตภัณฑ์ ในบางบริษัทมีรายงานว่า มี CTR สูงถึง 6.49% ในหน้าวอล<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://adage.com/digitalnext/post?article_id=138442 |title=Facebook's Click-Through Rates Flourish ... for Wall Posts |work=AdAge |date=2009-08-13 |author=Klaassen, Abbey }}</ref> อินโวลเวอร์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตลาดสังคม ประกาศว่า ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 ว่าสามารถบรรลุเป้า CTR ที่ 0.7% ในเฟซบุ๊ก (เป็น 10 เท่าของ CTR การโฆษณาในเฟซบุ๊ก) กับลูกค้าคือ [[เซเรนาซอฟต์แวร์]] ถือเป็นลูกค้ารายแรกของอินโวเวอร์ ที่สามารถมีผู้ชม 1.1 ล้านครั้งจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ 8,000 คน<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.prweb.com/releases/2008/07/prweb1162804.htm |title=Involver Delivers Over 10x the Typical Click-Through Rate for Facebook Ad Campaigns |publisher=Press release |date=2008-07-31 }}</ref> จากการศึกษาพบว่า วิดีโอโฆษณาในเฟซบุ๊กนั้น ผู้ใช้ 40% ดูวิดีโอทั้งหมดของวิดีโอ ขณะที่ค่าเฉลี่ยมาตรฐานอยู่ที่ 25% ของโฆษณาแบบ[[แบนเนอร์]]ในวิดีโอ<ref>{{cite web |accessdate=2010-07-18 |url=http://www.mediapost.com/publications/?fa=Articles.showArticle&art_aid=130217 |title=Study: Video Ads On Facebook More Engaging Than Outside Sites |work=MediaPost |date=2010-06-15 |author=Walsh, Mark }}</ref>
เฟซบุ๊กมีลูกจ้างมากกว่า 1,700 คน และมีสำนักงานใน 12 ประเทศ โดย[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]]ถือหุ้นของบริษัท 24% แอ็กเซล พาร์ตเนอร์ถือหุ้น 10% ดิจิตอลสกายเทคโนโลยีส์ถือหุ้นดัสติน มอสโควิตซ์ถือหุ้น 6% เอ็ดวาร์โด ซาเวรินถือหุ้น 5% ฌอน พาร์กเกอร์ถือหุ้น 4% ปีเตอร์ ธีลถือหุ้น 3% เกรย์ล็อกพาร์ตเนอร์สและเมริเทคแคพิทอลพาร์ตเนอร์ส ถือหุ้นระหว่าง 1 ถึง 2% แต่ละบริษัท ไมโครซอฟท์ถือหุ้น 1.3% ลิ คา-ชิงถือหุ้น 0.75% อินเตอร์พับลิกกรุปถือหุ้นน้อยกว่า 0.5% นอกจากนั้นยังมีลูกจ้างปัจจุบันและอดีตลูกจ้างรวมถึงผู้มีชื่อเสียงอื่นถือหุ้นอีกน้อยกว่า 1% เช่น แมต โคห์เลอร์, เจฟฟ์ รอทส์ไชลด์, วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย บาร์บารา บอกเซอร์, คริส ฮิวส์ และโอเวน แวน แนตตา ขณะที่รีด ฮอฟแมนและมาร์ก พินคัสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และที่เหลืออีก 30% ถือหุ้นโดยลูกจ้าง ผู้มีชื่อเสียงไม่เปิดเผยชื่ออีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงนักลงทุนอื่น แอดัม ดี'แองเจโล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและเพื่อนของซักเคอร์เบิร์กได้ลาออกไปในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 มีรายงานอ้างว่าเขาและซักเคอร์เบิร์กเริ่มไม่ลงรอยกัน และเป็นเหตุให้เขาไม่มีความสนใจในการเป็นหุ้นส่วนของบริษัท
 
เฟซบุ๊กมีลูกจ้างมากกว่า 1,700 คน และมีสำนักงานใน 12 ประเทศ<ref>{{cite web|title=Facebook Factsheet|url=http://www.facebook.com/press/info.php?factsheet|accessdate=November 21, 2010}}</ref> โดย[[มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก]]ถือหุ้นของบริษัท 24% แอ็กเซล พาร์ตเนอร์ถือหุ้น 10% ดิจิตอลสกายเทคโนโลยีส์ถือหุ้นดัสตินโลยีส์ถือหุ้น 10%<ref>{{cite news|title=Facebook's friend in Russia|url=http://tech.fortune.cnn.com/2010/10/04/facebooks-friend-in-russia/?source=cnn_bin&hpt=Sbin|accessdate=December 18, 2010 | work=CNN|date=2010-10-04}}</ref> ดัสติน มอสโควิตซ์ถือหุ้น 6% เอ็ดวาร์โด ซาเวรินถือหุ้น 5% ฌอน พาร์กเกอร์ถือหุ้น 4% ปีเตอร์ ธีลถือหุ้น 3% เกรย์ล็อกพาร์ตเนอร์สและเมริเทคแคพิทอลพาร์ตเนอร์ส ถือหุ้นระหว่าง 1 ถึง 2% แต่ละบริษัท ไมโครซอฟท์ถือหุ้น 1.3% ลิ คา-ชิงถือหุ้น 0.75% อินเตอร์พับลิกกรุปถือหุ้นน้อยกว่า 0.5% นอกจากนั้นยังมีลูกจ้างปัจจุบันและอดีตลูกจ้างรวมถึงผู้มีชื่อเสียงอื่นถือหุ้นอีกน้อยกว่า 1% เช่น แมต โคห์เลอร์, เจฟฟ์ รอทส์ไชลด์, วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย บาร์บารา บอกเซอร์, คริส ฮิวส์ และโอเวน แวน แนตตา ขณะที่รีด ฮอฟแมนและมาร์ก พินคัสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และที่เหลืออีก 30% ถือหุ้นโดยลูกจ้าง ผู้มีชื่อเสียงไม่เปิดเผยชื่ออีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงนักลงทุนอื่น<ref>{{cite book |title=The Facebook Effect |author=David Kirkpatrick |page=322 |isbn=1439102112 }}</ref> แอดัม ดี'แองเจโล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและเพื่อนของซักเคอร์เบิร์กได้ลาออกไปในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 มีรายงานอ้างว่าเขาและซักเคอร์เบิร์กเริ่มไม่ลงรอยกัน และเป็นเหตุให้เขาไม่มีความสนใจในการเป็นหุ้นส่วนของบริษัท<ref>{{cite web|title=As Facebook goes corporate, Mark Zuckerberg loses an early player|url=http://news.cnet.com/8301-13577_3-9941488-36.html|publisher=[[CNET.com]]|date=May 11, 2008|last=McCarthy|first=Caroline|accessdate=July 12, 2010}}</ref>
 
== การตอบรับ ==