ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 29:
ในปี 1935 กระทรวงกลาโหมถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงการสงคราม และได้ควบตำแหน่งผู้บัญชาการ[[เวร์มัคท์]] และในปี 1936 บลอมแบร์กเป็นนายทหารคนแรกที่ฮิตเลอร์แต่งตั้งให้เป็นจอมพล อย่างไรก็ตาม ในปี 1937 เขาเป็นหนึ่งในนายทหารไม่กี่คนที่วิจารณ์แผนการทำสงครามฮิตเลอร์ว่าไม่ควรจะเลยไปจากปี 1942 ทำให้ฮิตเลอร์เริ่มไม่พอใจในตัวบลอมแบร์ก ซึ่งทำให้สองคนสนิทของฮิตเลอร์อย่าง [[แฮร์มันน์ เกอริง]] ซึ่งเป็นผู้บัญชาการ[[ลุฟท์วัฟเฟอ]] กับ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]] ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย[[ชุทซ์ชทัฟเฟิล|เอ็สเอ็ส]]และตำรวจเยอรมัน ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อขจัดบลอมแบร์กให้พ้นทาง ในงานแต่งของบลอมแบร์กกับแฟนสาว เกอริงได้บอกกับฮิตเลอร์ในงานแต่งว่า แฟนสาวของบลอมแบร์กและมารดาของเธอนั้นมีประวัติเป็นหญิงขายบริการ ฮิตเลอร์บลอมแบร์กล้มเลิกการแต่งงานเพื่อรักษาหน้าของกองทัพ บลอมแบร์กปฏิเสธที่จะหย่ากับเธอ เกอริงจึงปูดประวัติของภรรยาบลอมแบร์กให้สาธารณะรับรู้ บลอมแบร์กถูกกดดันให้ลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ และฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งเกอริงให้เป็นผู้บัญชาการทหารทั้งหมดในไรช์ในปี 1938
 
หลังลาออก บลอมแบร์กได้ไปฮันนีมูนกับภรรยาใหม่ที่เกาะ[[กาปรี]]ในอิตาลี แต่พลเรือเอก[[เอแอริช แรดแรเดอร์]] มองว่าบลอมแบร์กควรจะฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการชดใช้การแต่งงานของเขา แรดเดอร์ส่งผู้พันวันเกนไฮม์ (Wangenheim) ไปอิตาลีเพื่อกดดันให้บลอมแบร์กฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ วันเกนไฮม์ถึงขนาดยัดปืนใส่มือของบลอมแบร์กแต่บลอมแบร์กก็ปฏิเสธที่จะฆ่าตัวตายและขอใช้ชีวิตอย่างสงบ<ref>Shirer, William ''The Rise and Fall of the Third Reich'', New York: Simon & Schuster, 1960, p. 314.</ref>
 
ปลาย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ในปี 1945 บลอมแบร์กถูกควบคุมตัวโดยกองกำลัง[[ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง|ฝ่ายสัมพันธมิตร]] เขาร่วมให้การใน[[การพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก]]ในฐานะพยานซึ่งทำให้ถูกอดีตนายพลเพื่อนร่วมงานที่ตกเป็นจำเลยดูถูกเหยียดหยามนอกจากนี้ยังถูกภรรยาบอกเลิก ระหว่างที่ถูกกักบริเวณใน[[เนือร์นแบร์ก]]นั้นสุขภาพเขาก็ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว เขาตรวจพบ[[มะเร็งลำไส้ใหญ่]]ในเดือนกุมภาพันธ์ 1946{{sfn|Schäfer|2006|pp=200, 206-7}} และเสียชีวิตในวันที่ 14 มีนาคม 1946 ร่างของเขาถูกฌาปนกิจโดยไม่มีพิธีใดๆที่ชานเมืองเนือร์นแบร์ก ต่อมาได้มีการขุดเถ้าของเขาและนำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านของเขาในเมืองบัดวีซเซ (Bad Wiessee)
 
==อ้างอิง==