ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แบล็กอายด์พีส์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Whitetissue (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 48:
ปี 1989 วิลเลี่ยม อดัมส์ หรือ [[วิล.ไอ.แอม]] (William Adams / will.i.am) และอัลเลน พิเนดา หรือ แอพเพิล.ดี.แอป (Allen Pineda / apl.de.ap) รู้จักกันและเริ่มร้องเพลงแร็ปออกโชว์ด้วยกันใน[[ลอสแอนเจลิส]] ทั้งคู่เซ็นสัญญากับค่ายรูธเลส (Ruthless Records) ที่บริหารงานโดยอีซี-อี (Eazy-E) โดยใช้ชื่อวงว่า แอทบัน คลานน์ (Atban Klann)<ref>[http://www.allmusic.com/artist/black-eyed-peas-p302855 Black Eyed Peas] allmusic.com</ref> แต่อัลบั้มแรกของพวกเขาไม่ได้ออก เพราะทางค่ายเพลงไม่คิดว่าการสื่อความหมายในแนวบวกของเพลงในอัลบั้มนี้จะได้รับความนิยม
ปี 1995 Eazy-E เสียชีวิตด้วยโรค[[เอดส์]] วง Atban Klann ก็กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งภายใต้ชื่อวงแบล็กอายด์พีส์ (Black Eyed Peas) โดย will.i.am ได้ให้เหตุผลบนปกของอัลบั้ม ''[[มังกีบิสซิเนส]]'' (''Monkey Business'') ถึงการตั้งชื่อวงนี้ว่า "เป็นอาหารสำหรับจิตใจ" พวกเขาพาไฮเม โกเมซ หรือ ทาบู (Jaime Gomez / Taboo) เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่สามและมีคิม ฮิลล์ (Kim Hill) เป็นนักร้องแบ็คอัพให้ แบล็กอายด์พีส์ไม่เหมือนกับวงฮิปฮอปทั่ว ๆ ไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะแสดงสดและใช้เครื่องดนตรี รวมทั้งสไตล์การแต่งตัวก็ต่างจากศิลปินแร็ปแก็งสเตอร์อื่น ๆ ในแถบ
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 พวกเขาแสดงในคลับย่าน
แบล็กอายด์พีส์ประสบความสำเร็จสูงสุด ในปี 2003 กับอัลบั้มที่สาม ''[[เอเลฟังก์]]'' (''Elephunk'') ด้วยสถิติยอดจำหน่ายสูงกว่า 2 ล้านแผ่นทั่วโลก มีเพลงฮิตคือ ''Where is the Love?'', ''Hey Mama'', ''Let’s Get Retarded'' และ ''Shut Up'' ต่อมาดันเต ซานติเอโก อดีตสมาชิกวงแนะนำสเตซี แอน เฟอร์กูสัน หรือ [[เฟอร์กี้]] (Stacy Ann "Fergie" Ferguson / Fergie) เข้ามาเป็นนักร้องหญิงในวง ในปี 2005 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่สี่ชื่อ ''มังกีบิสซิเนส'' (''Monkey Business'') มีเพลงฮิตอย่าง ''My Humps'', ''Feel It'' และ ''Disco Club''
|