ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โยฮัน เซบัสทีอัน บัค"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20:
 
บาคศึกษาและวิเคราะห์โน้ตแผ่นของนักดนตรีที่มีชื่อเสียงด้วยความละเอียดรอบคอบ ความสนอกสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของเขามีมาก กระทั่งว่าเขายอมเดินเท้าไปหลายสิบกิโลเมตรเพื่อจะฟังการแสดงของนักดนตรีดัง เป็นต้นว่า[[จอร์จ โบห์ม]] [[โยฮันน์ อาดัม เรนเคน]] และ [[วินเซนต์ ลึบเบ็ค]] และแม้กระทั่ง [[ดีทริช บุกซ์เตฮูเด้]] ผู้ซึ่งโด่งดังกว่า มินิกิปปิ
รักจัง
 
=== อาร์นชตัดท์ ===
เส้น 28 ⟶ 27:
ตั้งแต่ปี[[พ.ศ. 2250]](ค.ศ.1707) ถึง [[พ.ศ. 2251]](ค.ศ.1708) เขาได้เป็นนักเล่น[[ออร์แกน]]ประจำเมือง[[มุห์ลโฮเซน]] บาคได้ประพันธ์เพลง[[แคนตาตา]]บทแรกขึ้น ซึ่งเป็นบทนำก่อนที่เขาจะเริ่มประพันธ์[[บทเพลงทางศาสนา]]อันยิ่งใหญ่อลังการ และเขายังได้ประพันธ์บทเพลงสำหรับบรรเลงด้วย[[ออร์แกน]]เพิ่มเติมด้วย อันเป็นผลงานที่ยืนยันถึงความอัจฉริยะ ความลึกซึ้ง และความงามอันบริสุทธิ์ของเขา ทำให้บาคกลายเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ในบรรดา[[บทเพลงทางศาสนา]]แล้ว ตลอดชั่วชีวิตของบาค เขาได้ใช้เวลากับการประพันธ์เพลง[[คันตาต้า]] ร่วมห้าปี หรือกว่าสามร้อยชิ้น ในบรรดาบทเพลงราวห้าสิบชิ้นที่สูญหายไปนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
 
=== ไวมาร์ ===
=== ตอนบาคไปเที่ยวปัตตานีแวะซื้อเหนี่ยวไก่ ===
ในระหว่างปี พ.ศ. 22582251 ถึง พ.ศ. 2559 ได้มาที่ปัตตานี เพื่อมาจับมือกับโจรใต้ แล้วแวะซื้อข้าวเหนี่ยวไก่ที หน้าเอ็สโซ แล้วได้ไปหาเพื่อนที บารา ชื่อลอง ไม่ได้เจอกันนาน แล้วสั่งของ ต่อมา บาคได้ไปเล่นดนตรีกลางถนน ซึ่งมีผู้คนมากมายไปขอถ่ายรูป ต่อมาได้ไปเยี่ยม เพื่อนที ล้านก๋วยเตี๋ยวเบิ้ม แล้วนั่งกินก๋วยเตี่ยวก่อนกลับ ประเทศบ้าานเกิด นะครรับ2260 บาคดำรงตำแหน่งนักเล่น[[ออร์แกน]] และนัก[[ไวโอลิน]]เดี่ยวมือหนึ่ง ประจำวิหารส่วนตัวของดยุคแห่งไวมาร์ ทำให้เขามีทั้ง[[ออร์แกน]] เครื่องดนตรีและนักร้องประจำวงในครอบครอง ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ผลงานของบาคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลงด้วย[[ออร์แกน]] [[คันตาต้า]] เพลงสำหรับ[[ฮาร์ปซิคอร์ด]] ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปรมาจารย์ทางดนตรีชาว[[ประเทศอิตาลี|อิตาเลียน]]ทั้งหลาย
 
=== เคอเท่น ===
เส้น 46 ⟶ 45:
ปรากฏการณ์นิยมแนวดนตรีใหม่นี้ก็เกิดกับ[[]]เช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อ[[บารอน]]ฟาน สวีเทน ผู้หลงใหลใน[[ดนตรีบาโรค]]และมีห้องสมุดส่วนตัวสะสมบทเพลงบาโรคไว้เป็นจำนวนมาก ได้ให้[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]ชมผลงานอันยิ่งใหญ่ของบาคบางส่วน ทำให้ความมีอคติต่อดนตรีบาโรคของ[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]นั้นถูกทำลายไปสิ้น จนถึงขั้นไม่สามารถประพันธ์ดนตรีได้ตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเขาสามารถยอมรับมรดกทางดนตรีของบาคได้แล้ว วิธีการประพันธ์ดนตรีของเขาก็เปลี่ยนไป ราวกับว่าบาคมาเติมเต็มรูปแบบทางดนตรีให้แก่เขา โดยที่ไม่ต้องละทิ้งรูปแบบส่วนตัวแต่อย่างใด ตัวอย่างผลงานของ[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]ที่ได้รับอิทธิพลของบาคก็เช่น ''"เพลงสวดศพ[[เรเควียม]]"'' ''"[[ซิมโฟนี]]จูปิเตอร์"'' ซึ่งท่อนที่สี่เป็น[[ฟิวก์]]ห้าเสียง ที่ประพันธ์ขึ้นโดยใช้[[เทคนิคการสอดประสานกันของท่วงทำนองต่างๆ]] รวมทั้งบางส่วนของ[[อุปรากร]]เรื่อง''"ขลุ่ยวิเศษ"''
 
[[ลุดวิจดวิก ฟาน เบโทเฟนเบโธเฟน]]รู้จักบทเพลงสำหรับ[[คลาวิคอร์ด]]ของบาคเป็นอย่างดี จนสามารถบรรเลงบทเพลงส่วนใหญ่ได้ขึ้นใจ ตั้งแต่วัยเด็ก
 
สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว ความเป็นอัจฉริยะของบาคไม่ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน จนกระทั่งใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] อันเนื่องมาจากความพยายามของ[[เฟลิกซ์ เม็นเดลโซห์น]] ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีที่โบสถ์เซนต์โธมัส แห่งเมือง[[ไลพ์ซิก]] นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผลงานของบาคที่ยืนยงคงกระพันต่อการเปลี่ยนแปลงของรสนิยมทางดนตรี ก็ได้กลายเป็นหลักอ้างอิงที่มิอาจหาผู้ใดเทียมทานได้ในบรรดาผลงาน[[ดนตรีตะวันตก]]