ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศตองงา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 88:
=== จักรวรรดิตูอีโตงา ===
[[ไฟล์:Tonga-Samoa-Fidschi.png|thumbnail|200px|left|อาณาเขตจักรวรรดิตูอีโตงา]]
ประมาณ [[ค.ศ. 950]] [[พระเจ้าอะโฮเออิตู|อะโฮเออิตู]]ได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็น[[ตูอีโตงา]]แห่ง[[จักรวรรดิตูอีโตงา]]พระองค์แรก<ref name="tu'i tonga">{{cite web|url=http://palaceoffice.gov.to/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=69&Itemid=82|title=Tu'i Tonga|publisher=Palace Office2013, Tonga|date=30 January 2014}}</ref> จักรวรรดิตูอีโตงาเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในรัชสมัย[[พระเจ้าโมโม]] [[พระเจ้าตูอิตาตูอิ]] และ[[พระเจ้าตาลาตามา]] ซึ่งพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ได้ขยายอาณาเขตของจักรวรรดิจนมีอาณาเขตครอบคลุมบางส่วนของ[[ฟีจี]] [[ซามัว]] [[โตเกเลา]] [[นีวเว]]และ[[หมู่เกาะคุก]]<ref name="tu'i tonga"/> บรรดาดินแดนในการปกครองเหล่านี้จะส่งบรรณาการที่เรียกว่า ''อีนาซี'' ซึ่งต้องส่งมาถวาย[[ตูอีโตงา]]ที่เมือง[[มูอา]]อันเป็นนครหลวงของจักรวรรดิทุกปีในฤดูเก็บเกี่ยว<ref> St. Cartmail, Keith (1997). The art of Tonga. Honolulu, Hawai'i: University of Hawai'i Press. p. 39. ISBN 0-8248-1972-1.</ref> อำนาจของจักรวรรดิตูอีโตงาเริ่มตกต่ำลงหลังจากเกิดเหตุลอบปลงพระชนม์ตูอีโตงาหลายพระองค์<ref>{{cite journal|url=http://www.jstor.org/pss/2842790|journal=The Journal of the Anthropological Institute of Great Britain and Ireland|title=Note Upon the Natives of Savage Island, or Niue|last=Thomson|first=Basil|volume=31|date=January 1901|page=137|publisher=Royal Anthropological Institute of Great Britain and Ireland}}</ref> ส่งผลให้ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 [[พระเจ้าเกาอูลูโฟนูอา]]ตูอีโตงาพระองค์ที่ 24 ตั้งพระอนุชาของพระองค์คือ[[พระเจ้าโมอูงาโมตูอา|เจ้าชายโมอูงาโมตูอา]]ขึ้นเป็น[[ตูอิฮาอะตากาเลาอา]]พระองค์แรก เพื่อช่วยเหลือตูอีโตงาในการปกครองจักรวรรดิ<ref>{{cite web|url=http://palaceoffice.gov.to/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=67&Itemid=80|title=Tu'i Ha'atakalaua|publisher=Palace Office2013, Tonga|date=30 January 2014}}</ref> และอีก 2 ศตวรรษต่อมาได้มีการตั้งราชวงศ์[[ตูอิกาโนกูโปลู]]ขึ้นเพื่อช่วยเหลืออีก 2 ราชวงศ์ในการปกครองจักรวรรดิ<ref name="Kanokupolu">{{cite web|url=http://palaceoffice.gov.to/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=68&Itemid=81|title=Tu'i Kanokupolu|publisher=Palace Office2013, Tonga|date=30 January 2014}}</ref> ซึ่งต่อมาตูอิกาโนกูโปลูสามารถก้าวขึ้นมาเป็นราชวงศ์ที่มีอิทธิพลแทนที่ตูอิฮาอะตากาเลาอาได้<ref name="Kanokupolu"/>
[[ไฟล์:Captainjamescookportrait.jpg|thumbnail|150px|กัปตัน[[เจมส์ คุก]]]]
ในยุคจักรวรรดิตูอีโตงานี้ มีนักสำรวจชาวยุโรปเดินทางเข้ามาหลายกลุ่ม โดยนักสำรวจที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกนั้นเป็นนักสำรวจ[[ชาวดัตช์]]ชื่อว่า[[ยา
ในช่วงปลายของจักรวรรดิเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างผู้นำตามเกาะต่าง ๆ ระหว่างกลุ่มที่นับถือศาสนาพื้นเมืองกับกลุ่มที่นับถือศาสนาคริสต์<ref name="common">{{cite web|url=http://thecommonwealth.org/our-member-countries/tonga/history|title=Tonga : History|publisher=The Commonwealth|date=31 January 2014}}</ref> สงครามกลางเมืองครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการลอบปลงพระชนม์[[ตูอิกาโนกูโปลู]][[พระเจ้าตูกูอาโฮ]]<ref>Ames J. Fox and Clifford Sather, Origins, Ancestry and Alliance: Explorations in Austronesian Ethnography (Canberra : ANU E Press, 2006)</ref> ในท้ายที่สุดตูอิกาโนกูโปลู[[พระเจ้าจอร์จ ตูปูที่ 1|เตาฟาอาเฮา]] ซึ่งเป็นกลุ่มที่นับถือศาสนาคริสต์ได้รับชัยชนะและรวมดินแดนที่แตกแยกเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันในปี ค.ศ. 1845<ref name="common"/>
|