ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 34:
| intl =
}}
[[ไฟล์:Voc.jpg|right|thumb|300px|อู่ต่อเรือบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ค.ศ. 1726 วาดโดย[[โจเซฟ มัลเดอร์]]]]
1726 วาดโดย [[Joseph Mulder]].]]
[[ไฟล์:Vereinigte Ostindische Compagnie bond.jpg|thumb|250px|ข้อผูกมัดออกโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในวันที่ [[7 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2165]] จำนวน 2,400 ฟลอริน]]
[[ไฟล์:NetherlandsEmpire.png|thumb|250px|[[จักรวรรดิอาณานิคมดัตช์|ดินแดนอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์]] ที่มีดินแดนในปกครองของบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์จะเป็นสีเขียวอ่อนซึ่งอยู่รายรอบ[[มหาสมุทรอินเดีย]] และ[[เกาะเซนต์เฮเลนา]]ในตอนกลาง[[มหาสมุทรแอตแลนติก]]]]
 
'''สหบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์''' (The Dutch East India Company หรือ[[ภาษาดัตช์]]ที่สะกดแบบเก่า {{lang-nl|Vereenigde OostindischeOost-Indische Compagnie}}) or VOC หมายถึง United East Indian Company แปลว่าหรือ ''"สหบริษัทอินเดียตะวันออก"'เฟโอเซ''' ({{lang|nl|VOC}}) ก่อตั้งในปี [[พ.ศ. 2145]] (ค.ศ. 1602) เมื่อรัฐสภาแห่งเนเธอร์แลนด์ (States-General of the Netherlands) มอบสิทธิขาดเป็นเวลา 21 ปีในการปฏิบัติงานกิจการอาณานิคมใน[[ทวีปเอเชีย]] นับว่าเป็นความร่วมมือของหลากหลายชาติครั้งแรกในโลกและเป็นบริษัทแรกที่ออก[[หุ้น]]<ref>http://www.exchange-handbook.co.uk/index.cfm?section=articles&action=detail&id=60613</ref>
 
== ประวัติ ==
{{บทความหลัก|บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในอินโดนีเซีย|ประวัติศาสตร์ทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ (ค.ศ. 2043–2358)}}
บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ถือกำเนิดขึ้นด้วยการร่วมทุนของพ่อค้าและนายธนาคารดัตช์ที่ไม่พอใจต่อการผูกขาดการค้าเครื่องเทศของโปรตุเกส ซึ่งครอบครองเส้นทางการเดินเรือสู่เอเชียและผลผลิตเครื่องเทศ บริษัทฯ อยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการใหญ่ 17 คน ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลดัตช์ให้มีอำนาจผูกขาดการค้าเครื่องเทศในตะวันออก รวมถึงให้สามารถยึดครองดินแดนโพ้นทะเลที่ไดก็ได้ตามที่บริษัท ฯ เห็นชอบ
 
===ภูมิหลัง===
{{Further|การค้าเครื่องเทศ}}
หลังก่อตั้งบริษัท ฯบริษัทฯ ไม่นาน กองเรือของบริษัทฯ สามารถกำจัดเรือโปรตุเกสและยึดดินแดน เมืองท่าที่โปรตุเกสครอบครองอยู่ในเอเชีย ตั้งแต่ ศรีลังกา มะละกา จากนั้นใน พ.ศ. 2162 ได้ตั้งสำนักงานใหญ่ในเอเชียตะวันออกที่เมือง[[จาการ์ตา]] ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น ปัตตาเวีย (Batavia) ตามชื่อเผ่าโบราณของชาวดัตช์ โปรตุเกสยังต้องสูญเสียหมู่เกาะเครื่องเทศหรือ [[โมลุกกะ]] (Moluccas) หรือมะลูกู (Maluku) แก่ดัตช์เนเธอร์แลนด์ ทำให้ผลผลิตเครื่องเทศสำคัญ เช่น [[พริกไทย]] [[กระวาน]] [[กานพลู]] [[จันทน์เทศ]] อยู่ภายใต้การผูกขาดของเนเธอร์แลนด์ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมีบทบาทในการจัดซื้อสินค้า และผลผลิตจากอาณาจักรต่าง ๆ เช่น ปัตตานี กัมพูชา อยุธยาหรือสยาม เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น หลายครั้งได้ใช้ระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าที่อาณาจักรเหล่านั้นต้องการ เช่น ปืนใหญ่ ปืนไฟแบบตะวันตก แลกกับผลผลิตพื้นเมือง
 
ในช่วง 50 ปีแรก บริษัทฯ มีเรือในเอเชียทั้งสิ้น 40 ลำ ลูกเรือ 5,000 คน จากนั้นตั้งแต่ราว พ.ศ. 2183 เป็นต้นไป เรือได้เพิ่มขึ้นเป็นถึง 150 ลำ เจ้าหน้าที่ลูกเรือรวมกว่า 15,000 คน<ref>http://www.colonialvoyage.com/eng/voc/index.html</ref>
เส้น 53 ⟶ 52:
 
== การขยายตัวของบริษัท ==
บริษัทบริษัทฯ ยังคงมีความสำคัญทางการค้าเป็นเวลาเกือบสองศตวรรษ โดยจ่ายส่วนแบ่งประจำปีร้อยละ 18 % เป็นเวลาเกือบ 200 ปีจนกระทั่งเกิดการล้มละลายและกิจการล้มเลิกอย่างเป็นทางการในปี [[พ.ศ. 2343]]<ref name="RICKLEFSp110">{{cite book
| last = Ricklefs | first =M.C. | authorlink = | coauthors = | title =A History of Modern Indonesia Since c.1300, 2nd Edition | publisher =MacMillan | date =1991 | location =London | pages =p.110 | url = | doi = | id = ISBN 0-333-57689-6 }}</ref> ทรัพย์สินต่างๆต่าง ๆ และหนี้ของบริษัทได้ถูกครอบครองแทนโดยรัฐบาลของ[[สาธารณรัฐปัตตาเวีย]] ส่วนดินแดนในครอบครองของบริษัท VOCบริษัทฯ ได้กลายเป็น[[หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์]] และแผ่ขยายออกไปในช่วง[[ศตวรรษที่ 19|คริสต์ศตวรรษที่ 19]] เพื่อรวมหมู่เกาะอินโดนีเซียทั้งหมดเข้าด้วยกัน และ[[ศตวรรษที่ 20|คริสต์ศตวรรษที่ 20]] จึงเกิดเป็น[[ประเทศอินโดนีเซีย]]
 
== โครงสร้างบริษัท ==