ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นรกระฟ้า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มเรื่องย่อ
บรรทัด 32:
 
== เรื่องย่อ ==
ในวัน[[คริสต์มาสอีฟ]] จอห์น แมคเคลน ตำรวจนิวยอร์ก เดินทางไปที่อาคารนากาโตมิใน[[ลอสแองเจลิส]]เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคริสต์มาสกับฮอลลี ภรรยาที่ตอนนี้แยกกันอยู่กับเขา ขณะที่แมคเคลนกำลังเปลี่ยนชุด กลุ่มติดอาวุธนำโดยฮันส์ กรูเบอร์ได้บุกเข้ามาในอาคาร แขกทั้งหมดถูกจับเป็นตัวประกัน ส่วนแมคเคลนลอบหนีออกมาได้
ณ ตึกระฟ้ากลางเมืองลอสแอนเจลิส ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งบุกยึดตึก พร้อมจับคนข้างในเป็นตัวประกันและเสนอข้อต่อรองกับรัฐ แต่ชายคนหนึ่งกำลังหาทางรอด เขาเป็นตำรวจลาพักร้อน มาตัวคนเดียว และนี่ก็เป็นโอกาสรอดเดียวที่ทุกคนมี
 
กรูเบอร์แยกไปคุยกับโจเซฟ ทาคางิ ผู้บริหารบริษัทนากาโตมิและบังคับให้เขาบอกรหัสห้องนิรภัยของอาคารซึ่งภายในมีพันธบัตรมูลค่า 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทาคางิไม่ยอมบอก กรูเบอร์จึงยิงทาคางิที่ศีรษะ แมคเคลนซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบหนีหลังจากถูกโทนี ลูกน้องของกรูเบอร์ไล่ตาม แมคเคลนสู้กับโทนีจนฝ่ายหลังตกบันไดคอหักและยึดอาวุธและวิทยุสื่อสารของโทนีไป เขาใช้ติดต่อกับอัล พาวเวลล์ ตำรวจลอสแองเจลิสเพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมากรูเบอร์ส่งลูกน้อง 2 คนคือไฮน์ริชและมาร์โคไปเพื่อกำจัดแมคเคลน แต่ทั้งสองคนกลับถูกแมคเคลนยิงเสียชีวิต ด้านพาวเวลล์ไปตรวจที่อาคารและพบกับเอดดีที่ทำทีเป็นแผนกต้อนรับ เมื่อไม่พบอะไรผิดสังเกต พาวเวลล์จึงขับรถออกไป แต่แมคเคลนโยนศพของมาร์โคลงมา พาวเวลล์จึงรีบขอกำลังเสริมมาที่อาคารนี้
[[บรูซ วิลลิส]] สวมบทนักสืบจากนิวยอร์ก จอห์น แม็คเคลน ที่เพิ่งเดินทางมาถึงลอสแอนเจลิส เพื่อใช้เวลาช่วงคริสมาสต์กับภรรยา (บอนนี่ เบเดเลีย) ที่กำลังระหองระแหงกันอยู่ ช่วงที่เขากำลังรองานเลี้ยงเลิก เหล่าผู้ก่อการร้ายได้บุกเข้ายึดตึกเอาไว้ ขณะที่หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย ฮันส์ กรูเบอร์ (อลัน ริคแมน) และสมุนจอมโหด (อเล็กซานเดอร์ กอดูนอฟ) เข้าควบคุมตัวประกัน แม็คเคลนหนีออกมาได้ โดยมีอาวุธเพียงปืนพกประจำตัวเท่านั้น ถึงเวลานี้ แม็คเคลนต้องออกลุยเดี่ยวแล้ว
 
ต่อมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้บุกอาคาร แต่ถูกเจมส์และอเล็กซานเดอร์ ลูกน้องของกรูเบอร์ตอบโต้ด้วยจรวจ แมคเคลนจึงใช้[[ซีโฟร์|ระเบิด C4]] ที่ยึดมาจากไฮน์ริชฆ่าทั้งสองคน แฮร์รี เอลลิส เพื่อนร่วมงานของฮอลลีเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างแมคเคลนและกรูเบอร์ แต่แมคเคลนไม่ยอมรับข้อเสนอ กรูเบอร์จึงยิงเอลลิสเสียชีวิต ต่อมากรูเบอร์ออกไปตรวจดูระเบิดที่ชั้นดาดฟ้าและพบกับแมคเคลน แต่กรูเบอร์หลอกว่าตัวเองชื่อ บิล เคลย์ เป็นตัวประกันที่หนีออกมาได้ แมคเคลนให้ปืนเขาไว้เพื่อป้องกันตัว กรูเบอร์พยายามใช้ปืนยิงแมคเคลนแต่ปืนไม่มีกระสุน ก่อนที่แมคเคลนจะจัดการกรูเบอร์ คาร์ล ฟรังโกและฟริตซ์ ลูกน้องของกรูเบอร์ได้ตามมาและยิงต่อสู้กัน ฟรังโกและฟริตซ์เสียชีวิต ส่วนแมคเคลนรีบหนีออกมา
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ [[FBI]] ได้เข้ามาดูแลสถานการณ์และสั่งตัดไฟฟ้าของอาคาร ซึ่งเข้าแผนของกรูเบอร์เพราะจะทำให้ตัวล็อคตัวสุดท้ายของห้องนิรภัยเปิดออก กรูเบอร์ขอเฮลิคอปเตอร์เพื่อใช้หลบหนี โดยเขามีแผนจะระเบิดดาดฟ้าเพื่อฆ่าตัวประกันทั้งหมดและหลอกว่าพวกเขาเสียชีวิตในการระเบิด แมคเคลนตามไปที่ดาดฟ้าและสู้กับคาร์ล ในขณะเดียวกันกรูเบอร์เห็นข่าวเกี่ยวกับครอบครัวแมคเคลนจึงอนุมานได้ว่าฮอลลีเป็นภรรยาของแมคเคลน กรูเบอร์จึงจับฮอลลีเป็นตัวประกัน ด้านแมคเคลนหลังจับคาร์ลแขวนคอและฆ่าอูลี ลูกน้องของกรูเบอร์ เขาขึ้นไปที่ดาดฟ้าและสั่งให้ตัวประกันทั้งหมดลงจากดาดฟ้า กรูเบอร์กดระเบิดทำลายดาดฟ้าและเฮลิคอปเตอร์ของ FBI ส่วนแมคเคลนหนีลงมาจากดาดฟ้าโดยผูกตัวเองกับสายดับเพลิง
 
ทีโอ ลูกน้องของกรูเบอร์ลงมาที่ลานจอดรถเพื่อหารถหลบหนี แต่ถูกอาร์กายล์ คนขับรถของแมคเคลนชกจนสลบ แมคเคลนสู้กับคริสตอฟฟ์ ลูกน้องของกรูเบอร์จนอีกฝ่ายสลบและพบกับกรูเบอร์ที่จับฮอลลีเป็นตัวประกันกับเอดดี ลูกน้องคนสุดท้าย แมคเคลนทำทีเป็นยอมแพ้ และใช้ปืนที่ซ่อนไว้ด้านหลังยิงกรูเบอร์และเอดดี กรูเบอร์ซึ่งทะลุหน้าต่างออกไปจับนาฬิกาของฮอลลีไว้แล้วพยายามจะยิงแมคเคลนและฮอลลี แต่แมคเคลนปลดนาฬิกาได้ก่อน กรูเบอร์จึงร่วงลงไปเสียชีวิต
 
แมคเคลนและฮอลลีออกมาเจอพาวเวลล์ที่ด้านนอกอาคาร โดยมีคาร์ลซึ่งยังไม่เสียชีวิตตามออกมา แต่ถูกพาวเวลล์ยิงก่อนจนเสียชีวิต ส่วนอาร์กายล์ขับรถออกมารับแมคเคลนและฮอลลี ริชาร์ด ธอร์นเบิร์ก นักข่าวที่เสนอข่าวครอบครัวแมคเคลนขอสัมภาษณ์แมคเคลน แต่ถูกฮอลลีชก แมคเคลนและฮอลลีขึ้นรถโดยมีอาร์กายล์ขับออกไป
 
== นักแสดง ==
เส้น 55 ⟶ 63:
* วิลเลียม อเทอร์ตัน รับบท ริชาร์ด ธอร์นเบิร์ก
* ฮาร์ต บอชเนอร์ รับบท แฮร์รี่ เอลลิส
* เจมส์ ชิเกตะ รับบท โจเซฟ โยชิโนบุ ทาคากิงิ
 
== อ้างอิง ==