ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราฮีม สเตอร์ลิง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 54:
สเตอร์ลิงเป็นนักเตะเยาวชนของควีนส์พาร์กเรนเจอร์เป็นเวลาเจ็ดปีก่อนที่จะย้ายไปยังลิเวอร์พูล
 
through ลูกยิงท
=== ลิเวอร์พูล ===
==== ฤดูกาล 2011-12 ====
[[ไฟล์:Raheem Sterling 2011.jpg|thumb|left|150px|สเตอร์ลิงลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011]]
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่เปิดสนาม[[แอนฟีลด์]]เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลวีแกนแอธเลติก|วีแกนแอธเลติก]] ซึ่งลงสนามในวัย 17 ปี กับอีก 107 วัน ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 2 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่แพ้ให้กับ [[สโมสรฟุตบอลฟูลัม|ฟูลัม]] 0-1<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/17821974 "Liverpool 0-1 Fulham"] BBC Sport. 1 May 2012. Retrieved 10 June 2012.</ref> ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 3 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่ถล่ม [[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] 4-1<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/17904221 "Liverpool 4-1 Chelsea"] BBC Sport. 8 May 2012. Retrieved 10 June 2012.</ref>
 
==== ฤดูกาล 2012-13 ====
[[ไฟล์:Raheem Sterling August 2012 vs FC Gomel.jpg|thumb|right|150px|สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ [[เอฟซี โกเมล|โกเมล]] ในปี 2012]]
ในเดือนสิงหาคม 2012 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามในเกมยุโรปเป็นนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน [[โจ โคล]] ในยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก ในนัดที่เอาชนะ โกเมล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 [[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13]] สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน ศึกบิ๊กแมตช์ กับ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]] โดย สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/19310450 "Liverpool 2-2 Man City"] BBC Sport. 26 August 2012. Retrieved 26 August 2012.</ref> หลังจากนั้น สเตอร์ลิง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง สเตอร์ลิง ก็ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเรดดิง|เรดดิง]] 1-0<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/19939536 "Liverpool 1-0 Reading"] BBC Sport. 20 October 2012. Retrieved 20 October 2012.</ref> ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]] 3-0<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/20843023"Liverpool 3-0 Sunderland"] BBC Sport. 2 January 2013. Retrieved 6 January 2013.</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 2 ประตูจาก 24 นัด
 
==== ฤดูกาล 2013-14 ====
[[ไฟล์:Sterling, Coutinho, Enrique.jpg|thumb|left|สเตอร์ลิง (ซ้าย) ลงซ้อมที่ [[แอนฟีลด์]] ร่วมกับ [[ฟีลีปี โกชิญญู‎]] (กลาง) และ [[โคเซ เอนรีเก ซานเชซ]] (ขวา)]]
ในลีกคัพ รอบ 2 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนอตส์เคาน์ตี|นอตส์เคาน์ตี]] ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนอริชซิตี|นอริชซิตี]] 5-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] ที่[[ไวต์ฮาร์ตเลน]] 5-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/photo-liverpool-v-spurs ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/five-star-reds-run-riot-at-the-lane ลิเวอร์พูลยกพลคว้าชัยถึงถิ่นสเปอร์สในเกมระดับห้าดาว]</ref> ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]] 3-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liverpool-v-cardiff-photos ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sublime-suarez-sends-liverpool-to-summit ความยอดเยี่ยมของซัวเรซส่งลิเวอร์พูลสู่ตำแหน่งจ่าฝูง]</ref>
 
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] 5-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liv-v-arsenal-photo ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบอาร์เซนอล]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/relentless-reds-tear-apart-the-gunners ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มอาร์เซนอล 5-1]</ref> ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ลงมาเป็นตัวสำรองและได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] ที่[[เซนต์แมรีส์สเตเดียม]] 3-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/photo-liv-v-soton ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลเยือนเซาท์แฮมป์ตัน]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-see-off-saints-to-move-into-second ลิเวอร์พูลเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันขยับขึ้นอันดับ 2]</ref> ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/pic-liv-v-city ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/coutinho-settles-city-classic-for-reds คูตินโญ่ยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่[[แคร์โรว์โรด]] 3-2 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัล[[นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ]] ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ จากงานประกาศรางวัล Players’ Awards Dinner ปี 2014 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุม Liverpool ACC Conference Centre<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/suarez-bags-treble-at-awards-dinner ซัวเรซกวาด 3 รางวัล ในงานประกาศรางวัลสโมสรลิเวอร์พูล]</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 9 ประตูจาก 33 นัด และยิงได้ทั้งหมด 10 ประตู จาก 38 นัด รวมทุกรายการ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่น[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] นับตั้งแต่ในปี 2009
 
==== ฤดูกาล 2014-15 ====
[[ไฟล์:Raheem Sterling (15623713741).jpg|thumbnail|สเตอร์ลิง ลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2014]]
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014–15 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ เซาแทมป์ตัน โดย สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 2-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sturridge-strikes-to-edge-lfc-past-saints ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-hit-three ลิเวอร์พูลบุกไปยิงสามประตูถึงไวท์ ฮาร์ต เลน]</ref> ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก [[บัลแกเรีย]] 2-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/stevie-settles-late-drama-in-lfc-favour เจอร์ราร์ดยิงจุดโทษท้ายเกมให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยสุดดราม่า]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ [[สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด|เวสต์แฮมยูไนเต็ด]] ที่[[บุลินกราวนด์]] 1-3<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-left-to-rue-west-ham-reverse ลิเวอร์พูลบุกไปพ่ายเวสต์แฮม 1-3]</ref> ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามนัดที่ 100 ในนัดที่พ่ายแพ้ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่[[โอลด์แทรฟฟอร์ด]] 0-3 ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 แคปปิตอล วัน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัธ 3-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/raheem-s-brace-sends-reds-to-semi-finals ความเฉียบขาดของสเตอร์ลิงส่งให้ลิเวอร์พูลทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลโกลเด้น บอย (นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี) ของ Tuttosport หนังสือพิมพ์สัญชาติอิตาลี<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sterling-the-winner-of-golden-boy-award ราฮีม สเตอร์ลิงคว้ารางวัล โกลเด้น บอย]</ref> ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์|เบิร์นลีย์]] ที่[[เทิร์ฟมัวร์]] 1-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sterling-strike-seals-boxing-day-victory ประตูของสเตอร์ลิงคว้าชัยชนะให้ลิเวอร์พูลในวันบ็อกซิ่งเดย์]</ref>
 
ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2015 แคปปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/all-in-the-balance-after-chelsea-draw ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์เสมอเชลซี 1-1]</ref> ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sturridge-strikes-reds-sink-whu สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน]</ref> ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 [[เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2014–15|เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์]] สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลโบลตันวอนเดอเรอส์|โบลตันวอนเดอเรอส์]] ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/phil-s-late-stunner-sends-reds-through ลูกยิงท้ายเกมของคูตินโญ่ส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liverpool-go-sixth-with-saints-success ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ]</ref>
 
ในเดือนเมษายน 2015 สเตอร์ลิง ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับสโมสร พร้อมปฏิเสธค่าเหนื่อยจำนวนกว่า 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 6,300,000 บาท) ซึ่งจะทำให้ดาวรุ่งรายนี้ มีรายได้เป็นสถิติสโมสร และยังแซงหน้าค่าเหนื่อยที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนปัจจุบันที่ได้จากสโมสร อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิง ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมทีมชาติกับลิทัวเนียว่า ยังไม่ต้องการคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ในตอนนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งสมาธิไปที่การเล่นให้กับสโมสร และจะมีการเจรจากันอีกครั้งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น
 
ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด|นิวคาสเซิลยูไนเต็ด]] 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-close-the-gap ลิเวอร์พูลลดช่องว่างท็อปโฟร์หลังชนะนิวคาสเซิล]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/five-things-from-liv-v-new 5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด]</ref> ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 ก่อนจะได้รับรางวัลพร้อมกับท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลบางส่วน โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/phil-wins-four-prizes คูตินโญ่กวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards]</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 7 ประตูจาก 35 นัด
 
ในเดือนกรกฎาคม 2015 สเตอร์ลิง เข้าแจ้งขอย้ายทีมกับ เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รวมถึงเจ้าตัวไม่โผล่ไปที่สนามซ้อม โดยอ้างว่าป่วย ซึ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างปีกวัย 20 ปี กับสโมสรกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง<ref>[http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000077397 สุดแสบ! “สเตอร์ลิง” อ้างป่วย โดดซ้อมทัพ “หงส์”]</ref> นอกจากนี้ สเตอร์ลิง แจ้งกับต้นสังกัดว่าตัวเขาจะไม่เข้าร่วมทัวร์ปรีซีซันกับลิเวอร์พูล และหวังว่าการเจรจาย้ายทีมไป แมนเชสเตอร์ซิตี จะจบสิ้นลงก่อนเริ่มโปรแกรมทัวร์ที่[[ประเทศไทย]]<ref>[http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000077011 “ราฮีม” ออกลายปัดทัวร์ปรีซีซันกับ “หงส์” หวังชิ่งไป “เรือใบ”]</ref> ต่อมา ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 สโมสรลิเวอร์พูล เดินทางมาปรีซีซันที่ประเทศไทย โดย สเตอร์ลิง ไม่ได้เดินทางมาด้วย
 
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน สเตอร์ลิงก็ได้ย้ายเข้าไปสังกัด[[แมนเชสเตอร์ซิตี]] เป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี<ref>[http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000079846 จบมหากาพย์ “เรือใบ” ปิดดีลเซ็น สเตอร์ลิงเข้ารัง]</ref>
 
=== แมนเชสเตอร์ซิตี===