ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอนครไทย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 59:
* '''องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเฮี้ย''' ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยเฮี้ยทั้งตำบล
 
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๒๑ ก ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘
พระราชกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงพิษณุโลก กับกำหนดเขตอำนาจและวันเปิดทำการของศาลแขวงนครไทย ในจังหวัดพิษณุโลกศาลแขวงนครไทย ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๕๘
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงพิษณุโลก กับกำหนดเขตอำนาจและวันเปิดทำการของศาลแขวงนครไทย ในจังหวัดพิษณุโลก
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ วรรคหนึ่งและวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธี
พิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจ
ศาลแขวงพิษณุโลก กับกำหนดเขตอำนาจและวันเปิดทำการของศาลแขวงนครไทย ในจังหวัดพิษณุโลกพ.ศ. ๒๕๕๘”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ศาลแขวงพิษณุโลก มีเขตอำนาจในอำเภอเนินมะปราง อำเภอบางกระทุ่ม อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมืองพิษณุโลก อำเภอวังทอง และอำเภอวัดโบสถ์
 
{{อำเภอจังหวัดพิษณุโลก}}
หน้า ๘๕ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๒๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘
[[หมวดหมู่:อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก|นครไทย]]
มาตรา ๔ ในจังหวัดพิษณุโลกให้มีศาลแขวงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งศาล คือ ศาลแขวงนครไทย มีเขตอำนาจในอำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย
{{โครงจังหวัด}}
มาตรา ๕ ให้เปิดทำการศาลแขวงนครไทยตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป
มาตรา ๖ ในระหว่างที่ยังมิได้เปิดทำการศาลแขวงนครไทยตามมาตรา ๕ ให้ศาลแขวงพิษณุโลก
มีเขตอำนาจตลอดถึงเขตอำนาจของศาลแขวงนครไทยด้วย
มาตรา ๗ บรรดาคดีของท้องที่อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย ซึ่งค้างพิจารณา
อยู่ในศาลแขวงพิษณุโลกในวันเปิดทำการศาลแขวงนครไทยตามมาตรา ๕ ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลแขวงพิษณุโลก
บรรดาคดีของท้องที่ตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลแขวงพิษณุโลกมีคำสั่งให้ผัดฟ้องหรือให้ขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวน แล้วแต่กรณี ในวันเปิดทำการศาลแขวงนครไทย
ให้ศาลแขวงพิษณุโลกมีอำนาจพิจารณาเกี่ยวกับการผัดฟ้องหรือขังระหว่างสอบสวนนั้นต่อไป
มาตรา ๘ ให้ประธานศาลฎีการักษาการตาม
 
1 เม.ย. 58)
นายชาติชาย กริชชาญชัย อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 ได้เป็นประธานในการทำพิธีเปิดศาลแขวงนครไทย โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีทางศาสนา พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้นได้มาการปลูกต้นไม้ ต้นพะยูงประจำศาล และถ่ายภาพร่วมกันเพื่อเป็นที่ระลึก
 
สำหรับศาลแขวงนครไทย เป็นศาลยุติธรรมที่พิจารณาคดีทั้งคดีแพ่งซึ่งราคาทรัพย์สินที่พิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกิน 3 แสนบาท และคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ทั้งนี้จะลงโทษจำคุกเกิน 6 เดือน หรือปรับเกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษจำคุกหรือปรับนั้นอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่างเกินอัตราที่กล่าวแล้วไม่ได้ ถ้าศาลแขวงเห็นว่าสมควรลงโทษจำเลยเกินอัตราดังกล่าวแล้วก็ให้มีอำนาจพิพากษาได้แต่จะต้องให้ผู้พิพากษาอย่างน้อย 1 คนตรวจสำนวน และลงลายมือชื่อในคำพิพากษา เป็นองค์คณะ โดยมีเขตอำนาจการพิจารณาพิพากษา 2 อำเภอ คืออำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย