ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แจ็กสัน พอลล็อก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 16:
[[ไฟล์:Pollock-barn.jpg|thumb|right|200px|โรงนาที่แจ็กสัน พอลล็อก ใช้เป็นสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ]]
 
แจ็กสัน พอลล็อก เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 1912 ที่เมืองโคดี [[รัฐไวโอมิง]] [[สหรัฐอเมริกา]] เขาเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 5 คน ในปีค.ศ. 1912 พอลล็อกเข้าเรียน[[ไฮสกูล]] ที่ Losangles's Manual Arts High School ใน[[ลอสแอนเจลิส]] และในปี ค.ศ. 1930 เมื่ออายุได้ราว 17 ปี เขาได้ย้ายไปที่[[รัฐนิวยอร์ก]]เพื่อเข้าศึกษาต่อที่ The Art Students League ภายใต้การสอนของทอมัส โธมัส ฮาร์ทฮาร์ต เบนตัน (Thomas Hart Benton) จิตรกรเขียนภาพฝาผนัง ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อการวาดภาพของเขาในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
 
ปีค.ศ 1936 พอลล็อกเข้าทำงานที่สตูดิโอของ Siqueiros ซึ่งเป็นศิลปินชาวเม็กซิกันที่ทำให้เขาได้รับอิทธิพลในการเขียนภาพในช่วงนี้ ซึ่งนิยมการแสดงออกอย่างรุนแรง และต่อมาได้รับแรงบันดาลใจจากปีกัสโซ และพวกนิยมลัทธิเหนือจริง (surrealism)
บรรทัด 22:
ในปีค.ศ 1941 พอลล็อกตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ติด[[เหล้า]]หนักงอมแงม เขาได้อาศัยอยู่กับพี่ชาย จนภรรยาของพี่ชายไม่พอใจ ต้องพาครอบครัวและแม่ย้ายหนีไป จุดเปลี่ยนของชีวิตพอลล็อก คือการได้พบกับ [[ลี แครสเนอร์]] (Lee Krasner) จิตรกรหญิงผู้เชื่อมั่นในความสามารถของพอลล็อก จากนั้นทั้งสองก็ย้ายมาสร้างสตูดิโอทำงานศิลปะด้วยกันที่ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก ทั้งสองได้แต่งงานกัน แต่มีข้อสัญญาตกลงกันว่าพอลล็อกจะต้องเลิกดื่มเหล้าและหันมาสร้างงานศิลปะอย่างจริงจัง
 
ในช่วงปี 1938-1944 เขาได้เข้ารับการรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง และได้ศึกษาผลงานและทฤษฎีของ[[คาร์ล จุงยุง]] (Carl Jung) นักจิตแพทย์ชาวสวิสที่ได้ชื่อว่าเป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งทำให้พอลล็อกเกิดอิทธิพลกับงานของเขา งานขอพอลล็อกในช่วงนี้จะแฝงไปด้วยความสงสัย และปริศนาต่าง ๆ
หลังจากที่พอลล็อกกลับมาสร้างผลงานศิลปะอีกครั้ง ผลงานของเขาจึงไปเข้าตา [[เพ็กกี กุกเกนไฮน์ไฮม์]] (Peggy Guggenheim) เจ้าของแกลเลอรี่หอศิลป์ใหญ่ในนิวยอรค์นิวยอร์ก กุกเกนไฮน์ไฮม์ยอมจัดแสดงงานเดี่ยวให้พอลล็อก แม้จะขายภาพไม่ได้เลย แต่พอลล็อกก็เริ่มเป็นที่สนใจในวงการศิลปะ และเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้ค้นพบวิธีการสร้างงานรูปแบบใหม่ เมื่อต้องไปวาดผนังบ้านพักของกุกเกนไฮน์เป็นค่าตอบแทนตามสัญญา อาการเครียดและอยากเก็บตัวเริ่มเกิดขึ้นกับพอลล็อกอีกครั้ง แครสเนอร์ คอยให้กำลังใจพอลล็อกอยู่เสมอ ภายหลังทั้งคู่จึงตัดสินใจหลบความวุ่นวายในเมือง และย้ายไปหาความสงบในชนบท และใช้โรงนาเป็นสตูดิโอสร้างสรรค์งานศิลปะ
 
เมื่อพอลล็อกมีเวลาเต็มที่ สำหรับสร้างสรรค์งานศิลปะ วันหนึ่งเขาค้นพบเทคนิคการเขียนภาพแบบใหม่โดยบังเอิญ ขณะกระป๋องสีล้มใส่ภาพที่เขากำลังเขียน ต่อมาเรียกเทคนิคแบบนี้ว่า [[กัมมันตจิตรกรรม]]หรือ[[ลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม]] ซึ่งเป็นการสร้างงาน[[ศิลปะ]]โดยการหยด สาด หรือ เทสีลงบนผ้าใบ โดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบศิลป์ หรือ แบบแผนใด ๆ แต่ปล่อยให้จิตสำนึกของศิลปินเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นนั้น แต่พอลล็อกก็ยังยืนยันว่าผลงานศิลปะของเขาไม่ได้เกิดขึ้นโดยเหตุบังเอิญเพราะเขาสามารถควบคุมมันได้ รูปแบบงานของพอลล็อกเป็นแบบเฉพาะตัว ทำให้เขากลายเป็นศิลปินที่มีชิอเสียง มีเงินทอง และชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้พอลล็อกรู้สึกหวั่นไหวและหวาดกลัว เขาเริ่มหันไปเที่ยวเตร่และติดเหล้างอมแงมอีกครั้ง ภายใต้ความเศร้าเสียใจที่ไม่สามารถมีลูกกับ ลี แครสเนอร์ได้เพราะฝ่ายหญิงไม่ยอมเขาจึงทิ้งแครสเนอร์ และหันไปคว้า[[ภรรยา]]คนใหม่ที่ชื่อ รูท หญิงสาวอ่อนวัยมาทดแทน แต่ความทุกข์ระทมในจิตใต้สำนึกของเขาก็ไม่เคยจางหาย
 
แจ็กสัน พอลล็อก ได้ถึงแก่กรรมในปี 1956 จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเขาขับรถกลับบ้านด้วยอาการ[[เมา]] ที่เซาแทมป์ตัน นิวยอร์ก ขณะมีอายุ 44 ปี