ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรมหลวงโยธาทิพ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ฉัตรา (คุย | ส่วนร่วม)
ฉัตรา (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
}}
 
'''สมเด็จเจ้าฟ้าศรีสุวรรณ กรมหลวงโยธาทิพ''' หรือ '''พระราชกัลยาณี''' ประสูติแด่เป็นพระราชธิดาใน[[สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง]] และที่ประสูติแต่[[พระราชเทวี สิริกัลยาณี]] เมื่อปีกุน [[พ.ศ. 2179]] ทรงเป็นพระขนิษฐาร่วมพระชนนีของใน[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]] พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อหลังจากพระราชเทวี สิริกัลยาณีประสูติพระธิดาองค์พระองค์นี้แล้ว พระอัครราชเทวีก็ทรงตกพระโลหิตและสวรรคต และสิ้นพระชนม์ในขณะที่พระราชกัลยาณีมีพระชนม์มายุ เพียง 9 วัน สมเด็จพระเจ้าปราสาททองจึงแต่งตั้งให้พระองค์บัว ([[เจ้าแม่วัดดุสิต]]) และพระสนมเปรม อภิบาลและพระนม พระราชกัลยาณีทรงเป็นกุลสตรีที่ทรงพระสิริโฉม<ref>[http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mcpan&month=12-01-2006&group=2&gblog=3 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]</ref>
 
เรื่องราวเริ่มในรัชกาลหลังจาก[[เจ้าฟ้าไชยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง]]เสด็จสรรคต ซึ่งได้เจ้าฟ้าไชยจึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติจากแห่งกรุงศรึอยุธยาสืบต่อพระราชบิดา คือ พระเจ้าปราสาททอง แต่สมเด็จพระนารายณ์ไม่ทรงเห็นด้วย จึงส่งคนสอดออกมาคิดราชการด้วย[[พระศรีสุธรรมราชา]]ผู้เป็นพระเจ้าอา พระเจ้าอาก็กำหนดเข้าไปครั้งเพลาค่ำ สมเด็จพระนารายณ์ก็พาพระราชกัลยาณี หนีออกมาทางประตูตัดสระแก้ว ไปหาพระเจ้าอา แล้วร่วมกันสุมผู้คนยกเข้ามาในพระราชวัง กุมเอาเจ้าฟ้าไชยไปสำเร็จโทษเสีย ณ วัดโคกพระยา พระเจ้าอาคือพระศรีสุธรรมราชาจึงได้ราชสมบัติแต่เนื่องจากพระราชกัลยาณีมีสิริโฉมงดงามมากสืบต่อมา กล่าวกันว่าแม้นใครได้ยลพระราชกัลยาณีแล้ว จะมีเสน่หานั้นเป็นไม่มีเลย
 
เนื่องจากพระราชกัลยาณีมีสิริโฉมงดงามมาก กล่าวกันว่าแม้นใครได้ยลพระราชกัลยาณีแล้วจะมีเสน่หานั้นเป็นไม่มีเลย ดังนั้น เมื่อพระศรีสุธรรมราชาได้ราชสมบัติแล้วประมาณสองเดือนเศษ ทอดพระเนตรเห็นพระราชกัลยาณีผู้เป็นราชนัดดาทรงพระรูปสิริวิลาศ ก็มีพระทัยเสน่หาผูกพัน ปราศจากลัชชีสมโภค จึงให้หาขึ้นไปบนที่หวังจะร่วมรสสังวาสกับพระราชกัลยาณี พระราชกัลยาณีจึงหนีลงมายังพระตำหนักแล้วบอกเหตุกับพระนม พระนมจึงเชิญพระราชกัลยาณีเข้าไว้ในตู้พระสมุด แล้วหามออกมา แสร้งว่าจะเอาพระสมุดไปยังพระราชวังบวรสถานมงคล นายประตูก็มิได้สงสัยครั้นไปถึงพระราชวังบวรสถานมลคลแล้ว พระราชกัลยาณีก็ออกจากตู้เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ แล้วทรงพระกันแสงทูลเล่าเหตุการณ์ทั้งปวงเกี่ยวกับพระเจ้าอาให้ฟัง สมเด็จพระนารายณ์ได้ทรงฟังดังนั้นก็ทรงโทมนัสน้อยพระทัย ตรัสว่า “พระเจ้าอาก็เหมือนพระบรมราชบิดา… ควรหรือมาเป็นดังนี้ จะละไว้ก็มิได้ ด้วยพระองค์ก่อแล้วจะสานตาม จะเสี่ยงเอาบารมีเป็นที่พึ่ง”
 
สมเด็จพระนารายณ์ ฯ ได้ทรงฟังดังนั้นก็ทรงโทมนัสน้อยพระทัย ตรัสว่า
 
'''“พระเจ้าอาก็เหมือนพระบรมราชบิดา… ควรหรือมาเป็นดังนี้ จะละไว้ก็มิได้ ด้วยพระองค์ก่อแล้วจะสานตาม จะเสี่ยงเอาบารมีเป็นที่พึ่ง”'''
 
ต่อจากนั้น ก็ตรัสให้หาขุนนางเข้ามาภายในพระราชวัง แล้วจัดแจงแต่งรี้พล สมเด็จพระนารายณ์ฯ เองเสด็จช้างต้นพลายมงคลไอยรา เสด็จไปทางหน้าวัดพลับพลาชัยครั้นสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาทราบเหตุจึงจดทัพเข้าสู้ ได้รบพุ่งกันตั้งแต่ค่ำจนรุ่ง โดยฝ่ายพระนารายณ์มีทหาร[[ญี่ปุ่น]]ร่วมด้วยต่อมา ทหารฝ่ายสมเด็จพระนารายณ์ฯ กระทุ้งประตูเข้าไปในวังได้ สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาจึงหนีไปยังวังหลัง แต่ถูกจับได้ พระนารายณ์ฯ ก็ให้ประหารเสียที่[[วัดโคกพระยา]]ตามประเพณี<ref name="โยธาทิพ">[http://ecurriculum.mv.ac.th/elibrary/library/theyoung.net/49_10.htm กรมหลวงโยธาทิพ]</ref>