ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บัสตีย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "ปอต" → "ปอร์ต" ด้วยสจห.
AlcorBlack2 (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มประวัติช่วงศตวรรษที่ 14 ของป้อมบัสตีย์
บรรทัด 34:
 
ทว่าแค่นั้นก็ไม่พอที่จะลดกระแสความไม่พอใจลงไปได้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ฝูงชนจำนวนมากบุกเข้าถล่มคุกบัสตีย์เพื่อเอาพวกดินปืนอันมีค่า จากนั้นก็ปลดปล่อยนักโทษที่อยู่ในนั้นเพียงแค่ 7 คน นี่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของ[[การปฏิวัติฝรั่งเศส]] หลังจาก[[การทลายคุกบัสตีย์]]รัฐบาลใหม่ก็ได้มีคำสั่งรื้อถอนคุกบัสตีย์แห่งนี้แล้วเอาอิฐไปใช้ในการพัฬนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ซึ่งการกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการทำลายระบบการผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จและระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพื้นที่แห่งนี้ก็ได้รับการพัฒนาเป็นจัตุรัส และเป็นพื้นที่สำคัญในการเรียกร้องประเด็นสำคัญต่าง ๆ ของชาวฝรั่งเศส
 
 
==ประวัติ==
 
===ช่วงศตวรรษที่ 14===
[[File:Bastille reconstruction 1420.jpg|thumb|300px|ภาพประวัติศาสตร์ของคูคลองรอบกำแพงเมืองปารีส (ซ้าย), และป้อมบัสตีย์และประตูปอต แช็งค์-อ็องตวน (ขวา) in 1420]]
 
ป้อมบัสตีย์ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักคือการป้องกันพวกอังกฤษในระหว่าง[[สงครามร้อยปี]] โดยแต่เดิมนั้นศูนย์กลางอำนาจของปารีสอยู่ที่[[พระราชวังลูฟวร์]]ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก แต่เพราะสงครามกับพวกอังกฤษนั้นเน้นหนักไปที่การต่อสู้ในทางฝั่งตะวันออก ทำให้เมืองต้องขยายตัวขึ้น และสถานการณ์การต่อสู้กับทางอังกฤษของฝรั่งเศก็ย่ำแย่ลงเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การที่[[พระเจ้าฌ็องที่ 2]] ถูกพวกอังกฤษจัมกุมตัวไปหลังความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสใน[[ยุทธการที่ปัวตีเย]] เหตุการณ์นั้นเร่งให้ต้องมีการป้องกันเมืองปารีสครั้งใหญ่ โดยภาวะขาดผู้นำทำให้ เอเตง มาร์เซล (Étienne Marcel) ขึ่้นมาเป็นผู้ครองนครปารีส และเร่งรัดในการสร้างหอคอยสูงขึ้นมาที่ประตูปอร์ต แซ็ง-อ็องตวน โดยมีแผนเริ่มสร้างใรช่วงปี 1357 แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะเอเตง มาร์เซลผู้เป็นแม่งานโดนประหารไปเสียก่อน
 
ต่อมาในปี 1369 [[พระเจ้าชาร์ลที่ 5 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 5]] มีความกังวลในสถานการณ์แนวป้องกันฝั่งตะวันออกที่ต้องทำกับพวกอังกฤษและพวกทหารรับจ้าง พระเจ้าชาร์ลที่ 5 จึงให้รื้อฟื้นโครงการ 'บัสตีย์' ขึ้นมา ปรับโครงสร้างเล็กน้อย ใหสร้างหอคอยสี่อัน เป็นคู่หนึ่งทางทิศเหนือและอีกคู่ทางทิศใต้ ตัวป้อมเริ่มสร้างในปี 1370 ซึ่งก็มาสร้างเสร็จในสมัย[[พระเจ้าชาร์ลที่ 6 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าชาร์ลที่ 6]] อันเป็นสมัยพระราชโอรส โดยป้อมบัสตีย์ที่สร้างเสร็จนั้นก็เป็นป้อมที่ประกอบด้วยหอคอยสูงแปดหอคอยที่เชื่อมต่อกันด้วยกำแพงอิฐยาวกว่า 223 ฟุต (68 เมตร) กว้าง 121 ฟุต (37 เมตร) และมีความสูงที่ 78 ฟุต (24 เมตร) ด้วยความสูงของหอคอยที่เท่ากันทำให้ที่ด้านบนมีการสร้างทางเดินเชื่อมระหว่างหอคอยท้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเป็นแนวป้องกัน สำหรับหอคอยทั้งแปดนั้นสองหอคอยเก่าที่สร้างตั้งแต่เริ่มแรกนั้นจะไม่มีชั้นใต้ดินใต้หอคอย บริเวณด้านนอกยังผันน้ำจากแม่น้ำแซมมาเป็นคูน้ำรอบปราการ นอกจากนี้ไม่ห่างไปจากที่ตั้งของบัสตีย์ทางทิศตะวันตก ก็ยังมีนิวาสถานเก่าของพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ที่อพยพมาตั้งหลักอยู่ตรงนี้ ด้วยเพราะว่ามองว่าพื้นที่ของบัสตีย์นั้นปลอดภัยที่สุด
 
นักประวัติศาสตร์ได้อธิบายว่าป้อมบัสตีย์นั้น เป็น 'ป้อมที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคกลาง' โดยบัสตีย์เป็นป้อมสำคัญในช่วงปลายยุคกลางของปารีส สำหรับป้อมบัสตีย์นั้นถูกสร้างขึ้นโดยพัฒนาการออกแบบมาจากปราสาทในชนบทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่มักจะค่อนข้างอ่อนแอ และมีหอคอยสูงคอยสั่งการหอคอยต่างๆ ซึ่งเป็นการยากลำบากที่จะปรับรูปแบบการป้องกันด้านบนหอคอยหากทหารบนหอคอยเป็นอะไรไป นั่นเป็นเหตุผลทำให้บัสตีย์ถูกสร้างให้หอคอยทุกหอสูงเท่ากันและมีทางเชื่อมเดินถึงกัน เพื่อสามารถส่งกำลังพลและอาวุธยุทธโปกรณ์ไปยังพื้นที่ว่างของหอคอยในการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อมาความคิดทางด้านสถาปัตยกรรมของบัสตีย์ก็ถูกนำไปปรับใช้ในการสร้างป้อมของฝรั่งเศส ลามไปจนถึงอังกฤษที่ลอกเลียนแบบในการสร้างปราสาทนันเนย์ (Nunney Castle) ด้วยเช่นกัน