พระตำหนักคัตสึระ

พระตำหนักคัตสึระ (อังกฤษ: Katsura Imperial Villa; ญี่ปุ่น: 桂離宮โรมาจิKatsura Rikyū) เป็นที่ประทับพร้อมสวนและสิ่งปลูกสร้างภายนอกอาคาร ในบริเวณชานเมืองของนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น (อยู่ในเขต นิชิเกียว) อีกทั้งพระตำหนักคัตสึระเป็นหนึ่งในสมบัติวัฒนธรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีความสำคัญอย่างมาก

เรือนคัตสึระอิมพิเรียลวิลลา

สวนในพื้นที่นี้จัดเป็นผลงานชิ้นเอกของการจัดสวนแบบญี่ปุ่น และเรือนอาคารที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จอย่างสูงของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น ตัววังนั้นประกอบด้วยโชอิง (ห้องเขียน) เรือนชงชา และสวนสำหรับการเดินเล่น ทั้งนี้ยังมีหน้าต่างอันล้ำค่าในเรือนพักของเจ้าชายในยุคเอโดะ โดยดั้งเดิมตัววังนั้นเคยเป็นของเจ้าชายแห่งตระกูลฮาจิโจ โนะ มิยะ ปัจจุบันนั้นอยู่ภายใต้การดำเนินการของกรม Imperial Household Agency ซึ่งรับผู้เยี่ยมเยียนผ่านการนัดล่วงหน้า

ประวัติศาสตร์ แก้

เขตคัตสึระในเมืองเกียวโตมีประวัติอันเป็นที่นิยมสำหรับเรือนพักมาจนถึงปัจจุบัน และในยุคเฮอัง ฟูจิวาระ โนะ มิชินากะเคยมีเรือนพักในบริเวณเช่นกัน สมาชิกของราชสำนักเฮอังเห็นว่าเป็นสถานที่ที่งดงามและเหมาะสำหรับการชมดวงจันทร์

โดยชื่อ "คัตสึระ" (桂) มาจากชื่อของต้นไม้วิเศษคัตสึระที่เชื่อว่าขึ้นอยู่บนดวงจันทร์ ตามตำนานในนิทานพื้นบ้านเมืองจีน ดังนั้น ตำหนักคัตสึระนี้จึงสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจน และจะสวยงามยิ่งขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนผ่านหลังคาตำหนัก[1]

เจ้าชายฮาจิโจ โทชิฮิโตะ (智仁; 1579–1629) ซึ่งเป็นคนแรกของสายตระกูลฮาจิโจ โนะ มิยะ และผู้สืบสกุลจากจักรพรรดิโองิมาจิ และเป็นพระราชอนุชาของจักรพรรดิโกโยเซนั้นได้สถาปนาเรือนพักที่คัตสึระเช่นกัน เจ้าชายโทะชิฮิโตะถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมโดยโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ หากแต่ยกเลิกการถูกรับเลี้ยงเมื่อฮิเดโยชิมีลูกชายตัวจริง และออกมาก่อตั้งราชวงศ์ฮาจิโจ¬ โนะ มิยะ

ห้องโชอิน หรือห้องเขียนแบบญี่ปุ่นภายในเรือนพักคัตสึระอิมพีเรียล นั้นแบ่งออกมาเป็นสามส่วน: โชอินโบราณ, โชอินส่วนกลาง และ ตัววังใหม่ โชอินโบราณนั้นได้สร้างขึ้นในราวๆปี 1615 A.D. การก่อสร้างของโชอิน, เรือนชงชาและสวน ดำเนินไปถึงยุคของเจ้าชายองค์ที่สอง โทชิทาดะ (智忠; 1619–1662) และเสร็จสิ้นหลังจากไม่กี่ทศวรรษ เรือนพักฮาจิโจ โนะ มิยะได้เปลี่ยนชื่อเป็นโทกิไว โนะ มิยะ (常磐井宮), ต่อด้วยเคียวโกคุ โนะ มิยะ, และจบด้วยคัตสึระ โนะ มิยะ ก่อนที่สายตระกูลนั้นสิ้นสุดลงในปี1881 กรม Imperial Household ได้เข้าควบคุมต่อในปี 1883 และต่อมาถึงปัจจุบันนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

เรือนอาคารและสวน แก้

 
สวนและบ่อน้ำคัตสึระ

โชอินโบราณ, โชอินส่วนกลาง และ ตัววังใหม่แต่ละเรือนนั้นถูกออกแบบตามไสตล์โชอิน พร้อมกับหลังคาแบบอิริโมะยะ โคะเคะระบุกิ (柿葺) ส่วนโชอินโบราณนั้นบ่งบอกถึงการออกแบบไสตล์ซุกิยะที่เห็นได้ชัดในส่วนระเบียง ซึ่งมีชานที่ยื่นออกมาไว้สำหรับการชมพระจันท์ และแสดงให้เข้าใจถึงประเพณีการชมพระจันท์ที่เป็นมโนคติหลักๆของวังคัตสึระ กำแพงของโชอินส่วนกลางและตัววังใหม่นั้นมีภาพวาดหมึกจากโรงเรียนของคาโนะ ทันยุ (狩野 探幽 นักวาดภาพดังยุคเอโดะ) อีกทั้งการออกแบบและจัดวางของหิ้งในห้องบนของเรือนโชอินส่วนกลางนั้นถือว่าเป็นจุดที่น่าจดจำอย่างยิ่ง บริเวณสวนสำหรับเดินเล่นนั้นมีบ่อกลางที่ได้น้ำมาจากลำธารคัตสึระ และถูกล้อมรอบไปด้วย โชคินเต โชคะเต โชอิเคน เก็ปปะโร เรือนชงชา, เนินเขา, ทราย, สะพาน, และโคมไฟ อีกทั้งมีสถานที่ศาสนาพุทธ, อนรินโด

การเดินทาง แก้

ตัวเรือนพักนั้นตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของเกียวโต จากสถานีเกียวโต ให้นั่งรถไฟใต้ดินสายคาราซูมะไปสถานืชิโจ และย้ายไปสายฮันกีวเกียวโตไปยังสถานีคัตสึระ และจากสถานีรถไฟใช้เวลาเพียง15นาทีกับการเดินไปถึงเรือนคัตสึระ ทั้งนี้ จากสถานีเกียวโต มีรถบัสสาย 33 ที่ตรงไปยังคัตสึระ ให้ลงที่คัตสึระริคิว มาเอะ ซึ่งต่อด้วยการเดินเพียงแค่ห้านาที

อ้างอิง แก้

  1. (1)/ "ปิดสวนสวยแห่งเกียวโตเกียว 21 พฤศจิกายน 2558 Katsura Rikyu Imperial Villa of The Moon (1)". ช่อง 7. 21 November 2015. สืบค้นเมื่อ 23 May 2016. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)[ลิงก์เสีย]

บรรณานุกรม แก้

  • Walter Gropius, Kenzo Tange, Yasuhiro Ishimoto (photographs), Katsura: Tradition and Creation in Japanese Architecture (Yale University Press, New Haven, Zokeisha Publications, Tokyo, 1960) is a good (although early) work.
  • Teiji Itoh, Takeji Iwamiya, Imperial Gardens of Japan (Weatherill, New York, 1970) covers the gardens in great detail
  • Scott, Ted, "Imperial Gardens of Japan" (Amazon.com, 2008) describes and illustrates four imperial gardens in Kyoto.
  • Teiji Itoh, Tadashi Yokoyama, Eiji Musha, Makato Suzuki, and Masao Arai and Taisuke Ogawa (photographs), Katsura: A Quintessential Representative of the Sukiya Style of Architecture ( Shinkenchiku-Sha, Tokyo, 1983) gives much internal detail, learned during the refurbishment of 1976-1982.
  • Akira Naito, Takeshi Nishikawa (photographs), (translated Charles S. Terry), Katsura: A Princely Retreat (Kodansha, New York, 1977) is a magnificent book, the definitive work on Katsura in English.
  • Ponciroli, Virginia (2011). Katsura Imperial Villa (Paperback). New York: Phaidon Press. ISBN 978-0-7148-6254-5.. Contains articles by Walter Gropius, Bruno Taut and Kenzo Tange on the impact of the villa.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

พิกัดภูมิศาสตร์: 34°59′02″N 135°42′34″E / 34.98389°N 135.70944°E / 34.98389; 135.70944