พระครูภัทรกิจวิบูล (ก้าน ภทฺทโก)

พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เกจิดังของตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังขารท่านไม่เน่าเปลื่อยอยู่ในโรงแก้วจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านท่านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จนรุ่นเรือง และช่วยสร้างอื่นๆ เช่นวัดนาจอมเทียน , วัดทุ่งระหาร และวัดชากแง้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างถนนนาจอมเทียนไปถึงถนนบ้านบึงเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และพระนักพัฒนาที่น่ายกยอง

พระครูภัทรกิจวิบูล

(ก้าน ภทฺทโก)
พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน) อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่
พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน) อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่
ชื่ออื่นอาจารย์ก้าน , หลวงพ่อก้าน วัดห้วยใหญ่
ส่วนบุคคล
เกิด20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี (86 ปี)
มรณภาพ13 กันยายน พ.ศ. 2549
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.ตรี , น.ธ.โท , น.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดห้วยใหญ่ ชลบุรี
บรรพชาพ.ศ. 2476 (อายุ 14 ปี) วัดห้วยใหญ่
อุปสมบทพ.ศ. 2482 (อายุ 20 ปี) วัดห้วยใหญ่
พรรษา67
ตำแหน่งอดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่

ประวัติ แก้

หลวงพ่อก้าน มีเดิมว่า " ก้าน " นามสกุล " เจริญคลัง " ท่านเป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำ ปีมะแม โยมบิดาชื่อ เส็ง เกิดที่เมืองจีน โยมแม่ชื่อ นิด นามสกุล เจริญคลัง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ชีวิตในวัยเยาว์นั้นท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบไปใส่บาตรพระกับผู้ใหญ่เสมอๆ[1]

บรรพชา แก้

เมื่ออายุได้ 14 ปี ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ท่านตั้งใจที่จะศึกษาหาความรู้และศึกษาเล่าเรียน เขียนอ่านทั้งภาษาไทยและภาษาขอม และอีกทั้งอักขระต่างๆ จนอ่านออกเขียนได้ดี

อุปสมบท แก้

เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี หลวงพ่อก้านท่านเล่าว่า พอท่านสึกจากสามเณรได้ 5 นาที ท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุเลย โดยมี

- พระอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์ลอย ธมฺมโชโต วัดห้วยใหญ่
- พระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์เข้ม วัดช่องลม (นาเกลือ) และพระอาจารย์กลับ วัดสันติธาราวาส (วัดทุ่งระหาร)
- พระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เราะ

ณ อุโบสถวัดห้วยใหญ่ ได้รับฉายาในทางพุทธศาสนาว่า " ภทฺทโก "

หลังจากที่หลวงพ่อก้านท่านได้บวชแล้ว ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยใหญ่ เพื่อตั้งใจศึกษาอบรมพระปริยัติธรรม พยายามประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มุ่งปฏิบัติหน้าที่ของตนให้บริบูรณ์ตามที่ได้บวชอยู่ในพระพุทธศาสนา หลวงพ่อก้านศึกษาจนจบนักธรรมชั้นตรี ครั้งพอเข้าพรรษาที่ 3 ท่านก็สอบได้นักธรรมชั้นโท และพรรษาที่ 4 ท่านสอบได้นักธรรมชั้นเอกตามลำดับ หลังจากที่สอบนักธรรมชั้นเอกได้แล้ว

การออกธุดงค์ แก้

สะท้อนให้เห็นวัตรปฏิบัติของท่านที่เข้มข้น มีหลักฐานการจาริกธุดงค์ที่น่าจะเชื่อได้ว่าช่วงเวลาการออกธุดงค์ครั้งสำคัญๆ มีอยู่อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง

ปี 2484 การธุดงค์ครั้งแรก คือ ตอนที่ท่านผ่านการเป็นพระบวชใหม่ เวลาดังกล่าวนี้หลวงพ่อก้านเล่าให้ฟังว่า เพียงพรรษาที่ 2 ท่านก็ได้ใช้เวลาหาประสบการณ์ด้านธุดงค์ด้วยการจาริกธุดงค์ไปทางภาคอีสาน ท่านได้มีโอกาสนมัสการปูชนีสถานและปูชนีวัตถุสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธบาท พระพุทธฉาย ที่สระบุรีและมุ่งหน้าสู่นครราชสีมา มุ่งหน้าไปจังหวัดอุดรธานี หนองคาย และข้ามไปยังประเทศลาว ซึ่งตลอดเวลาของการธุดงค์ ท่านได้มีโอกาสศึกษาธรรมและสรรพวิชาจากพระอาจารย์มากมาย หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับมายังวัดห้วยใหญ่

ฝากตัวเป็นศิษย์ แก้

หลวงพ่อก้านท่านได้ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก จ.ระยอง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตถึงแม้ว่าท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและสิ่งมงคลของท่านยังเป็นที่นิยมบูชากันจวบจนทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านได้ศึกษาสนทนาธรรม ประกอบกับการได้ศึกษาอบรมทางด้านจิตภาวนาจากหลวงพ่อหอม ทำให้หลวงพ่อก้านเกิดศรัทธาเชื่อมั่นใฝ่หาหนทางแห่งมรรค

วิทยฐานะ แก้

  • พ.ศ. (ไม่ทราบปี) สอบได้นักธรรม ตรี - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง
  • พ.ศ. 2485 อายุ 23 พรรษาที่ 3 สอบได้นักธรรม โท - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง
  • พ.ศ. 2486 อายุ 24 พรรษาที่ 4 สอบได้นักธรรม เอก - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง

งานปกครอง แก้

  • พ.ศ. - เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่
  • พ.ศ. - เป็นพระกรรมวาจารย์
  • พ.ศ. - เป็นพระอุปัชฌาย์

งานพัฒนา แก้

  • พ.ศ. - หลวงพ่อก้านท่านเล่าว่า วัดห้วยใหญ่ในอดีตนั้นก่อนที่ท่านจะเป็นเจ้าอาวาสมีโบสถ์อยู่หนึ่งหลัง สภาพเป็นฝาไม้หลังคามุงกระเบื้อง ท่านจึงได้รื้อทิ้งและได้สร้างขึ้นใหม่ เงินทุกบาททุกสตางค์บรรดาญาติโยมมาทำบุญร่วมกันสร้าง และได้สร้างศาลาอเนกประสงค์อีกหนึ่งหลัง และพร้อมกับสร้างเมรุและสร้างโกดังเก็บศพ รวมทั้งหอระฆังและสร้างโรงครัว หลวงพ่อก้านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จากวัดที่รกร้างมาเป็นวัดที่เจริญสวยงามดังที่เห็นซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของท่านทั้งสิ้น
  • พ.ศ. - หลวงพ่อก้านท่านสร้างวัดมาแล้วหลายวัด ไม่ว่าจะเป็นวัดนาจอมเทียน วัดทุ่งระหาร และวัดชากแง้ว ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อก้านและศรัทธาญาติโยมได้ร่วมกันช่วยสร้างมาทั้งสิ้น
  • พ.ศ. - หลวงพ่อก้าน ท่านก็เห็นว่า ถนนหนทางในด้านการเดินทางไปมานั้นยังลำบาก ท่านจึงได้คิดที่จะพัฒนาโดยได้รับความร่วมมือจากศรัทธาญาติโยมร่วมกันสร้างถนนจาก นาจอมเทียนไปจนถึงบ้านบึง ซึ่งนับเป็นระยะทางถึง 8 กิโลเมตรจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี และได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาตราบจนถึงทุกวันนี้
  • พ.ศ. 2494 แต่ท่านก็ไม่ยอมหยุดนิ่ง ท่านมีความคิดที่จะเผยแพร่พุทธศาสนาให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ท่านจึงได้ช่วยสร้าง " วัดเทพบุตร " และวัดแห่งนี้หลวงพ่อเป็นผู้ตั้งชื่อวัดให้ ซึ่งหลวงพ่อก้านเล่าให้ฟังว่า เดิมทีวัดแห่งนี้ได้มีโยมอายุมากแล้วชื่อ " พรหม " นามสกุล " เกตุจรูญ " เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัด ก็ปรึกษากับหลวงพ่อก้านว่า ไม่รู้จะตั้งชื่อวัดนี้ว่ายังไงดี หลวงพ่อก้านท่านก็บอกกับโยมพรหมว่า ในเมื่อโยมชื่อพรหม อาตมาก็คิดว่าวัดแห่งนี้ควรจะตั้งชื่อว่า " เทพบุตร " ก็แล้วกัน จึงเป็นอันว่า วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเทพบุตรตราบเท่าทุกวันนี้[2]

มรณภาพ แก้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 นาวาเอกหญิงอุไรวรรณ ต่อประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกองการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี แจ้งว่าพระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภัทโก) อีดตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ มรณภาพ หลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2549

พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภักโก) ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 ด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 00.30 น. สิริอายุ 86 ปี พรรษาที่ 67

อ้างอิง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้