โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม
Sarasas Witaed Saimai school
ข้อมูล
ชื่ออื่นสวส.,SWS
คำขวัญAGE QUOD AGIS
ทำอะไร ทำจริง
เขตการศึกษากทม.
ประเภทโรงเรียนเอกชน
หมายเลข0-25634256-9
ผู้อำนวยการนายพิสุทธิ์ ยงค์กมล
สีสีน้ำเงิน,สีเหลือง
เพลงเพลงมาร์ชสารสาสน์
สังกัดสมาคมโรงเรียนเอกชนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน (A.P.E.P.) [1]
เว็บไซต์http://www.sarasassaimai.ac.th/

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม หรือ เอกตรา2 จัดเป็นโรงเรียนประเภทสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอนในระดับ เตรียมอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ และจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอนในลักษณะสองภาษา ไทย-อังกฤษ (BILINGUAL Thai-English) โดยมี "นายพิบูลย์ ยงค์กมล" เป็นผู้รับใบอนุญาต และ "นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล" เป็นผู้จัดการและผู้อำนวยการ

ไฟล์:SSPlogo.jpg
สัญลักษณ์โรงเรียนเครือสารสาสน์

ประวัติ แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม เป็นโรงเรียนในลำดับที่ 19 ของโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนสารสาสน์เริ่มดำเนินกิจการต่อจากโรงเรียนเทคโนโลยีสุขภาพในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษได้มากขึ้นภายใต้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ

    การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นและส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มความสามารถ มีอาคารเรียน 4 ชั้น จำนวน 1 หลัง, 1 สระว่ายน้ำ, สนามเอนกประสงค์ 2 สนาม, โรงอาหาร 1 หลัง, ห้องปฏิบัติการพิเศษ 12 ห้อง มีครูทั้งหมด 93คน ครูต่างชาติ 23 คน และ ครูไทย 70 คน มีนักเรียน 678 คน และห้องเรียน 20 ห้องเรียน

ปี พ.ศ. 2549 :

  • เนื่องจากจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงสร้างอาคารคอนกรีต 7 ชั้น ส่วนที่ 1 (ครึ่งเดียว) จำนวน 30 ห้องเรียน เพื่อใช้เป็นอาคารเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – มัธยมศึกษาปีที่ 1

ปี พ.ศ. 2550 :

  • สร้างอาคารเพิ่มเติมจากอาคารคอนกรีต 7 ชั้น เดิมเป็นรูปตัวแอล (L) จนเสร็จในปีพ.ศ. 2551 และใช้เป็นอาคารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – มัธยมศึกษาปีที่ 2

ปี พ.ศ. 2551 :

  • เปิดทำการสอนระดับชั้นNursery - มัธยมศึกษาปีที่ 2
  • จัดซื้อที่นาติดกับโรงเรียนด้านข้างเพิ่มอีก จำนวน 11 ไร่ โดยสร้างเป็นสนามฟุตบอลและลานกิจกรรมเอนกประสงค์
  • ปรับพื้นสนามเอนกประสงค์ 2 ปรับเปลี่ยนเป็นโรงอาหารสำหรับนักเรียนอาคารเรียน 7 ชั้น
  • ปรับปรุงห้องโถงใหญ่ด้านล่างอาคาร 7 ชั้น เป็นห้องธุรการ

วิสัยทัศน์ แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม มุ่งจัดการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารได้อย่างดี มีระเบียบวินัย ยึดมั่นประชาธิปไตยรักและภูมิใจในความเป็นไทยมีความคิดสร้างสรรค์ เฉลียวฉลาดและปราดเปรื่องในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ภายใต้กระแสความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ของสังคมโลก

พันธกิจ แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหมได้กำหนดพันธกิจ เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการพัฒนาการจัดการศึกษา

  • ส่งเสริมกิจกรรมที่ปลูกฝังให้นัก เรียนมีคุณธรรม รักและภูมิใจ ในความเป็นไทย
  • พัฒนาระเบียบวินัยความรับผิดชอบในการทำงานของนักเรียน ตลอดจนเคารพในสิทธิ์ และหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น อันเป็นหนทางไปสู่ภาวะการเป็นผู้นำ และผู้ตาม
  • พัฒนาผู้เรียนให้ฝึกประเมินปรับปรุงตนเอง และยอมรับผู้อื่น ตลอดจนใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง
  • สร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อท้าทาย ผู้เรียนให้สามารถสรรค์สร้าง ความรู้ได้ด้วยตนเอง คิด วิจารณ์ วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้ ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
  • พัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้นักเรียนมีส่วนร่วมทำกิจกรรม ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการฝึกปฏิบัติ จนค้นพบความถนัดและวิธีการ ของตนเอง ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข
  • ส่งเสริมกิจกรรม ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ตรงใน การใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อ การติดต่อสื่อสารได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
  • จัดหาเทคโนโลยีและท้าทายให้ผู้เรียน เข้าถึงสารสนเทศ โดยการใช้ ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการรับรู้ข้อมูล
  • ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดทำ ฐานข้อมูล เพื่อพัฒนาการ ปฏิบัติงาน และพัฒนาผู้เรียนอย่างมี ประสิทธิภาพ
  • พัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดี แก่ผู้เรียน
  • ส่งเสริมให้ผู้เรียนและบุคคลากรทุกคนภายในโรงเรียน มีโอกาสให้บริการ และพัฒนา ชุมชน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ ตรงทางด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมที่หลากหลาย

ปรัชญา แก้

"คุณธรรมนำวิชา ภูมิปัญญาพาพัฒนา" แก้

คุณธรรมนำวิชา แก้

หมายถึง การมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพมีคุณงามความดี ทั้งทาง กาย วาจา ใจ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต เพื่อการเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความอดทน มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีความกตัญญูกตเวที มีความเมตตากรุณา ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติและสังคมเกิดความสงบสุข เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนตนเองจนเกิด คุณธรรมดังกล่าวแล้ว คุณธรรมเหล่านั้นก็จะเป็น สิ่งที่คอยควบคุม กำกับ และน้อมนำให้การศึกษาเรียนรู้วิชาการต่างๆ เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในส่วนที่เป็นความรู้ของถิ่นกำเนิดของตนเองและส่วนที่เป็น ความรู้สากล ทำให้เกิดภูมิปัญญาขึ้นในตน มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเฉลียวฉลาด และปราดเปรื่อง มีความเข้าใจในความเป็นไปต่างๆ อย่าง ถูกต้อง

ภูมิปัญญาพาพัฒนา แก้

หมายถึง หลังจากที่นักเรียนได้ฝึกฝนตนเองจนเกิดคุณธรรมและผ่านกระบวนการ เรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมาแล้ว จะสามารถพัฒนาปรับปรุงตนเองได้เต็มศักยภาพ อย่างต่อเนื่อง พัฒนาปรับปรุงการทำงานให้มีขั้นตอนที่เหมาะสมและมีคุณภาพ ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนตลอดชีวิต พัฒนาตนเอง และสิ่งรอบตัวให้เกิดคุณค่า รักและภูมิใจในความเป็นไทย ขณะเดียวกันก็สามารถ ติดตามเรียนรู้เท่าทันความก้าวหน้าของสากล ภายใต้กระแส การเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาของโลกสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคม ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น และธรรมชาติได้อย่างมีความสุข

คติพจน์ แก้

" ทำอะไร ทำจริง " AGE QUOD AGIS (ALWAYS DO YOUR BEST ) แก้

ความหมาย คือ เมื่อลงมือทำในสิ่งใดก็ตาม ต้องมีความกล้าหาญ ที่จะลงมือทำสิ่งนั้นต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ทำอย่างเต็มความสามารถ ทำด้วยความเข้มแข็ง ทำด้วยความอดทนโดยมีวินัยในตนเอง กำกับ ควบคุม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคความยากลำบากใดๆ การทำสิ่งนั้นจึงจะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์

นโยบาย แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหมมุ่งดำเนินการจัดการศึกษา

1. เพื่อให้นักเรียนเติบโตขึ้นเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของสังคม เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม
2. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติจริง การฝึกทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
3. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ในเนื้อหาสาระที่จำเป็นสำหรับโลกอนาคต โดยเฉพาะ ความรู้ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการติดต่อ สื่อสาร
4. เพื่อให้นักเรียนได้รับประโยชน์จากการจัดการเรียนการสอนที่ได้รับความรู้ อย่างกว้างขวาง จากนานาอารยประเทศ โดยครูชาวต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังคงรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย
5. เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนา ความถนัด ความสนใจ ความสามารถ ตามศักยภาพของตนเอง

เป้าหมาย แก้

โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม ได้กำหนดเป้าหมายหลักในการจัดการศึกษาของโรงเรียนไว้ 5 ประการ ดังนี้

1. นักเรียนทุกคนเป็นผู้ที่มีคุณธรรม คือ มีความประพฤติดี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความ อดทน มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีความกตัญญูกตเวที มีความเมตตากรุณา มีความเสียสละ
2. ผู้บริหารและครูทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม และรักษาจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่างเคร่งครัด มีความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญในการทำงาน พัฒนางานและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
3. นักเรียนระดับประถมศึกษาทุกคน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ทำให้เกิดการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ มีความรู้ ในเชิงวิชาการและสิ่งรอบตัวที่เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารขั้นพื้นฐาน
4. นักเรียนระดับมัธยมศึกษาทุกคน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ทำให้เกิดการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ มีความรู้ใน เชิงวิชาการ เทคโนโลยี และสิ่งรอบตัวที่เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารและเข้าถึง สารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การบริหารและการจัดการของโรงเรียนเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โรงเรียนจัดการศึกษาได้ตามมาตรฐานและได้รับ การยอมรับจากชุมชน

เพลงประจำโรงเรียน แก้

เพลงมาร์ชสารสาสน์

สารสาสน์เอกตรา สถาบันรักยิ่ง

ซื่อสัตย์จริงยิ่งกิจจาชนศรัทธาผลงาน

น้ำเงิน เหลือง เรืองรองไม่เป็นรองใครทุกด้าน

ตระการผลงานให้ชนชื่นชม

คุณธรรมนำวิชาพัฒนาตน

ฝึกอดทนมีมานะสัมคมรับนิยม

ยึดมั่นในความดีเรืองศักดิ์ศรีมิให้ใครข่ม

เกลียวกลมรักใคร่ซึ้งในสามัคคี

เอกตรามีคุณธรรมนำรัฐดำรงคงอยู่คู่ไทย

ศาสน์มั่นไว้น้อมทำดี

ภูมิพลราชันย์ดุจมิ่งขวัญดวงใจน้องพี่

ยอมพลีชีพป้องกัน

มุ่งวิชาศาสตร์ภาษาเราไม่เคยหวั่น

ร่วมผสานประสบการณ์อุดมการณ์มากมี

วัฒนธรรมไทยสืบสานไว้รุ่งเรืองรวี

เอกตราเรานี้รักมั่นไม่มีวันลืม

http://www.sarasassaimai.ac.th/other/ektra2.mp3

ระบบการเรียนสองภาษา แก้

การจัดการเรียน การสอนแบบผสมผสาน 2 ภาษา คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษเพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาทั้งสอง ได้เป็นอย่างดี นักเรียนจะมีครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษาและครูไทยประจำชั้น คอยเอาใจใส่สอนวิชาตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการ นักเรียนจึงได้เรียนวิชาต่าง ๆ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยวิชาที่นักเรียนจะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ มีดังนี้ วิทยาศาสตร์ (เคมี ชีวะ ฟิสิกส์)สังคม, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ศิลปะ และพลศึกษา มีภาษาที่3 ให้เรียน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 คือ ภาษาจีน และระดับชั้นมัธยมศึกษาคือภาษาญี่ปุ่น

    นอกจากนั้นนักเรียนยังได้เรียนคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย เรียนว่ายน้ำ มีทัศนศึกษานอกสถานที่ นักเรียนจะศึกษาและเข้าใจเรื่องราว ความรู้ ยุคใหม่ แบบอย่างของโลกตะวันตก บนพื้นฐานความงดงามของวัฒนธรรมและประเพณีของไทย

เป้าหมายและผลที่คาดว่าจะได้รับ แก้

  • นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ และสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
  • เด็กได้เรียนรู้วิชาหลักเหมือนนักเรียนไทยทั่วไป และได้เรียนรู้เนื้อหาเดียวกัน แต่มากกว่าในรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ
  • เด็กเกิดวุฒิภาวะความรับผิดชอบต่อตนเองสูงสุดจากแนวการสอนแบบอาจารย์ต่างประเทศ โดยครูเจ้าของภาษาและครูชาวไทยที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
  • เยาวชนยังคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย ควบคู่ไปกับความรู้ด้านวิทยาการใหม่ๆ และมีโลกทัศน์ (World Vision) ที่กว้างขึ้น
  • ได้เยาวชนที่เป็นพลังของชาติ เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ มีความรู้กว้างไกล มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ รักความสามัคคีและทำงานเป็นหมู่คณะซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศสืบต่อไป

การวัดและประเมินผล แก้

     ใช้แนวการจัดจุดประสงค์และแนวการประเมินผลตามคู่มือการวัดและประเมินผลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งการวัดและการประเมินผลจากการทดสอบทั้งภาคภาษาไทยโดยครูชาวไทย และจากภาคภาษาอังกฤษโดยครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษา

การเรียนสองภาษา แก้

     การเรียนสองภาษามิใช่แปลเนื้อหาวิชาจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งเท่านั้น แต่มีการเรียนเนื้อหาในหัวข้อเดียวกันให้มีรายละเอียดเป็นทั้งสองภาษา วิชาที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษคือภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคม พลศึกษา และศิลปะ จากการศึกษาค้นคว้าและประสบการณ์จริงที่สั่งสมมาตลอด ในฐานะที่เป็นโรงเรียนแรก เราได้แบ่งอัตราการสอนเป็นแต่ละระดับชั้น มีการพัฒนารูปแบบและวางหลักสูตรให้เหมาะกับสภาพผู้เรียน โดยอิงกับเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด

ดนตรี แก้

     ดนตรี แนวทางการเรียนการสอนด้านดนตรีของโรงเรียนจะเริ่มตั้งแต่อนุบาลที่เน้นการขับร้อง เล่น เต้น ฟัง เพื่อเตรียมพัฒนาการทางด้านดนตรีสำหรับหลักสูตรที่สูงขึ้นไป เมื่อนักเรียนเข้าสู่ระดับประถมจะเริ่มเรียนการอ่านโน้ตไปพร้อมๆกับการเรียนปฎิบัติเครื่องมือทั้งไทยและสากล นักเรียนทุกคนจึงสามารถเล่นดนตรีได้อย่างน้อย 1 ชิ้น เมื่อจบการศึกษาตามหลักสูตรจากเราโดยไม่ต้องเรียนพิเศษจากนอกโรงเรียน

หลักสูตร แก้

เป็นหลักสูตรที่กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ในการพัฒนาผู้เรียนตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับผู้เรียนทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถปรับใช้ได้กับการศึกษาทุกรูปแบบ ทั้งในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัยในส่วนของการจัดการศึกษาปฐมวัย กำหนดให้มีหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยเป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นการสร้างเสริมพัฒนาการและเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สถานศึกษา นำไปใช้จัดการเรียนรู้ในสถานศึกษานั้น กำหนดโครงสร้างที่เป็นสาระการเรียนรู้ จำนวนเวลาอย่างกว้างๆ มาตรฐานการ เรียนรู้ที่แสดงคุณภาพผู้เรียนเมื่อเรียนจบ 12 ปี และเมื่อจบการเรียนรู้แต่ละช่วงชั้นของสาระการเรียนรู้ แต่ละกลุ่มสถานศึกษา ต้องนำโครงสร้างดังกล่าวนี้ไปจัดทำเป็นหลักสูตรสถานศึกษา โดยคำนึงถึงสภาพปัญหา ความพร้อม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้งนี้ สถานศึกษา ต้องจัดทำรายวิชาในแต่ละกลุ่มให้ครบถ้วนตามมาตรฐานที่กำหนดสถานศึกษา ต้องจัดสาระการเรียนรู้ให้ครบทั้ง 8 กลุ่มในทุกชั้นให้เหมาะสมกับธรรมชาติการเรียนรู้ และระดับพัฒนาการของผู้เรียน โดยใน ช่วงการศึกษาภาคบังคับ คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดหลักสูตรเป็นรายปี และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

ช่วงชั้นที่ 1 และ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 และปีที่ 4-6 แก้

    การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษภาคบังคับ หลักสูตร ที่จัดขึ้นมุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาคุณภาพชีวิต กระบวนการ เรียนรู้ทางสังคม ทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การติดต่อสื่อสารและพื้นฐานความเป็นมนุษย์ เน้นการบูรณาการอย่างสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม

ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 แก้

    เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสำรวจความสามารถ ความถนัด ความสนใจของตนเอง และพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน พัฒนาความสามารถ ทักษะพื้นฐานด้านการเรียนรู้ และทักษะในการดำเนินชีวิต ให้มีความสมดุล ทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงาม และความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถเสริมสร้างสุขภาพส่วนตนและชุมชน มีความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อ

ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 แก้

    เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน มุ่งปลูกฝังความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในวิทยาการและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพมุ่งมั่นพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผู้นำ และผู้ให้บริการชุมชนในด้านต่างๆ ลักษณะหลักสูตรในช่วงชั้นนี้จัดเป็นหน่วยกิตเพื่อให้มีความยืดหยุ่น ในการจัดแผนการเรียนรู้ ที่ตอบสนองความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ

ชั้นอนุบาล 1 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

เนื้อหาที่เรียน ครูผู้สอนจะจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความสนใจของผู้เรียนรวมทั้งสร้างบรรยากาศใน ห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น จัดมุมต่างๆ มุมบล็อก มุมเครื่อง เล่นสัมผัส มุมเกมการศึกษา มุมศิลปะ มุมหนังสือ เพื่อให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมตามความสนใจและครูจะเป็นผู้สังเกตและให้การสนับสนุนจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เอื้อต่อ การพัฒนาความสามารถของผู้เรียน ให้เต็มตามศักยภาพและสอดคล้องเป็นไปตามจุดประสงค์ของการ เรียนรู้ในแต่ละระดับโดยปรับผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และปรับบทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ชี้แนะ สนับสนุนและเอาใจใส่เด็กได้เรียนรู้อย่างเป็นกระบวนการ ด้วยวิธีการสอนที่เหมาะสมกับวัยส่งเสริมผู้เรียนให้สร้างองค์ความรู้โดยเรียนจากประสบการณ์ จริง และกิจกรรมต่างๆที่เด็กได้สัมผัส ปฎิบัติด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และเข้าใจ

ชั้นอนุบาล 2-3 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 80 : 20 แก้

จากโครงสร้างหลักสูตรตามปกติในระบบสองภาษานั้น การจัดการเรียนการสอนจะเท่ากับ 50 : 50 ในรายวิชาหลัก ซึ่งในที่นี้หมายถึงวิชาคณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษ, พลศึกษา, ศิลปะและสปช. (ในระดับประถม) วิทยาศาสตร์และสังคม (ในระดับมัธยม) แต่เพื่อให้นักเรียนในระดับอนุบาล - ป.1 ได้มีทักษะทางการฟังและการพูดมากขึ้น ทางโรงเรียนจึงเพิ่มอัตราส่วนให้มากขึ้นกว่าเดิมคือ 85: 15 เพื่อให้ นักเรียนได้มีพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเรียนระดับสูงต่อไปถือเป็นบริการที่ทางโรงเรียนจัดให้แก่นักเรียนโดยไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายอย่างใด

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ในระดับประถมนี้จะมีการแยกรายวิชาเรียนชัดเจนขึ้นการเรียนทั้ง 2 ภาษาในวิชาหลัก (ที่กล่าวข้างต้น) จะคิดเป็น 50: 50 โดยประมาณ ทั้งนี้เพราะนักเรียนจะต้องได้รับการปูพื้นฐาน ในวิชาภาษาไทยให้มาก ขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการสอบต่อไปในขณะที่ชั้นประถมปีที่ 2 ยังคง มีอัตราส่วนที่อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ เพื่อให้นักเรียนมีเวลาในการปรับตัวกับการเรียนภาษาไทยได้ดีขึ้น

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ถือเป็นพื้นฐานของระดับมัธยมต้น และมัธยมปลายทางโรงเรียนจึงมุ่งหวังให้นักเรียน เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษในระดับสูง เพื่อสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและสำหรับการเรียนต่อ ในระดับมหาวิทยาลัย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 5 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 : อัตราส่วนการสอนเท่ากับ 50 : 50 แก้

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 นักเรียน บางคนอาจจะต้องเตรียมตัวสำหรับ การสอบเรียนต่อในระดับมัธยมปลายของโรงเรียนรัฐบาล นักเรียนจึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับวิชาในภาคภาษาไทยให้มากขึ้น เพื่อการสอบ แข่งขันในอนาคต

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทุกคนต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทางโรงเรียนจึงสนับสนุนให้นักเรียนได้รับความรู้ในภาคภาษาไทยอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันนักเรียนทุกคนยังคงได้เรียนภาษาอังกฤษจาก คุณครูชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะเมื่อนักเรียนเรียนจบชั้นสูงสุดของทางโรงเรียน คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนจะมีทางเลือกทางการศึกษาต่อได้มากกว่า 1 ทาง ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐมหาวิทยาลัยระบบนานาชาติหรือการศึกษาต่อในต่างประเทศ ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดโครงการพิเศษไว้ให้กับนักเรียนเช่นกัน

  1. "รายชื่อโรงเรียนเอกชนที่ใช้ภาษาอังกฤษ" (PDF). สมาคมโรงเรียนเอกชนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ :1