คฤหาสน์โวเบิร์น

คฤหาสน์โวเบิร์น หรือ คฤหาสน์วูเบิร์น (อังกฤษ: Woburn Abbey) เป็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านโวเบิร์น (หรือวูเบิร์น) ในเทศมณฑลเบดฟอร์ดเชอร์ในสหราชอาณาจักร โวเบิร์นเป็นที่ตั้งของดยุคแห่งเบดฟอร์ดและเป็นที่ตั้งของอุทยานซาฟารีเบดฟอร์ด

คฤหาสน์โวเบิร์น
Woburn Abbey
คฤหาสน์โวเบิร์น
แผนที่
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทคฤหาสน์ชนบท
เมืองโวเบิร์น, มณฑลเบดฟอร์ดเชอร์
ประเทศอังกฤษ, สหราชอาณาจักร
พิกัด51°59′13.98″N 0°36′22.85″W / 51.9872167°N 0.6063472°W / 51.9872167; -0.6063472
เริ่มสร้างค.ศ. 1145 - สถาปนาเป็นแอบบีย์
ปรับปรุงค.ศ. 1744
เว็บไซต์
สิ่งก่อสร้างภายใต้การพิทักษ์ ระดับ 1

ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 แก้

คฤหาสน์โวเบิร์นประกอบด้วย "อุทยานโวเบิร์น" และตัวสิ่งก่อสร้างที่เดิมเป็นแอบบีย์ซิสเตอร์เชียนที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1145 [1] ในปี ค.ศ. 1547 สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงยึดแอบบีย์โวเบิร์น และนำไปมอบให้แก่จอห์น รัสเซลล์ เอิร์ลแห่งเบดฟอร์ดที่ 1 ซึ่งทำให้โวเบิร์นกลายเป็นที่ตั้งของตระกูลรัสเซลล์และดยุคแห่งเบดฟอร์ด แอบบีย์ส่วนใหญ่ได้รับการสร้างใหม่ ในปี ค.ศ. 1744[1]โดยสถาปนิกเฮนรี ฟลิทครอฟท์ และ เฮนรี ฮอลแลนด์ให้แก่จอห์น รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 4 แอนนา รัสเซลล์ ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดภรรยาของฟรานซิส รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 7 ได้ชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่มอาหารว่างมื้อบ่ายที่กลายมาเป็นประเพณีการดื่มชา ราว ค.ศ. 1800 เพื่อเป็นแก้หิวระหว่างคอยอาหารค่ำ ซึ่งก็ยังประเพณีที่ปฏิบัติกันอยู่บ้างในปัจจุบัน

ค.ศ. 1945 ถึง ค.ศ. 1970s แก้

 
ผังของโวเบิร์นก่อนที่จะถูกทำลายไปบางส่วน
 
ด้านตะวันออกของคฤหาสน์โวเบิร์นมองจากลานกลางเดิม

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็พบรอยไม้ผุที่ทำให้ต้องรื้อคฤหาสน์ลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเฮสติงส์ วิลเลียม แซ็ควิลล์ รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 12 เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1953 บุตรชายจอห์น โรเบิร์ต รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 13 ผู้ประสบกับภาษีมรดกจำนวนมหาศาลสำหรับบ้านที่ถูกรื้อไปครึ่งหนึ่งและอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม แต่แทนที่จะยกคฤหาสน์ให้แก่องค์การเพื่อการอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญและความสวยงามแห่งชาติ หรือ องค์การอนุรักษ์แห่งชาติ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดก็หาทางนำเงินมาช่วยในทำนุบำรุงและรักษาคฤหาสน์โดยการเปิดคฤหาสน์ให้สาธารณชนเข้าชมเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 เมื่อกลายเป็นนิยมทางคฤหาสน์ก็เพิ่มสิ่งต่างๆ ขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รวมทั้งอุทยานซาฟารีเบดฟอร์ดที่เปิดขึ้นในปี ค.ศ. 1970

คริสต์ทศวรรษ 1970 ถึง ค.ศ. 2003 แก้

ในปี ค.ศ. 1975 จอห์น โรเบิร์ต รัสเซลล์ย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่มอนติคาร์โล[2] โรบินบุตรชายผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นมาร์ควิสแห่งทาวิสต็อค (Marquess of Tavistock) และภรรยามาร์ชอนเนสแห่งทาวิสต็อคจึงดำเนินการบริหารคฤหาสน์โวเบิร์นต่อแทนบิดา

ระหว่างปี ค.ศ. 1999 ถึงปี ค.ศ. 2002 บีบีซีสร้างรายการต่อเนื่องสามชุดทั้งหมด 29 ตอนโดยการติดตามรายละเอียดชีวิตประจำวันที่เกี่ยวกับการบริหารและการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคฤหาสน์โวเบิร์นโดยมีมาร์ควิสและมาร์ชอนเนสเองเป็นผู้แสดงและบรรยาย

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2002 เมื่อดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 13 เสียชีวิตลง มาร์ควิสแห่งทาวิสต็อคก็ได้รับบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดาเป็นโรบิน รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 14 แต่โรบินดำรงบรรดาศักดิ์อยู่ได้เพียงไม่ถึงปีก็มาเสียชีวิตในเดือนมิถุนายนปีต่อมา

ค.ศ. 2003 จนถึงปัจจุบัน แก้

หลังจากการเสียชีวิตของดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 14 บุตรชายคนโตผู้ได้รับบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดาเป็นแอนดรู เอียน เฮนรี รัสเซลล์ ดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ 15 จึงเป็นผู้ดำเนินการบริหารคฤหาสน์ต่อจากบิดา

"คฤหาสน์โวเบิร์น" ที่เป็นสิ่งก่อสร้างสิ่งก่อสร้างภายใต้การพิทักษ์ ระดับ 1 ในปัจจุบันเป็นขององค์การอนุรักษ์แห่งชาติแห่งอังกฤษ

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "Woburn, England - LoveToKnow 1911" (HTML). Encyclopædia Britannica Eleventh Edition. Encyclopædia Britannica. 2005-12-15. สืบค้นเมื่อ 2008-10-06.
  2. "The Duchess of Bedford" by Nicole Nobody

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ คฤหาสน์โวเบิร์น