การล้มละลายของดีทรอยต์
เทศบาลเมืองดีทรอยต์ยื่นคำร้องขอล้มละลายตามหมวด 9 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 นับเป็นคดีเทศบาลล้มละลายซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา โดยหนี้ของเทศบาลเมืองดีทรอยต์นั้นมีประมาณหนึ่งหมื่นแปดพันถึงสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าหนี้จำนวนสี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐของเทศมณฑลเจฟเฟอร์สัน (Jefferson County) ในคดีล้มละลายเมื่อปี 2554[1] นอกจากนี้ ดีทรอยต์ยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเท่าที่เคยขอล้มละลายมาในประวัติศาสตร์อเมริกา มากกว่าเมืองสต็อกตัน (Stockton) ที่ขอล้มละลายเมื่อปี 2555 ถึงสองเท่า[1]
ในเดือนมีนาคม 2556 เมืองดีทรอยต์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการเงิน เป็นเหตุให้เควิน ออร์ (Kevyn Orr) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการฉุกเฉิน (emergency manager) ภายหลัง ผู้จัดการฉุกเฉินได้เจรจากับบรรดาเจ้าหนี้เพื่อขอให้ยอมปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่เมืองดีทรอยต์ แต่ไร้ผล[2][3] เมืองดีทรอยต์จึงขอล้มลายในที่สุด
วันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ตุลาการศาลเคลื่อนที่ (circuit court) วินิจฉัยว่า คำร้องขอล้มละลายของเมืองดีทรอยต์นั้นขัดต่อธรรมนูญมิชิแกน (Constitution of Michigan) และสั่งให้ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนถอนคำร้องโดยพลัน[4] บิล ชูตี (Bill Schuette) อธิบดีอัยการมิชิแกน อุทธรณ์คำวินิจฉัยนี้แทนผู้ว่าการรัฐทันที และขอให้ทุเลาการบังคับตามคำวินิจฉัยดังกล่าวในระหว่างอุทธรณ์ด้วย[5]
ประวัติ
แก้ในเดือนเมษายน 2555 เดฟ บิง (Dave Bing) นายกเทศมนตรีเมืองดีทรอยต์ พร้อมด้วยสภาเมืองดีทรอยต์ ทำข้อตกลงกับริก สไนเดอร์ (Rick Snyder) ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ว่า จะยอมให้องค์การปกครองรัฐมิชิแกนกำกับดูแลการเงินของเมืองในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น แต่รัฐมิชิแกนต้องอุดหนุนการเงินของเทศบาลตอบแทน[6] ครั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนแถลงว่า องค์การปกครองรัฐมิชิแกนได้เข้าควบคุมการเงินของเทศบาลเมืองดีทรอยต์แล้ว เพราะเห็นว่า เทศบาลไม่ปฏิบัติตามระยะเวลาที่องค์การปกครองรัฐมิชิแกนกำหนดไว้[6] พอเดือนถัดมา เทศบาลเมืองดีทรอยต์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการเงิน คณะกรรมการการเงินกู้ยืมสงเคราะห์ฉุกเฉินสำหรับท้องถิ่น (Local Emergency Financial Assistance Loan Board) ขององค์การปกครองรัฐมิชิแกน จึงอาศัยอำนาจตามความในรัฐบัญญัติมหาชนที่ 72 ค.ศ. 1990 (Public Act 72 of 1990) แต่งตั้งเควิน ออร์ เป็นผู้จัดการฉุกเฉิน[2] มีอำนาจแก้ไขสัญญาต่าง ๆ ของเทศบาลเมืองดีทรอยต์ และชำระบัญชีสินทรัพย์ของเทศบาล[7]
ในเดือนพฤษภาคม 2556 ผู้จัดการฉุกเฉินรายงานสถานการณ์ทางการเงินของเทศบาล[8][9] ปรากฏว่า เทศบาล "มีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างแจ้งชัดเพราะขาดงบเงินสด"[8][9][10] และในระยะเวลาเพียงสองเดือน งบประมาณขาดดุลถึงสามร้อยแปดสิบหกล้านดอลลาร์สหรัฐ[8][9]
ครั้นเดือนมิถุนายน 2556 เทศบาลเมืองดีทรอยต์จึงหยุดชำระหนี้บางส่วนซึ่งไม่มีหลักประกัน รวมถึงหนี้ในการจ่ายบำเหน็จบำนาญด้วย[3] และเพื่อไม่ต้องล้มละลาย ผู้จัดการฉุกเฉินเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้ขอให้ยอมรับชำระหนี้เพียงร้อยละ 10 ก็พอ[3] พอเดือนถัดมา เจย์ คาร์นีย์ (Jay Carney) โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า บารัก โอบามา (Barack Obama) ประธานาธิบดี ยังไม่มีแผนจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เทศบาลเมืองดีทรอยต์ดังที่เคยช่วยผู้ผลิตรถยนต์ ณ เมืองดีทรอยต์มาแล้วในกรณีของเจเนอรัลมอเตอส์ (General Motors) กับไครส์เลอร์ (Chrysler)[3] เมื่อถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 กองทุนบำเหน็จบำนาญเทศบาลสองกองทุนได้ขอให้ศาลรัฐมิชิแกนสั่งห้ามผู้จัดการฉุกเฉินตัดงบประมาณของกองทุนเพื่อลดการขาดดุลของงบประมาณเทศบาล[11][12] วันรุ่งขึ้น เทศบาลเมืองดีทรอยต์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ตนล้มละลาย
ทั้งนี้ นับแต่ปี 2480 เป็นต้นมา มีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกาขอล้มละลายตามหมวด 9 มาแล้วมากกว่าหกร้อยคดี[13] และคดีก่อนหน้าซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงที่สุดนั้น คือ คดีของเทศมณฑลเจฟเฟอร์สัน รัฐแอละแบมา เมื่อ พ.ศ. 2554[14]
การขอล้มละลาย
แก้การเจรจาระหว่างผู้จัดการฉุกเฉิน กับเจ้าหนี้ รวมถึงสหภาพต่าง ๆ และคณะกรรมการบำเหน็จบำนาญ ดำเนินมาหลายเดือน แต่ที่สุดกลับล้มเหลว[15] เทศบาลเมืองดีทรอยต์จึงยื่นคำร้องต่อศาลแขวงสหรัฐอเมริกาประจำแขวงมิชิแกนตะวันออก (United States District Court for the Eastern District of Michigan) แผนกคดีล้มละลาย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 เพื่อขอให้สั่งพิทักษ์ทรัพย์ (bankruptcy protection)[16][7] และผู้ว่าการรัฐมิชิแกนลงลายมือชื่อรับรองคำร้องในหนังสือแนบท้าย[12] ตามปรกติแล้ว ศาลจะใช้เวลาราวสามเดือนในการวินิจฉัยว่า เทศบาลเมืองดีทรอยต์มีอำนาจขอล้มละลายตามหมวด 9 หรือไม่[7]
คำร้องระบุว่า เหตุผลบางประการในการขอล้มละลาย คือ ฐานภาษีลดลดเพราะประชากรลดลง ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการและบำเหน็จบำนาญของข้าราชการเกษียณมีมาก กู้ยืมเงินมาแก้ไขปัญหางบประมาณขาดดุลตั้งแต่ปี 2551[17] ต้องดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานทะเบียนที่ล้าสมัยและคุณภาพต่ำ[1] ร้อยละห้าสิบสามของผู้มีหน้าที่ชำระภาษีทรัพย์สินไม่ปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2553[18] และมีการฉ้อราษฎร์บังหลวง[19]
หนี้ระยะยาวของเทศบาลเมืองดีทรอยต์นั้นพอประมาณได้ว่า มากกว่าหนึ่งหมื่นสี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอยู่ที่ราวหนึ่งหมื่นแปดพันถึงสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ[15] แต่การล้มละลายจะส่งผลต่อเทศบาลเมืองดีทรอยต์เช่นไรก็ยังไม่แน่ชัด[1] ข้าราชการในรัฐมิชิแกนเห็นว่า ราชการงานเมืองจะไม่กระทบกระเทือนทันที[1] ขณะที่บรรษัทค้ำประกันผลประโยชน์ด้านบำเหน็จบำนาญ (Pension Benefit Guaranty Corporation) ไม่รับประกันพนักงานเทศบาลที่เกษียณอายุงานแล้ว เพราะพนักงานเหล่านี้เป็นบุคลากรเทศบาล ไม่ได้ทำงานเชิงธุรกิจ ทั้งพนักงานบางคนก็ได้รับประโยชน์จากบำเหน็จบำนาญแทนประโยชน์จากประกันสังคมอยู่แล้ว[20]
ดักลาส เบิร์นสเตน (Douglas Bernstein) นักนิติศาสตร์ด้านล้มละลาย ว่า ค่าฤชาธรรมเนียมคดีล้มละลายของเทศบาลเมืองดีทรอยต์นั้นอยู่ที่ "หลายสิบล้านถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์" (tens-of-millions to hundreds-of-millions of dollars)[21] ส่วนผู้จัดการฉุกเฉินคาดว่า เทศบาลเมืองดีทรอยต์จะพ้นจากภาวะล้มละลายได้ภายในปลายฤดูร้อนหรือใบไม้ร่วงของปี 2557 และกล่าวว่า กำลังดำเนินการอย่าง "เร็วเท่าที่จะเร็วได้"[22]
ผู้จัดการฉุกเฉินเห็นสมควรให้ขายสินทรัพย์มีราคาของเทศบาลเอาเงินมาชำระหนี้ แต่ก็ทำมิได้เพราะขัดต่อกฎระเบียบหลายประการ[7][15] เช่น ศิลปวัตถุอันมีราคาในสถาบันศิลปะดีทรอยต์ (Detroit Institute of Art) นั้น ขายไม่ได้ เพราะมีข้อตกลงระหว่างเทศบาลกับเอกชนและมีข้อกฎหมายของรัฐมิชิแกนห้ามไว้ ส่วนสินทรัพย์อื่น ๆ ที่อาจขายได้นั้นมีท่าอากาศยานนานาชาติโคลแมน เอ. ยัง (Coleman A. Young International Airport) และสวนเบลไอล์ (Belle Isle Park) เป็นต้น[7] เอดดี ฟรานซิส (Eddie Francis) นายกเทศมนตรีเมืองวินด์เซอร์ รัฐออนแทริโอ ระบุว่า เทศบาลของตนสนใจจะซื้ออุโมงค์ดีทรอยต์–วินด์เซอร์ (Detroit–Windsor Tunnel) ครึ่งหนึ่ง ถ้าเทศบาลเมืองดีทรอยต์นำอุโมงค์นี้ออกขาย[23]
การตอบรับ
แก้วันที่ 19 กรกฎาคม 2556 โรสแมรี อากีลีนา (Rosemarie Aquilina) ตุลาการศาลเคลื่อนที่ประจำเทศมณฑลอิงแฮม (Ingham County) ทำคำวินิจฉัยซึ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมแนบบันทึกเขียนด้วยมือ สรุปว่า คำร้องขอล้มละลายของเทศบาลเมืองดีทรอยต์นั้นขัดต่อธรรมนูญมิชิแกน เพราะกระทบกระเทือนการให้บำเหน็จบำนาญ และสั่งให้ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนถอนคำร้อง ผู้ว่าการอุทธรณ์ และตุลาการระบุว่าจะได้แจ้งคำวินิจฉัยให้ประธานาธิบดีทราบด้วย[4]
ทั้งนี้ แม้ธรรมนูญมิชิแกน มาตรา 9 อนุมาตรา 24 ห้ามรัฐหรือหน่วยย่อยทางการปกครองหน่วยใด ๆ ผิดนัดชำระผลประโยชน์ทางการเงินตามแผนบำเหน็จบำนาญหรือระบบเกษียณอายุราชการ[24] แต่กฎหมายกลางให้ตุลาการแผนกคดีล้มละลายมีอำนาจเจรจาต่อรองใหม่ซึ่งบำเหน็จบำนาญของเทศบาลที่ล้มละลายได้[25] ฉะนั้น เมื่อผู้คนจำนวนมากเห็นว่า เงินบำเหน็จบำนาญราชการ "เสมือนจะแตะต้องมิได้" การขัดกันระหว่างสิทธิบำเหน็จบำนาญราชการที่ได้รับความคุ้มครองตามธรรมนูญของรัฐ กับอำนาจพื้นฐานของศาลล้มละลายในอันที่จะปรับปรุงหนี้นั้น จะเป็นเครื่องทดสอบกระบวนการใด ๆ ตามความในหมวด 9 อย่างแท้จริง[26]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Davey, Monica; Walsh, Mary Williams (July 18, 2013). "Billions in Debt, Detroit Tumbles Into Insolvency". The New York Times. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ 2.0 2.1 "Snyder confirms financial emergency in Detroit, turnaround expert Kevyn Orr appointed EFM" (Press release). Office of the Governor. March 14, 2013. สืบค้นเมื่อ April 3, 2013.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 Shepardson, David (July 11, 2013). "White House not offering Detroit help to avoid bankruptcy". The Detroit News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-19. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ 4.0 4.1 Mullen, Ann (July 19, 2013). "Judge rules Detroit Chapter 9 bankruptcy filing unconstitutional". Detroit: WXYZ-TV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-23. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Egan, Paul (July 19, 2013). "Michigan AG challenges judge's ruling that Detroit bankruptcy is unconstitutional". Detroit Free Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-31. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ 6.0 6.1 "Michigan Gov. Rick Snyder takes over Detroit's finances amid financial emergency". CTV News. Associated Press. February 20, 2013. สืบค้นเมื่อ July 18, 2013.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 Fletcher, Michael A. (July 18, 2013). "Detroit files largest municipal bankruptcy in U.S. history". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 "Report by emergency manager says Detroit's finances are crumbling, future is bleak". Fox News. May 13, 2013. สืบค้นเมื่อ May 15, 2013.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 Helms, Matt; Guillen, Joe (May 13, 2013). "Financial manager: Detroit 'dysfunctional, wasteful'". USA Today. สืบค้นเมื่อ May 15, 2013.
- ↑ "Detroit 'clearly insolvent', says emergency manager". BBC News. May 13, 2013. สืบค้นเมื่อ May 15, 2013.
- ↑ Snell, Robert (July 17, 2013). "Detroit pension funds sue to block potential bankruptcy". The Detroit News. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 12.0 12.1 Kaffer, Nancy; Henderson, Stephen; Helms, Matt (July 18, 2013). "Detroit files for bankruptcy protection". USA Today. สืบค้นเมื่อ July 18, 2013.
- ↑ Wozniacka, Gosia (June 27, 2012). "Stockton bankruptcy is hard hit for city retirees". The Boston Globe. Associated Press. สืบค้นเมื่อ July 18, 2013.
- ↑ Wheeler, Brian (December 14, 2011). "The scandal of the Alabama poor cut off from water". BBC News. สืบค้นเมื่อ December 15, 2011.
- ↑ 15.0 15.1 15.2 Williams, Corey (July 19, 2013). "In Despair, Detroit Files for Bankruptcy" (PDF). The Express. Washington, DC. Associated Press. p. 3. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "City of Detroit Bankruptcy Filing". Eastern District of Michigan U.S. Bankruptcy Court. July 18, 2013. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ "Detroit's Bankruptcy Follows Decades of Decay". Southfield, MI: WWJ-TV. Associated Press. July 19, 2013. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Dymond, Jonny. "Detroit becomes largest US city to file for bankruptcy". BBC News. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Durbin, Dee-Ann; Krishner, Tom (July 18, 2013). "Detroit's bankruptcy follows decades of decay". The Seattle Times. Associated Press. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Hicken, Melanie (February 27, 2013). "Detroit's workers and retirees face big cuts". CNN. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Carey, Nick (July 18, 2013). "Detroit files for bankruptcy, stage set for court fight". Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-18. สืบค้นเมื่อ July 18, 2013.
- ↑ Neavling, Steve (July 18, 2013). "Detroit bankruptcy filing marks new low for Motor City". Chicago Tribune. Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-19. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Gallagher, John (July 19, 2013). "Windsor mayor: We would consider buying tunnel to Canada if it's sold in bankruptcy". Detroit Free Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-02. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Michigan Legislature (December 2010). "Article IX § 24". Constitution of Michigan of 1963 (PDF). State of Michigan. p. 44. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ "Confusion in Detroit as judge challenges legality of bankruptcy". Fox News. July 19, 2013. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.
- ↑ Benvenutti, Peter J.; Heiman, David G.; Lennox, Heather; Sinanyan, Lori; Sisitsky, Mark K.; Tambe, Jayant W. (August 2010). "An Overview of Chapter 9 of the Bankruptcy Code: Municipal Debt Adjustments". Jones Day. สืบค้นเมื่อ July 19, 2013.