กลาย[1] (เยอรมัน: die Verwandlung) เป็นนวนิยายเยอรมันประพันธ์โดยฟรันทซ์ คัฟคา ในปี ค.ศ. 1912 และ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1915 ในนิตยสาร die Weißen Blätter ในปีเดียวกันได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือโดย Kurt Wolff

กลาย
ปกรุ่น ค.ศ. 1916
ผู้ประพันธ์ฟรันทซ์ คัฟคา
ชื่อเรื่องต้นฉบับDie Verwandlung
ประเทศจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี, ปัจจุบันคือประเทศเช็กเกีย
ภาษาเยอรมัน
สำนักพิมพ์เคิร์ต โวล์ฟฟ์, ไลพ์ซิช
วันที่พิมพ์ค.ศ. 1915
ฉบับแปลกลาย ที่ วิกิซอร์ซ

เนื้อหา

แก้

ส่วนที่ 1

Als Gregor Samsa eines Morgens aus unruhigen Träumen erwachte, fand er sich in seinem Bett zu einem ungeheueren Ungeziefer verwandelt[2]

ในขณะที่เกรกอร์ สัมซ่า ตื่นมาตอนเช้าจากการฝันร้าย เขาได้พบว่าตัวเขาได้กลายเป็นแมลงไปแล้ว เขา (เกรกอร์ สัมซ่า) คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเพียงแค่ชั่วคราว จึงพยายามปรับตัวเข้ากับ"การเปลี่ยนแปลง" เริ่มแรกเขาลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ จึงทำการคิดถึงอาชีพของเขา ซึ่งเป็นพ่อค้าขายผ้าซึ่งต้องเดินทางเรื่อยๆ ด้วยความที่ต้องใช้หนี้ให้ครอบครัวและการที่เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน เขาจึงจำใจทำงานนั้น แต่ถ้าหากเขาเลือกได้เขาก็จะลาออกทันที ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกผูกมัดกับอาชีพของเขา แต่เนื่องจากที่ทำงานรอเขาอยู่ในวันนั้นและในร่างนี้เขาไม่สามารถออกจากบ้านได้ ผู้จัดการจึงแวะมาถึงที่บ้าน เพื่อมาดูว่าเหตุใดจึงไม่ไปทำงานและเพื่อมาสั่งให้ไปทำงาน ครั้นเจ้านายได้มาพบเขาในสภาพนั้นก็ได้เผ่นหนีทันที เช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะพ่อที่ไล่และขู่ให้เขากลับเข้าไปในห้อง

ส่วนที่ 2

ด้วยการที่เกรกอร์ทำงานไม่ได้ การเงินภายในครอบครัวจึงต้องแย่ลง แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าครอบครัวมีเงินเก็บที่เกรกอร์ไม่เคยรู้ จากนั้นมาทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป จากเดิมที่เกรกอร์จะส่งน้องสาวไปมหาวิทลัย เพื่อเรียนดนตรี กลายเป็นว่าน้องสาวต้องมาเลี้ยงดูเขาแทน แต่น้องสาวไม่ได้ทำเพราะความเป็นพี่น้องหรือความเห็นใจ เธอดูแลเขาเพราะเธอต้องการให้พ่อแม่เห็นความสำคัญของเธอ สิ่งที่เดิมแสดงถึงความเป็นมนุษย์ของเกรกอร์เริ่มหายไป กลาย เป็นสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์แทน เขาเองก็ปลงใจและยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของเขา โดยตอนนี้เขามีความสามารถในการไต่กำแพงและพนังได้ ครั้นแม่เขาและน้องสาวจะเก็บของออกจาากห้องเพื่อให้เขาสามารถไต่กำแพงได้สะดวก เขาก็ได้พยายามปกป้องภาพผู้หญิงในชุดขนสัตว์ไว้ ซึ่งเป็นภาพที่เขารักมาก ครั้นเขาไต่ไปทับภาพ แม่เขาคิดว่าเขาจะโจมตี จึงตกใจ ทำให้น้องสาวเขาต้องรีบไปเอายาจากห้องครัว เขาตามน้องสาวไปในครัว ในขณะที่หันกลับมายาตกใส่และกัดเขา ในขณะนั้นพ่อกลับมาและโยนแอปเปิ้ลไล่เขา ซึ่งลูกหนึ่งได้ติดอยู่ในหลังเขาและทำให้เขาบาดเจ็บอย่างสาหัส

ส่วนที่ 3

ในสัปดาห์ต่อๆมา เนื่องจากการบาดเจ็บจากแอปเปิ้ลเน่าที่ฝังอยู่ในหลัง เขาไม่กินอาหารแล้ว และในขณะนั้นไม่มีใครในครอบครัวดูแลเขา ห้องส่วนตัวกลายเป็นห้องเก็บของ เพื่อให้การเงินดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวจึงหางานทำและได้เปิดห้องที่เหลือในบ้านให้เช่า ในขณะเดียวกันเขาถูกปล่อยและเริ่มอยู่คนเดียวตัดจากโลกภายนอก ในบางครั้งที่ผู้เช่าไม่อยู่ ครอบครัวเขาเปิดประตูให้ ในขณะที่ครอบครัวอยู่ในห้องครัวแต่เขาอยู่ในห้องเก็บของนั้น และในวันหนึ่งประตูห้องได้เปิดคาไว้และในขณะนั้นเสียงไวโอลินของน้องสาวทำให้เขาได้ออกมาฟัง ซึ่งทำให้ผู้เช่าทั้งสามเห็นเขา ทำให้ผู้เช่านั้นได้อ้างต่อครอบครัวว่าบ้านสกปรกและยกเลิกสัญญาเช่าทันที และทันใดนั้นน้องสาวเขาได้คิดและพูดถึงการตัดหางปล่อยวัด เธอเองมองไม่เห็นสิ่งที่เป็นพี่ชายของเธอแล้ว จึงเรียกเขาว่า"มัน" เขาเองเข้าใจแล้วว่าไม่มีใครต้องการเขา และ ตายในสภาพที่แห้ง โทรม ผอม ก่อนที่ตะวันจะทอแสง ในวันต่อมาคนใช้ได้เจอซากของมันและได้โยนมันทิ้งเรื่องเล่านี้จบด้วยการเดินปิ๊กนิคในวันที่สุดสวยในเมือง

"In entspannter Aufbruchsstimmung spricht man von einem Neuanfang und baldigen Wohnungswechsel, und die Eltern erkennen in ihrer reif gewordenen Tochter eine aufblühende, junge Frau, auf der nun alle ihre zukünftigen Hoffnungen ruhen, und denken daran, „dass es nun Zeit werde, auch einen braven Mann für sie zu suchen.

มีแต่การพูดถึงการเริ่มต้นใหม่และการย้ายบ้านท่ามกลางบรรยากาศที่สดใสและดีขึ้นเรื่อยๆ และพ่อแม่ต่างได้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ของลูกสาว ซึ่งเป็นสตรีที่สดใส และสตรีที่ทุกคนได้ตั้งความหวังไว้ และพวกเขาคิดว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะหาผู้ชายน่ารักๆให้เธอ

ตัวละคร

แก้
  • Gregor Samsa

เป็นตัวละครหลักในกลาย ซึ่งเป็นนักขายผ้าและต้องเดินทางบ่อย แม้ว่าเขาจะไม่ชอบอาชีพ ซึ่งทำมาห้าปีแล้ว หลังจากพ่อได้ทำร้านเจ๊งก็ตาม เขาก็ตั้งความหวังจะใช้หนี้ให้ครอบครัวหมดได้สักวัน เพื่อที่จะได้รับการชมเชยจากครอบครัว ซึ่งในระยะแรกเขาก็ทำงานใช้หนี้ได้ เขามีความผูกผันกับน้องสาวมากกว่าคนอื่นในครอบครัว เขาต้องการส่งน้องสาวไปเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มทักษะในการเล่นไวโอลิน เขาบอกว่าแม่เขาเป็นคนที่อ่อนและค่อนข้างดูแลเขา แต่ไม่รู้อกรู้ใจเขาเท่าไหร่ เธอจึงเข้าใจว่าเขาชอบอาชีพเขามาก จนกระทั่งไม่มีแฟนหรือไม่มีเวลาว่าง ในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เขาได้เป็นคนที่ต้องถูกเลี้ยงดูจากการที่เป็นคนเลี้ยงดูครอบครัว ในขณะที่เขาพยายามจะพูดคุยกับคนรอบข้าง ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และท้ายสุดก็ยอมรับสภาพที่เขาเป็น ดังนั้นการมองออกจากหน้าต่างจึงเป็นกิจกรรมประจำวันสำหรับเขา เป็นสิ่งเดียวที่ทำเชื่อมต่อโลกภายนอก และท้ายสุดเขาก็ยอมแพ้และรับสภาพการเป็นแมลง หลังจากมันโดนพ่อโจมตีและบาดเจ็ดสาหัส มันไม่กินอาหารและท้ายสุดก็แห้งและหรือหิวตาย

  • Mr.Samsa (พ่อ)

หลังจากทำกิจการเจ๊งพอจึงเกษียณก่อนอายุ จึงทำให้เขาต้องมานั่งใช้หนี้ให้ ทั้งๆที่พ่ออายุยังไม่มาก พ่อก็ไม่กระตือรือร้นที่จะหางานใหม่ แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงเขา พ่อกลายเป็นคนที่รุนแรงกับเขาก่อนคนแรกและไปทำงานที่ธนาคาร พ่อกลับมาเป็นผู้หาเงินเข้าบ้านและกลับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกครั้ง

  • Mrs.Samsa (แม่)

แม่เป็นคนที่ดูแล แต่ไม่เข้าใจเขา เธอคิดว่าเขาชอบทำงาน จนไม่มีเวลามีแฟน หลังจากการเปลี่ยนแปลง เธอเป็นห่วงแต่ก็กลัวเขา หลังจากที่เธอหายกลัว เธออยากจะเข้าไปดูแล แต่พ่อและน้องสาวต่างกันเธอออกจากเกรกอร์ ทำให้อยู่ในบทบาทที่เป็นรอง

  • Grete Samsa (น้องสาว)

น้องสาวมีความผูกผันดีๆกับเขามาตลอด หลังจากการเปลี่ยนแปลง เธอมารับภาระแทนแม่ (ทำความสะอาด ทำกับข้าว ฯลฯ)เธอเป็นคนแรกที่คิดและพูด ที่จะทิ้งเขาไป น้องสาวมีความใกล้เคียงกับ ออท์ลาร์ คาฟค้า ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของ ฟรานซ์

วิเคราะห์

แก้

โครงสร้างการเล่า

แก้
  1. ในขณะที่กลาย เป็นจุดจบของการเป็นมนุษย์และการงานของเขา (เขาพยายามที่จะรำลึกถึง)
  2. ช่วงการที่อยู่ร่วมในขณะที่กลาย เป็นช่วงที่แมลงนั้นอยู่ภายในครอบครัว
  3. ช่วงการตายของเกรกอร์ เป็นจุดที่ครอบครัวไม่ให้ความสนใจต่อเขาอีกต่อไป

ในการเล่านั้น ผู้ประพันธ์ได้ใช้เลข 3 อย่างมากเป็นพิเศษ เช่น ผู้เช่า 3 คน ประตู 3 บาน คนใช้ 3 คน ฯลฯ

ลีลาในการเขียน

แก้

ในการเขียนถึงแมลงนั้น ผู้ประพันธ์ได้เลือกใช้ภาษาที่ไม่หรูหรา เป็นการใช้ภาษาที่ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทำให้มีข้อแตกต่างระหว่างโลกผู้อ่านและโลกของเขา ทั้งนี้การใช้ลีลาของ Realismus (เป็นช่วงเวลาที่เขียนเชิงตรงความเป็นจริง แต่ยังไม่รุนแรงเท่า Naturalismus ซึ่งตรง 1 ต่อ 1) กับการเขียนถึงเหตุการณ์ที่ไม่น่าเป็นจริงได้ ทำให้การเล่านั้นแตกต่างจากนวนิยายอื่นๆในสมัยนั้น สิ่งที่น่าสนใจคือการที่เขาหนีออกจากห้องทุกครั้ง ทำให้เขากลับต้องบาดเจ็บและมีสภาพที่แย่กว่าเดิม ซึ่งเป็นลีลาที่คล้ายกับ das Urteil

ในวัฒนธรรมร่วมสมัย

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. ชื่อหนังสือในฉบับแปล แปลโดยมนตรี ภู่มี
  2. Die Verwandlung. Mit einem Kommentar von Heribert Kuhn, Suhrkamp Verlag, Frankfurt am Main 1999, ISBN 978-3-518-18813-2. (Suhrkamp BasisBibliothek, 13: Text und Kommentar)

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้

ฉบับออนไลน์

The Metamorphosis ที่ โครงการกูเทนแบร์ก , translated by David Wyllie

คำวิจารณ์

เกี่ยวข้อง