โมร์เฆแซแฮร์
บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษาเปอร์เซีย คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
โมร์เฆแซแฮร์ (เปอร์เซีย: مرغ سحر หรือ รูปอักษรโรมัน Morgh-e Sahar, แปลว่า "นกยามอรุณ" หรือ "นกเวลาเช้า"[1]) เป็นเพลง แทสนีฟ ที่นิยมขับร้องในการประท้วงต่อต้านความอยุติธรรม ระบอบเผด็จการ และทรราชย์ในประเทศอิหร่าน[1][2][3] และมักได้รับยกให้เป็น "เพลงสรรเสริญ" การต่อสู้เพื่ออิสรภาพในอิหร่าน[3][4][5] เพลงนี้ประพันธ์เนื้อร้องโดยโมแฮมแมดแทฆี แบฮอร์ และประพันธ์ดนตรีโดยโมร์เทซอ เนอีดอวูด ในศตวรรษที่ 20 ตอนต้น ร่วมสมัยกับการปฏิวัติรัฐธรรมนูญอิหร่าน[2] เนื้อเพลงใช้กลวิธีอุปลักษณ์โดยกล่าวถึงนกแห่งช่วงเวลารุ่งอรุณที่กำลังเศร้าหมอง ต่อมาในเนื้อเพลงจึงเรียกร้องให้นกที่ถูกขังในกรงนี้ส่งเสียงร้องและบินหนีออกไป[6] เป็นสัญลักษณ์แทนการสิ้นสุดช่วงเวลาแห่งการกดขี่ (ยามกลางคืน) และไปสู่ช่วงเวลาแห่งการปลดแอก (ยามเช้า)[7]
เนื้อเพลงบทแรกได้รับการบรรยายไว้ว่ามีความไพเราะในเชิงถ้อยคำมากกว่า ในขณะที่บทที่สองได้รับการบรรยายไว้ว่า "เกี่ยวกับปัญหาสังคมและการเมือง" เนื้อเพลงบทที่สองนี้ยังถูกสั่งห้ามขับร้องโดยกษัตริย์ชาห์ เรซา ปาห์ลาวี ตั้งแต่ปี 1925 จนกระทั่งถูกโค่นล้มบัลลังก์ในปี 1941 ชาห์ได้สั่งห้ามเพลงนี้หลังตนได้ฟังเพลงนี้ในงานพบปะที่บ้านของรัฐมนตรีคนหนึ่ง[3] บทความในหนังสือพิมพ์ เคย์ฮอน ของอิหร่านระบุว่าเนื้อเพลงบทที่สองนี้จะ "ขับร้องกันในงานสังสรรค์ส่วนตัว ที่ซึ่งบรรยากาศอำนวยต่อการถกเถียงเรื่องการเมือง" ในขณะที่เนื้อเพลงบทแรกมักขับร้องกันในที่สาธารณะ[3]
ประวัติศาสตร์ แก้
ศิลปินอาชีพคนแรกที่ขับร้องเพลงนี้ในที่สาธารณะคือ แกแมโรลโมลูก แวซีรี เธอขับร้องเพลงนี้ในการแสดงขับร้องอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเธอในปี 1924 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเตหะราน[3] เพลงนี้มีการอัดเสียงครั้งแรกในปี 1927 โดย Iranoddole Helen หรือทอจ เอสแฟฮอนี และหนึ่งในการอัดเสียงชุดแรก ๆ ของเพลงนี้เป็นผลงานของโมลูก แซร์รอบี[8] ต่อมาศิลปินอิหร่านอีกจำนวนมากได้นำเพลงนี้มาขับร้อง รวมถึงแกแมโรลโมลูก แวซีรี, โมแฮมแมดเรซอ แชแจรียอน, เลย์ลอ โฟรูแฮร์, โฮมอยูน แชแจรียอน, แฟร์ฮอด เมฮ์รอด, แชคีลอ, โมฮ์เซน นอมจู,[2] เรซอ ซอเดฆี และแฮงกอเม แอแฆวอน
เพลงนี้ถูกมองว่าเป็นเพลงยอดนิยมและเพลง "เอกลักษณ์" ของโมแฮมแมดเรซอ แชแจรียอน[9][10] นักร้องอาวุโสซึ่งยังเป็นบุคคลสาธารณะที่มีบทบาทเรียกร้องประชาธิปไตยในอิหร่านมายาวนาน[6] เขาจะขับร้องเพลงนี้ปิดท้ายในงานแสดงดนตรีของเขาทุกงาน[11][7] เมื่อเขาเสียชีวิตในปี 2020 ฝูงชนจำนวนมากได้มารวมตัวกันที่โรงพยาบาลแจมที่ซึ่งเขาเข้ารับการรักษา ฝูงชนได้ร่วมกันขับร้องเพลง โมร์เฆแซแฮร์ และกล่าวคำขวัญต่อต้านเผด็จการในอิหร่าน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาใช้กำลังเพื่อสลายฝูงชน[10]
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 Emery (October 2020). "Iran's songs of love and liberation". Le Monde Diplomatique. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|forst=
ถูกละเว้น (help) - ↑ 2.0 2.1 2.2 "MORḠ-E SAḤAR – Encyclopaedia Iranica". Iranicaonline.org. สืบค้นเมื่อ 2012-10-14.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Nouri, Nazanine (October 14, 2020). "Iranians Remember Master Vocalist Shajarian With His Freedom Song 'Morgh e Sahar'". Kayhan Life. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ Alexandra, Rae (August 17, 2021). "Artists In and Outside of Afghanistan Depict the Agony of the Taliban Takeover". KQED. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ Fassihi, Farnaz (October 8, 2020). "Mohammad Reza Shajarian, Iranian Master Singer and Dissident, Dies at 80". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-06-06.
- ↑ 6.0 6.1 Siamdoust, Nahid (May 2, 2017). "MODERN IRAN IN 8 SONGS: From classical melodies to rap, Iran's music reveals its long struggle for political freedom". Stanford University Press. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ 7.0 7.1 "Remembering Iranian singer Mohammad Reza Shajarian". NPR Music. October 9, 2020. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ "Tehran orchestra, world-renowned musicians team up to remake "Morghe Sahar"". Tehran Times. 21 June 2020. สืบค้นเมื่อ 27 June 2020.
- ↑ Seyyed Mostafa Mousavi Sabet (October 9, 2020). "Vocalist Mohammadreza Shajarian to lay to rest in Ferdowsi mausoleum". Tehran Times. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ 10.0 10.1 "Iran's voice of protest falls silent". Morning Star. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ Inskeep, Steve (September 27, 2010). "Mohammad Reza Shajarian: Protest Through Poetry". NPR Music. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.