เอชไอวี/เอดส์ในแอฟริกา

เอชไอวี/เอดส์ เป็นปัญหาใหญ่ด้านสาธารณสุขและสาเหตุหลักที่ทำให้ประชากรจำนวนมากในแอฟริกาเสียชีวิต มีการประเมินว่าแอฟริกามีผู้ป่วยเอชไอวีมากถึง 67% ของโลก และผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ 72% ทั่วโลกใน พ.ศ. 2552 อยู่ในแอฟริกา[1]

ประเมินผู้ป่วยเอชไอวีในแอฟริกาใน พ.ศ. 2550
ตารางเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยเอชไอวีแบ่งตามภูมิภาคใน พ.ศ. 2552[1]
ภูมิภาค ความชุกของเอชไอวีในผู้ใหญ่
(อายุ 15–49)
รวมผู้ป่วย
เอชไอวีทั้งสิ้น
จำนวนผู้เสียชีวิตจากเอดส์
ใน พ.ศ. 2548
แอฟริกาซับสะฮารา 5.0% 22.5 ล้านคน 1.3 ล้านคน
ทั่วโลก 0.8% 33.3 ล้านคน 1.8 ล้านคน
อเมริกาเหนือ 0.5% 1.5 ล้านคน 26,000
ยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง 0.2% 820,000 8,500

โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) พยากรณ์ผลของภูมิภาคจนถึง พ.ศ. 2568 ซึ่งมีตั้งแต่การไม่เพิ่มขึ้นและการลดลงของจำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2555 ไปจนถึงการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นหายนะ โดยเป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ป่วยมากถึง 90 ล้านคน

โดยปราศจากการรักษาพยาบาลและยา (อย่างยาต้านไวรัส) ซึ่งหาได้ในประเทศพัฒนาแล้ว ประชากรจำนวนมากในแอฟริกาจะยิ่งมีการพัฒนาของเอดส์มากยิ่งขึ้น พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถไปทำงานได้เท่านั้น แต่ยังต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างสำคัญด้วย ซึ่งมีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการล่มสลายของเศรษฐกิจและสังคมได้

ในบทความชื่อ "Death Stalks A Continent" (ความตายย่องเข้าทวีป) โจฮันนา แมกเกียรีพยายามอธิบายความรุนแรงของปัญหา "คนที่แข็งแรงที่สุดของสังคม มิใช่คนที่อ่อนแอที่สุด เป็นผู้ที่จะตาย ผู้ใหญ่หายไป ทิ้งคนชราและเด็กไว้เบื้องหลัง คุณไม่สามารถนิยามกลุ่มเสี่ยงได้ ทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์ล้วนเสี่ยงหมด เด็กทารกก็เช่นกัน ได้รับเชื้อผ่านมารดาโดยไม่เจตนา น้อยครอบครัวนักที่ไม่มีผู้ป่วยเอดส์เลย ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าพวกเขาติดเชื้ออย่างไรหรือเมื่อไหร่ หลายคนไม่เคยรู้เลยว่าพวกเขาติดเชื้อ หลายคนที่รู้ตัวก็ไม่บอกใครเลยว่าพวกเขากำลังรอความตายอยู่"[2]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "UNAIDS Report on the Global AIDS Epidemic 2010" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2011-06-08.
  2. McGeary, Johanna (12 Feb 2001). "Death stalks a continent". Time Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-03. สืบค้นเมื่อ 2011-09-17.