รายงานจากหนังสือผู้วินิจฉัย เอกโลน (ฮีบรู: עֶגְלוֹן 'Eglon) เป็นกษัตริย์แห่งโมอับที่ต่อต้านอิสราเอล

เอกโลน
ภาพวาดการลอบสังหารพระเจ้าเอกโลนโดยเอฮูด ผู้วินิจฉัยอิสราเอล, Speculum Humanae Salvationis, 1360.
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
ตำแหน่งกษัตริย์แห่งโมอับ
สังกัดอัมโมนและอามาเลข
ครอบครัวบาลาค (พระอัยกา)
สถานที่พระราชสมภพอาณาจักรโมอับ
สถานที่สวรรคตอาณาจักรโมอับ

ไม่มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีใดที่ยืนยันการมีตัวตนของพระองค์ แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้บางส่วนว่าพระราชวังมีอยู่จริง[1]

ในพระคัมภีร์ แก้

พระองค์เป็นประมุขแห่งสมาพันธรัฐโมอับ อัมโมน และอามาเลขที่ยกมาโจมตีอิสราเอล[2] เอกโลนปกครองชาวอิสราเอลเป็นเวลา 18 ปี[3] วันหนึ่ง เอฮูดเข้ามาถวายเครื่องบรรณาการตามธรรมเนียม และหลอกเอกโลนแล้วแทงพระองค์ด้วยดาบ แต่เมื่อเอฮูดพยายามดึงดาบออก ไขมันส่วนเกินของกษัตริย์ผู้พ่วงพีขัดขวางการดึงดาบกลับมา บรรดาข้าราชบริวารจึงปล่อยพระองค์ไป โดยเชื่อว่าพระองค์กำลังบรรเทาตัวพระองค์อยู่ หลังการสวรรคต ชาวโมอับจึงประสบความพ่ายแพ้ และชาวอิสราเอลอยู่กันความสงบสุขเป็นเวลา 80 ปี[4]

รับบีในธรรมเนียมทัลมุดอ้างว่ารูธเป็นพระราชธิดาในเอกโลน ในทัลมุดยังระบุอีกว่าเอกโลนเป็นพระนัดดาในบาลาค[5] อย่างไรก็ตาม ไม่มีโองการใดที่ระบุถึงสิ่งนี้

ลูกหลาน แก้

รายงานจากตำนานในมิดราช โอรปาห์กับรูธ หญิงชาวโมอับสองคนจากหนังสือนางรูธ เป็นพี่น้องกัน และทั้งสองเป็นพระราชธิดาในเอกโลน กษัตริย์โมอับ (Ruth R. ii. 9) ในมิดราชเดียวกันระบุว่าเอกโลนเป็นพระราชโอรสในบาลาค กษัตริย์โมอับที่ปรากฏในหนังสือกันดารวิถี Numbers 22

คติชนทัลมุดระบุว่า เนื่องจากเอกโลนยืนขึ้นเมื่อเอฮูดกล่าวว่ามีพระดำรัสจากพระเจ้า (ผู้วินิจฉับ 3:20) รางวัลของพระองค์คือลูกหลานของพระองค์จะกลายเป็นพระเจ้าดาวิด[6]

อ้างอิง แก้

  • Dunn, James A. (2003). Eerdmans commentary on the Bible. Grand Rapids, Mich: W.B. Eerdmans. p. 191. ISBN 0-8028-3711-5.
  • Sicker, Martin (2003). The Rise and Fall of the Ancient Israelite States. New York: Praeger. p. 73. ISBN 0-275-98012-X.
  1. Garstang, John; Garstang, J.B.E. (1948). The Story of Jericho (Revised ed.). London: Marshall, Morgan & Scott, Ltd. p. 124. ISBN 978-0-598-49077-3.
  2. Judges 3:13
  3. Judges 3:14
  4. "Judges Chapter 3". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-24. สืบค้นเมื่อ 2012-07-05.
  5. Sanhedrin p. 105 Babylonian Talmud
  6. Midrash Rabbah, Ruth 2:9.