อีเมลดา มาร์กอส

อีเมลดา โรมวลเดซ มาร์กอส (Imelda Romualdez Marcos; [4] ชื่อเมื่อเกิด อีเมลดา ตรินิแดด โรมวลเดซ; Imelda Trinidad Romualdez; เกิด 2 กรกฎาคม 1929) เป็นนักการเมืองและอาชญากรชาวฟิลิปปินส์ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์เป็นเวลา 21 ปี[5] ซึ่งเธอและสามี มีทรัพย์สินที่กอบโกยมาเป็นของตนอย่างผิดกฎหมายมากกว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ[6][7][8][9][10]

อีเมลดา มาร์กอส
เมื่อปี 2006
เมื่อปี 2008
สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์
จาก Ilocos Norte เขต 2
ดำรงตำแหน่ง
30 มิถุนายน 2010 – 30 มิถุนายน 2019
ก่อนหน้าบองบอง มาร์กอส
ถัดไปAngelo M. Barba
สมาชิก
สภาผู้เทนราษฎรฟิลิปปินส์
จาก Leyte เขต 1
ดำรงตำแหน่ง
30 มิถุนายน 1995 – 30 มิถุนายน 1998
ก่อนหน้าCirilo Roy Montejo
ถัดไปAlfred Romuáldez
สมาชิกรัฐสภา
ภูมิภาค 4 (เมโทรมะนิลา)
ดำรงตำแหน่ง
12 มิถุนายน 1978 – 5 มิถุนายน 1984
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
ก่อนหน้าประเดิมตำแหน่ง
ในฐานะสมาชิกของ National Assembly: Leon G. Guinto, Alfonso E. Mendoza
ถัดไปเปลี่ยนเป็น Mambabatas Pambansa ประจำ Manila: Eva Estrada-Kalaw, Carlos Fernando, Mel Lopez, Gonzalo Puyat II, and Arturo Tolentino
ผู้ว่าการมะนิลาส่วนนคร 1st
ดำรงตำแหน่ง
27 กุมภาพันธ์ 1975 – 25 กุมภาพันธ์ 1986
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
ก่อนหน้าประเดิมตำแหน่ง
ถัดไปโจอี ลีนา
สตรีหมายเลขหนึ่งของฟิลิปปินส์ ลำดับที่ 10
ในตำแหน่ง
30 ธันวาคม 1965 – 25 กุมภาพันธ์ 1986
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
ก่อนหน้าอีวา มาคาปากัล
ถัดไปBallsy Aquino-Cruz
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
Imelda Remedios Romuáldez-López y Trinidad

(1929-07-02) 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1929 (95 ปี)
มะนิลา, หมู่เกาะฟิลิปปินส์
เชื้อชาติฟิลิปิโน
พรรคการเมืองNacionalista (1965–1978; 2009–ปัจจุบัน)
การเข้าร่วม
พรรคการเมืองอื่น
Kilusang Bagong Lipunan (1978–2013)
คู่สมรสเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
(สมรส 1954; 1989)
บุตรอิมี มาร์กอส
บองบอง มาร์กอส
ไอรีน มาร์กอส
ไอมี มาร์กอส
ที่อยู่อาศัยมากาตี
ทรัพย์สินสุทธิ923.8 ล้าน ข้อมูลประกาศทางการเมื่อ (ธันวาคม 2018)[1]
สถานะทางคดีถูกปล่อยตัวด้วยการประกันตัว[2]
พิพากษาลงโทษฐานรับสินบน[3]

เธอสมรสกับเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสในปี 1954 และขึ้นมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในปี 1965 เมื่อเขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์[11] ระหว่างเธออยู่ในตำแหน่ง เธอได้ริเริ่มโครงการสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่อลังการมากมายโดยใช้ทุนรัฐบาลที่ซึ่งปัจจุบันเรียกกันว่าเป็น หมู่อาคารคฤหาสน์ (edifice complex)[12][13]

ในเดือนกุมภาพันธ์ 1986 การปฏิวัติพลังปวงประชาได้ทำให้ตระกูลมาร์กอสพ้นจากตำแหน่ง และครอบครัวทั้งครอบครัวต้องหลบหนีออกนอกประเทศ[14] ในปี 1991 ประธานาธิบดีโคราซอน อากีโน ได้ยินยอมให้ตระกูลมาร์กอสสามารถเดินทางกลับมายังฟิลิปปินส์ได้ภายหลังการเสียชีวิตของเฟอร์ดินานด์ในปี 1989[15][16] หลังจากที่เธอกลับมาอยู่ฟิลิปปินส์ได้ไม่นาน อีเมลดาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งและได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ถึงสี่วาระ[17] เธอเคยลงสมัครประธานาธิบดีอยู่สองครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เธอและตระกูลมาร์กอสเป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ฟุ่มเฟือยเกินขอบเขตในระหว่างวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่สงบในประเทศ[18] อีเมลดาให้เวลาส่วนใหญ่ในต่างประเทศไปกับการเดินทางเยี่ยมเยียนรัฐต่าง ๆ งานปาร์ตีที่ยิ่งใหญ่อลังการ และจับจ่ายซื้อของอย่างสนุกสนาน รวมถึงใช้จ่ายเงินจำนวนมากซึ่งเป็นเงินของรัฐไปกับเครื่องเพชรและรองเท้าของตนเอง[19][20] เธอและเฟอร์ดินานด์ สามีของเธอ ได้รับตำแหน่งบนกินเนสส์ เวิลด์ เรเคิดส์ว่าเป็น รัฐบาลชุดที่ปล้นมากที่สุด (Greatest Robbery of a Government)[21][22][23]

ในปี 2019 เธอปรากฏตัวเป็นผู้เล่าเรื่องและดำเนินเรื่องในภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับชีวิตของเธอ เรื่อง The Kingmaker ซึ่งเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของสภาวะประเทศฟิลิปปินส์ภายใต้การปกครองของมาร์กอสผ่านมุมมองของเธอ

อ้างอิง

แก้
  1. Cabico, Gaea Katreena (June 14, 2019). "Who's who: Richest, poorest House lawmakers in 2018". The Philippine Star. Manila. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 19, 2019. สืบค้นเมื่อ October 21, 2019.
  2. "Imelda Marcos posts bail for graft conviction in Philippines". NBC News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-17. สืบค้นเมื่อ 2020-08-13.
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ CNN20181110
  4. Lalu, John Gabriel (November 9, 2018). "FULL TEXT: Sandigan ruling on 10 graft cases vs Imelda Marcos". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ March 12, 2019.
  5. Macaraig, Mynardo. "5 questions on the dictator Ferdinand Marcos". ABS-CBN News. Agence France-Presse.
  6. Tiongson-Mayrina, Karen (September 21, 2017). "The Supreme Court's rulings on the Marcoses' ill-gotten wealth". GMA News Online.
  7. "FALSE: Wealth of Marcos family from 'hard work,' and 'not from public funds'". Rappler. September 30, 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-11. สืบค้นเมื่อ 2020-08-30.
  8. Manapat, Ricardo (1991) Some Are Smarter Than Others. Aletheia Press.
  9. Through the Years, PCGG at 30: Recovering Integrity –A Milestone Report. Manila: Republic of the Philippines Presidential Commission on Good Government. 2016.
  10. Warf, Barney (2018). Handbook on the Geographies of Corruption. Cheltenham, UK: Edward Elgar Publishing. p. 335. ISBN 9781786434746.
  11. "The Woman Behind the Man". Martial Law Chronicles Project (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). April 25, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-01. สืบค้นเมื่อ November 14, 2018.
  12. de Villa, Kathleen (September 16, 2017). "Imelda Marcos and her 'edifice complex'". Philippine Daily Inquirer.
  13. "The Powerful Imelda Marcos". The Washington Post. January 18, 1981.
  14. Duet for EDSA: Chronology of a Revolution. Manila, Philippines: Foundation for Worldwide People Power. 1995. ISBN 978-9719167006. OCLC 45376088.
  15. Dent, Sydney (November 23, 2012). "A dynasty on steroids". Sydney Morning Herald (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ September 1, 2018.
  16. Mydans, Seth (November 4, 1991). "Imelda Marcos Returns to Philippines". The New York Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2009. สืบค้นเมื่อ August 16, 2018.
  17. Casauay, Angela (May 23, 2013). "Pacquiao, Imelda Marcos wealthiest House members". Rappler.
  18. Tully, Shawn (January 9, 2014). "My afternoon with Imelda Marcos". Fortune.
  19. Ellison 1988, p. 1–10.
  20. Tantuco, Vernise L (September 21, 2018). "3,000 pairs: The mixed legacy of Imelda Marcos' shoes". Rappler.
  21. "Greatest robbery of a Government". Guinness World Records. สืบค้นเมื่อ August 20, 2020.
  22. Drogin, Bob (November 4, 1991). "Imelda Marcos Weeps on Return to Philippines". Los Angeles Times.
  23. The Guinness Book of World Records 1989. Bantam. p. 400. ISBN 978-0-553-27926-9.