หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ (6 พฤษภาคม พ.ศ. 2433 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2512) พระเกจิอาจารย์แห่งเมืองอุดรธานี และเป็นพระคณาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในชั่วชีวิตของท่าน จริงอยู่เคยมีชีวิตแบบฆราวาสธรรม แต่พอปลงกับชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เลยปลงได้และเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ และอยู่ในสมณเพศตลอดชีวิต
หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2433 (79 ปี) |
มรณภาพ | 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2512 |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดประสิทธิธรรม อุดรธานี |
อุปสมบท | พ.ศ. 2469 |
พรรษา | 43 |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดประสิทธิธรรม |
ประวัติ
แก้หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ท่านเกิดเมื่อ วันวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2433[1] ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ณ บ้านตาล ตำบล โคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อ นายจันทร์ สุภาพงษ์ และมารดาชื่อ นางวันดี สุภาพงษ์ บิดาและมารดา ของหลวงปู่ท่านเป็นชาวนาชาวไร่มาตั้งแต่ดั้งเดิมสมัยแต่บรรพบุรุษตระกูลนั้นนับถือ ศาสนาพุทธเป็นชีวิตจิตใจมานานมากแล้วหลวงปู่พรหมท่านเป็นบุตรหัวปี ท่านมีน้อง ๆ ที่สืบสายใยสายเลือดอีก 3 คน ท่านเป็นลูกคนโต ต่อมาท่านได้ครองเรือนเมื่อมีอายุได้ 20 ปี หลวงปู่พรหม ได้แต่งงานครั้งแรกกับศรีภรรยาชื่อ พิมพา ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านดงเย็นกับศรีภรรยา และอยู่กินกันจนมีลูก 1 คน เป็นลูกชาย พอคลอดออกมา ภรรยาและลูกชายได้เสียชีวิตพร้อมกัน หลวงปู่พรหม ท่านก็รู้ว่าความสุขของท่านได้หายไปแล้ว แต่ในตอนนั้นท่านก็ยังอยากใช้ชีวิตแบบฆราวาสอีก ก็มีภรรยาคนที่ 2 กับ นางกำแพง อยู่ด้วยกันนานถึง 5 ปี แต่คราวนี้ไม่มีลูก ต่อมาหลวงปู่ท่านก็ได้รบแต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่ในหมู่บ้านนั้น ท่านเป็นคนนำหมู่เลี้ยงโค กระบือ ในสมัยนั้น ในกาลต่อมา พระอาจารย์สาร ได้มาที่หมู่บ้านดงเย็น และได้สั่งสอนอบรมคนในหมู่บ้านนั้น จนหลวงปู่ท่านก็มีใจที่จะบวช และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2469 ที่วัดโพธิ์สมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูประสาทคุณานุกิจเป็นพระกรรมวาจาจารย์ได้รับฉายาว่า “ จิรปุญโญ” ต่อมาท่านได้ก็แสวงหาหนทางดับทุกข์ และ ได้ออกเดินธุดงค์กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ธุดงค์มาบ้านดงเย็นแล้วเมตตาแสดงธรรมโปรดท่านและชาวบ้าน ที่สุดทำให้ท่านคิดอยากจะบวช ก่อนบวชท่านได้สละทรัพย์สินสิ่งของให้คนยากจนอยู่นานหลายวันจึงหมด ที่ดินและบ้านอีกสองหลังก็รื้อไปทำเป็นกุฏิถวายวัด ส่วนภรรยาท่านก็ให้บวชเป็นชีก่อนท่านหนึ่งปี เมื่ออุปสมบทแล้วได้เรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติและเดินธุดงค์เท้าเปล่ากับพระอาจารย์สารเป็นเวลา ๓ ปี จากนั้นจึงลาพระอาจารย์เดินธุดงค์ไปทั่วภาคอีสานและในประเทศลาวพร้อมหลานชาย ๑ คน และเมื่อจะธุดงค์ไปภาคเหนือเพื่อแสวงหาหลวงปู่มั่นก็ได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับหลวงปู่ชอบพระสหธรรมิกของท่านซึ่งทั้งสององค์ถือว่าเป็นเพชรน้ำเอก เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นแล้วท่านได้รับฟังโอวาทและประพฤติปฏิบัติธรรมกับองค์หลวงปู่มั่นอยู่พักหนึ่งก็ได้ออกธุดงค์ไปกับหลวงปู่ขาว อนาลโยไปทั่วภาคเหนือ ในกาลต่อมา ท่านได้มาอยู่ที่ วัดป่าสุทธาวาส และศึกษาพระธรรมกับหลวงปู่มั่น จนกระทั่งรู้แจ้งเห็นจริง ท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2512 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รวมสิริอายุได้ 79 ปี 44 พรรษา
อ้างอิง
แก้- http://www.santidham.com/Lhuangpoo/biography/pProm/Pprom1.html
- http://www.web-pra.com/Shop/nattnana/Show/30730
- ↑ "ประวัติ พระอาจารย์พรหม จิรปุญโญ 02". www.dharma-gateway.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-27. สืบค้นเมื่อ 2024-05-27.