วดาราโฮเทลแอนด์สปา (อังกฤษ: Vdara Hotel & Spa; /vəˈdɑːrə/ və-dar)[2] เป็นโรงแรมคอนโดและสปาขนาด 1.6 ล้าน ตารางฟุต (150,000 ตารางเมตร)* ตั้งอยู่ในซิทีเซ็นเทอร์คอมเพล็กซ์ ตรงข้ามอาเรียรีสอร์ทแอนด์คาสิโน ในลาสเวกัสสตริป วดาราเปิดให้บริการในัวนที่ 1 ธันวาคม 2009 ภายใต้การดูแลร่วมของเอ็มจีเอ็มรีสอทส์และอินฟินิตี้เวิล์ลด์เดเวลอปเมนต์ โดยดูไบเวิลด์ โรงแรมเป็นของเดอะแบล็กสโตนกรุ๊ป และบริหารโดยเอ็มจีเอ็มรีสอทส์

วดาราโฮเทลแอนด์สปา
วดาราเมื่อพฤศจิกายน 2010
แผนที่
ข้อมูลทั่วไป
สถานะเปิดให้บริการ
ประเภทโรงแรมคอนโด
ที่ตั้งพาราไดส์ รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
ที่อยู่2600 ถนนเวสต์แฮร์เมิน
พิกัด36°6′34″N 115°10′41″W / 36.10944°N 115.17806°W / 36.10944; -115.17806
วางยอด14 พฤษภาคม 2008
เปิดใช้งาน1 ธันวาคม 2009
เจ้าของเดอะแบล็กสโตนกรุ๊ป
ความสูง578-ฟุต (176-เมตร)
ข้อมูลทางเทคนิค
จำนวนชั้น57
พื้นที่แต่ละชั้น180,525 m2 (1,943,150 sq ft)
การออกแบบและการก่อสร้าง
สถาปนิกราฟาเอล วีญอลี
ผู้พัฒนาโครงการเอ็มจีเอ็มรีสอทส์
ข้อมูลอื่น
จำนวนห้องชุด1,495
จำนวนร้านอาหาร1 (มาร์เก็ตคาเฟ่วดารา)
ที่จอดรถ629
เว็บไซต์
www.vdara.com
[1]

อาคารของวดารามีความสูง 57 ชั้น 578-ฟุต (176-เมตร) ประกอบด้วยห้องสวีท 1,495 ห้อง, สปาขนาดสองชั้น, ซาลอน, ศูนย์ออกกำลังกาย, ตลาด และบาร์หนึ่งแห่ง นอกขากนี้ยังมีพื้นที่สระว่ายน้ำและเด็คขนาด 40,000 sq ft (3,700 m2) วดาราเป็นหนึ่งในสองโรงแรมในซิทีเซ็นเทอร์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีคาสิโน ไม่มีการพนัน และห้ามสูบบุหรี่ในโรงแรม อีกแห่งหนึ่งที่มีลักษณะนี้คือวาลดอร์ฟอัสโทเรีย[3] ในปี 2010 พื้นผิวสะท้อนแสงที่ออกแบบเป็นรูปโค้งเว้าเข้าในของอาคารสูง 57 ชั้น สามารถกลายเป็นตัวสะท้อนแบบพาราโบลาที่สร้างอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษเมื่อสะท้อนและรวมแสงลงไปยังพื้นที่สระว่ายน้ำของโงแรม[4][5]

ในผี 2011 วดาราได้รับรางวัลเอเอเอโฟร์ไดมอนด์อะวอร์ดเป็นครั้งแรก[6]

รังสีมรณะ แก้

ในปี 2010 ได้มีการยืนยันว่าพื้นผิวสะท้อนแสงที่ออกแบบเป็นรูปเว้าเข้าในของอาคารโรงแรมสามารถกลายเป็นกระจกรวมแสงขนาดใหญ่เมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ ลำแสงคู่ขนานที่เข้ามาจากดวงอาทิตย์จะถูกสะท้อนออกบางส่วนและรวมจุดโฟกัสในระนาบเดี่ยวที่ ความยาวโฟกัส = 50 เมตร ด้านหน้าของฟาซาดโรงแรม และสะท้อนลงพิ้นดิน[7]

ลำแสงที่ถูกสะท้อนออกมาจากดวงอาทิตย์นี้จะสร้างสภาวะที่อุณหภูมิสูงอย่างหนักในบริเวณสระว่ายน้ำของโรงแรม พนักงานโรงแรมและสื่อท้องถิ่นรายงานถึงลำแสงนี้ว่าเป็น "รังสีมรณะ" (death ray) ในขณะที่ฝ่ายบริหารของโรงแรมเรียกมันว่าเป็น "จุดรวมแสงอาทิตย์" (solar convergence)[4][8] ฝ่ายบริหารได้พิจารณาทางออกมากมายในการแก้ไขปัญหานี้ แต่มีอุปสรรคใหญ่คือธรรมชาติของดวงอาทิตย์และการสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตลอดวันและตามฤดูกาล[4] ในเวลาเดียวกัน วดาราได้ติดตั้งร่มสีน้ำเงินบริเวณสระว่ายน้ำเพื่อปกป้องผู้ที่มาว่ายน้ำในสระ[5] ส่วนกระจกด้านนอกของอาคารโรงแรมถูกติดทับด้วยฟิล์มกันการสะท้อนแสง[9]

สถาปนิกผู้ออกแบบ ราฟาเอล วีโญลี ยังเป็นผู้ออกแบบอาคาร "วอล์กกีทอล์กกี" ในลอนดอนที่สร้างในปี 2013 และมีปัญหา "รังสีมรณะ" นี้เช่นเดียวกันกับวดารา[9][10][11]

อ้างอิง แก้

  1. "วดารา". CTBUH Skyscraper Center.
  2. Kapelke, Chuck (17 April 2009). "View From Vegas: Vegas Gone Wild". Smart Meetings.
  3. "CityCenter commemorates construction milestone". Casino City Times. สืบค้นเมื่อ 4 October 2017.
  4. 4.0 4.1 4.2 Joan Whiteley (September 25, 2010). "Vdara visitor: 'Death ray' scorched hair". Las Vegas Review-Journal.
  5. 5.0 5.1 "The 'death ray hotel' burning Las Vegas visitors came up with a simple fix" by Leanna Garfield, Business Insider, 30 June 2016
  6. Leach, Robin (May 11, 2011). "Guy Savoy celebrate 5 years at Caesars; XS at night; Vdara wins award". Las Vegas Sun. สืบค้นเมื่อ 4 October 2017.
  7. Vdara hotel maps.google.com – satellite view allows to see, that the concave – full rectangular – rectangular forefront facade has a horizontally bending radius r of about 100 m, which makes the focal length (f = r / 2) to be about 50 m, is bent about circular, is about 60 m broad and its area faces to SSW. The much less compact facade right behind the first one has a similar radius and faces to south. Vdara lies 36.11 degrees north, the air temperatures can rise pretty high in Las Vegas.
  8. "'Death ray' at Vegas hotel pool heats up guests". NBC News. September 30, 2010.
  9. 9.0 9.1 "'[Vdara] was a completely different problem,' said Viñoly, insisting he was following a masterplan that specified arc-shaped towers. 'We pointed out that would be an issue too, but who cares if you fry somebody in Las Vegas, right?'" : from "Walkie Talkie architect 'didn't realise it was going to be so hot'" by Oliver Wainwright, The Guardian, 6 September 2013
  10. Memmott, Mark (September 3, 2013). "Death Ray II". NPR. สืบค้นเมื่อ 4 October 2017.
  11. "From the Walkie Talkie to the Death Ray Hotel: buildings turn up the heat" by Jon Henley, The Guardian, 3 September 2013

แหล่งข้อมูลอื่น แก้