ดาวบริวารของดาวเสาร์ รีอา อาจมีวงแหวนบางๆ ซึ่งประกอบด้วยแถบ 3 แถบ ซึ่งแคบและค่อนข้างหนาแน่น นี่อาจเป็นการค้นพบวงแหวนครั้งแรกของดาวบริวาร การค้นพบที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ถูกประกาศในวารสารไซเอินซ์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2551[2]

ภาพวาดแสดงลักษณะที่เป็นไปได้ของวงแหวนรีอา ความหนาแน่นของวงแหวนในภาพนี้มากกว่าที่เป็นจริง[1]

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ยานแคสซีนี พบว่าอิเล็กตรอนของสนามแม่เหล็กดาวเสาร์ลดต่ำลงไปในบริเวณใกล้กับรีอา ตามที่คณะผู้สำรวจกล่าว รูปแบบของการลดต่ำนี้อธิบายได้อย่างดีที่สุด คืออิเล็กตรอนจะต้องถูกดูดโดยวัตถุแข็งที่ก่อขึ้นในแนวเส้นศูนย์สูตร ซึ่งอาจมีขนาดตั้งแต่หลายเดชิเมตรไปถึงหลายเมตร แต่ต่อมายานแคสซินีก็ไม่สามารถถ่ายภาพวัตถุแข็งดังกล่าวได้ และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 ก็ประกาศว่าดาวรีอา อาจไม่มีวงแหวนอยู่[3] ทำให้ปริศนาที่อิเล็กตรอนของสนามแม่เหล็กดาวเสาร์หายไป ก็ยังคงไม่มีคำตอบ[4][5] อย่างไรก็ตาม ผิวบริเวณเส้นศูนย์สูตรของรีอามีแถบสีน้ำเงินซึ่งอาจเป็นรอยจากการปะทะกับวัตถุหลุดวงโคจร และมันก็ถูกทิ้งเป็นปริศนาต่อไป[6]

อ้างอิง แก้

  1. "Rhea's Rings". NASA. 2008-04-15. สืบค้นเมื่อ 2009-10-07.
  2. Jones, Geraint H.; และคณะ (March 2008). "The Dust Halo of Saturn's Largest Icy Moon, Rhea". Science. AAAS. 319 (5868): 1380–1384. Bibcode:2008Sci...319.1380J. doi:10.1126/science.1151524. PMID 18323452.
  3. Matthew S. Tiscareno; Joseph A. Burns; Jeffrey N. Cuzzi; Matthew M. Hedman (2010). "Cassini imaging search rules out rings around Rhea". Geophysical Research Letters. 37 (14): L14205. arXiv:1008.1764. Bibcode:2010GeoRL..3714205T. doi:10.1029/2010GL043663.
  4. Gold, Lauren (2010-08-02). "No Rings Around Saturn's Rhea". Space Daily. สืบค้นเมื่อ 2010-08-05.
  5. Kerr, Richard A. (2010-06-25). "The Moon Rings That Never Were". ScienceNow. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-01. สืบค้นเมื่อ 2010-08-05.
  6. "Cassini Catches Saturn Moons in Paintball Fight". NASA/JPL. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-09. สืบค้นเมื่อ 2010-10-07.