ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 2023

การแข่งขัน ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 2023 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 19 ของ ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี (นับรวมครั้งที่ผ่านมาของฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี และ ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี), เป็นการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยุวชนที่จัดขึ้นสองปีต่อครั้ง จัดขึ้นโดย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) สำหรับทีมชาติประเภทชายรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ของทวีปเอเชีย. ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 ที่เล่นเป็นทัวร์นาเมนต์รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เนื่องจากเอเอฟซีเสนอให้เปลี่ยนการแข่งขันจากรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เป็นรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023.[1] นอกจากนี้, ทัวร์นาเมนต์ยังเปลี่ยนชื่อจาก "เอเอฟซี ยู-16 แชมเปียนชิป" เป็น "เอเอฟซี ยู-17 เอเชียน คัพ".[2]

ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 2023
ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 2023
รายละเอียดการแข่งขัน
ประเทศเจ้าภาพไทย
วันที่15 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม
ทีม16 (จาก 1 สมาพันธ์)
สถานที่(ใน 3 เมืองเจ้าภาพ)
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน
ชนะเลิศ ญี่ปุ่น (สมัยที่ 4th)
รองชนะเลิศ เกาหลีใต้
สถิติการแข่งขัน
จำนวนนัดที่แข่งขัน31
จำนวนประตู99 (3.19 ประตูต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุดญี่ปุ่น Gaku Nawata
(คนละ 5 ประตู)
ผู้เล่นยอดเยี่ยมญี่ปุ่น Gaku Nawata
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมญี่ปุ่น Wataru Goto
รางวัลแฟร์เพลย์ ญี่ปุ่น
2025

เมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2021, เอเอฟซีประกาศว่าบาห์เรนจะรักษาสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพสำหรับรุ่นปี 2023 หลังจากการยกเลิกของ ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี 2020 เนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19.[3][4] อย่างไรก็ตาม, บาห์เรนตัดสินใจถอนสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2022, ทำให้ต้องเลือกเจ้าภาพใหม่อีกครั้งในภายหลัง.[5] เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2022, ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโดยคณะกรรมการบริหารเอเอฟซี.[6]

ทั้งหมด 16 ทีมที่จะได้ลงเล่นในรายการนี้. สี่ทีมที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์จะได้ผ่านเข้าสู่ ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 2023 ใน ประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะตัวแทน เอเอฟซี นอกเหนือไปจาก [ฟุตบอลทีมชาติอินโดนีเซียรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี|อินโดนีเซีย]] ซึ่งผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพทีมใหม่.

ญี่ปุ่น คือแชมป์เก่า, ได้ชนะเลิศแชมป์ในปี ค.ศ. 2018.

รอบคัดเลือก

แก้

แมตช์รอบคัดเลือกได้ลงเล่นระหว่างวันที่ 1–9 ตุลาคม พ.ศ. 2565.[7]

ทีมที่เข้ารอบ

แก้

ด้านล่างนี่คือ 16 ทีมที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นสำหรับรอบสุดท้าย. บาห์เรน, อินโดนีเซีย, โอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เกาหลีเหนือ (หลังไม่ได้เข้าสู่รอบคัดเลือก) ทั้งหมดพลาดในฉบับนี้หลังจากผ่านการคัดเลือกในครั้งก่อนหน้านี้. นอกจากนี้, อัฟกานิสถาน, ลาว, มาเลเซีย, ไทย และ เวียดนาม เข้ารอบทั้งหมดสำหรับครั้งนี้หลังจากตอนแรกพลาดไป.

ทีม เข้ารอบในฐานะ จำนวนครั้งที่เข้าร่วม ผลงานครั้งที่ผ่านมาที่ดีที่สุด
  ญี่ปุ่น กลุ่ม เอ ชนะเลิศ ครั้งที่ 16 แชมเปียนส์ (1994, 2006, 2018)
  มาเลเซีย กลุ่ม บี ชนะเลิศ ครั้งที่ 6 รอบก่อนรองชนะเลิศ (2014)
  กาตาร์ กลุ่ม ซี ชนะเลิศ ครั้งที่ 11 แชมเปียนส์ (1990)
  ซาอุดีอาระเบีย กลุ่ม ดี ชนะเลิศ ครั้งที่ 11 แชมเปียนส์ (1985, 1988)
  เยเมน กลุ่ม อี ชนะเลิศ ครั้งที่ 6 รองชนะเลิศ (2002)
  เวียดนาม กลุ่ม เอฟ ชนะเลิศ ครั้งที่ 8 อันดับที่ 4 (2000)
  ออสเตรเลีย กลุ่ม จี ชนะเลิศ ครั้งที่ 7 รอบรองชนะเลิศ (2010, 2014, 2018)
  ทาจิกิสถาน กลุ่ม เอช ชนะเลิศ ครั้งที่ 4 รองชนะเลิศ (2018)
  อิหร่าน กลุ่ม ไอ ชนะเลิศ ครั้งที่ 12 แชมเปียนส์ (2008)
  อุซเบกิสถาน กลุ่ม เจ ชนะเลิศ ครั้งที่ 10 แชมเปียนส์ (2012)
  เกาหลีใต้ รองชนะเลิศที่ดีที่สุด ครั้งที่ 15 แชมเปียนส์ (1986, 2002)
  จีน อันดับที่ 2 รองชนะเลิศที่ดีที่สุด ครั้งที่ 15 แชมเปียนส์ (1992, 2004)
  อัฟกานิสถาน อันดับที่ 3 รองชนะเลิศที่ดีที่สุด ครั้งที่ 2 รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
  อินเดีย อันดับที่ 4 รองชนะเลิศที่ดีที่สุด ครั้งที่ 9 รอบก่อนรองชนะเลิศ (2002, 2018)
  ไทย อันดับที่ 5 รองชนะเลิศที่ดีที่สุด และเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 12 แชมเปียนส์ (1998)
  ลาว อันดับที่ 6 รองชนะเลิศที่ดีที่สุด ครั้งที่ 3 รอบแบ่งกลุ่ม (2004, 2012)

สนามแข่งขัน

แก้

แต่ละนัดจะลงเล่นในสี่สนามแข่งขันในสามเมือง/จังหวัด.

กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี
ราชมังคลากีฬาสถาน ปทุมธานีสเตเดียม
ความจุ: 51,552 ความจุ: 10,114
   
ปทุมธานี ชลบุรี
สนามกีฬาธรรมศาสตร์ ชลบุรีสเตเดียม
ความจุ: 25,000 ความจุ: 8,680
   

การจับสลาก

แก้

16 ทีมได้ถูกจับสลากอยู่ในสี่กลุ่มที่มีสี่ทีม, กับทีมที่เป็นทีมวางตามผลงานของพวกเขาใน ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี 2018 ทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้ายและ รอบคัดเลือก, กับเจ้าภาพ ประเทศไทย เป็นทีมวางอัตโนมัติ และถูกกำหนดให้อยู่ในตำแหน่ง เอ1 ในการจับสลาก. การจับสลากได้จัดขึ้นและโปรแกรมการแข่งขันได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566 ใน กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย.[8]

โถ 1 โถ 2 โถ 3 โถ 4

รอบแบ่งกลุ่ม

แก้

ชนะเลิศของรองชนะเลิศของแต่ละกลุ่มจะได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ.

เวลาแมตช์ทั้งหมดคือในเวลาท้องถิ่น, ICT (UTC+7).

กลุ่ม เอ

แก้
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1   ไทย 3 3 0 0 6 1 +5 9 รอบแพ้คัดออก
2   เยเมน 3 2 0 1 6 2 +4 6
3   มาเลเซีย 3 1 0 2 2 8 −6 3
4   ลาว 3 0 0 3 3 6 −3 0
แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
เยเมน  4–0  มาเลเซีย
รายงาน
ผู้ชม: 129 คน
ผู้ตัดสิน: Payam Heidari (อิหร่าน)
ไทย  2–1  ลาว
รายงาน

ลาว  1–2  เยเมน
Panyavong   55' รายงาน
สนามกีฬาธรรมศาสตร์, ปทุมธานี
ผู้ชม: 122 คน
ผู้ตัดสิน: Rustam Lutfullin (อุซเบกิสถาน)
มาเลเซีย  0–3  ไทย
รายงาน
ปทุมธานีสเตเดียม, ปทุมธานี
ผู้ชม: 1,515 คน
ผู้ตัดสิน: Ahmed Al-Ali (จอร์แดน)

ไทย  1–0  เยเมน
รายงาน
ปทุมธานีสเตเดียม, ปทุมธานี
ผู้ชม: 1,370 คน
ผู้ตัดสิน: Banerjee Pranjal (อินเดีย)
มาเลเซีย  2–1  ลาว
รายงาน
สนามกีฬาธรรมศาสตร์, ปทุมธานี
ผู้ชม: 135 คน
ผู้ตัดสิน: Nasrullo Kabirov (ทาจิกิสถาน)

กลุ่ม บี

แก้
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1   อิหร่าน 3 2 1 0 8 1 +7 7 รอบแพ้คัดออก
2   เกาหลีใต้ 3 2 0 1 10 3 +7 6
3   อัฟกานิสถาน 3 1 0 2 3 11 −8 3
4   กาตาร์ 3 0 1 2 2 8 −6 1
แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
เกาหลีใต้  6–1  กาตาร์
รายงาน
ปทุมธานีสเตเดียม, ปทุมธานี
ผู้ชม: 111 คน
ผู้ตัดสิน: Shen Yinhao (จีน)
อิหร่าน  6–1  อัฟกานิสถาน
รายงาน

อัฟกานิสถาน  0–4  เกาหลีใต้
รายงาน
ปทุมธานีสเตเดียม, ปทุมธานี
ผู้ชม: 170 คน
ผู้ตัดสิน: Thoriq Alkatiri (อินโดนีเซีย)
กาตาร์  0–0  อิหร่าน
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 83 คน
ผู้ตัดสิน: Omar Al-Yaqoubi (โอมาน)

เกาหลีใต้  0–2  อิหร่าน
รายงาน
ปทุมธานีสเตเดียม, ปทุมธานี
ผู้ชม: 264 คน
ผู้ตัดสิน: Ahmed Al-Ali (จอร์แดน)
อัฟกานิสถาน  2–1  กาตาร์
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 78 คน
ผู้ตัดสิน: Ali Reda (เลบานอน)

กลุ่ม ซี

แก้
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1   ซาอุดีอาระเบีย 3 3 0 0 7 0 +7 9 รอบแพ้คัดออก
2   ออสเตรเลีย 3 2 0 1 7 5 +2 6
3   ทาจิกิสถาน 3 0 1 2 1 5 −4 1
4   จีน 3 0 1 2 4 9 −5 1
แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
ออสเตรเลีย  0–2  ซาอุดีอาระเบีย
รายงาน
ผู้ชม: 95 คน
ผู้ตัดสิน: Omar Al-Yaqoubi (โอมาน)
ทาจิกิสถาน  1–1  จีน
Gafurov   36' รายงาน Wang Yudong   6'
ชลบุรีสเตเดียม, ชลบุรี
ผู้ชม: 373 คน
ผู้ตัดสิน: Pranjal Banerjee (อินเดีย)

จีน  3–5  ออสเตรเลีย
รายงาน
ชลบุรีสเตเดียม, ชลบุรี
ผู้ชม: 215 คน
ผู้ตัดสิน: Ahmed Eisa Darwish (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
ซาอุดีอาระเบีย  2–0  ทาจิกิสถาน
รายงาน
ชลบุรีสเตเดียม, ชลบุรี
ผู้ชม: 72 คน
ผู้ตัดสิน: Kim Jong-hyeok (เกาหลีใต้)

ทาจิกิสถาน  0–2  ออสเตรเลีย
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 128 คน
ผู้ตัดสิน: Thoriq Alkatiri (อินโดนีเซีย)
ซาอุดีอาระเบีย  3–0  จีน
รายงาน
ชลบุรีสเตเดียม, ชลบุรี
ผู้ชม: 233 คน
ผู้ตัดสิน: มงคลชัย เพชรศรี (ไทย)

กลุ่ม ดี

แก้
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ
1   ญี่ปุ่น 3 2 1 0 13 5 +8 7 รอบแพ้คัดออก
2   อุซเบกิสถาน 3 2 1 0 3 1 +2 7
3   อินเดีย 3 0 1 2 5 10 −5 1
4   เวียดนาม 3 0 1 2 1 6 −5 1
แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
ญี่ปุ่น  1–1  อุซเบกิสถาน
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 421 คน
ผู้ตัดสิน: มงคลชัย เพชรศรี (ไทย)
อินเดีย  1–1  เวียดนาม
รายงาน
สนามกีฬาธรรมศาสตร์, ปทุมธานี
ผู้ชม: 108 คน
ผู้ตัดสิน: Nasrullo Kabirov (ทาจิกิสถาน)

เวียดนาม  0–4  ญี่ปุ่น
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 294 คน
ผู้ตัดสิน: Ali Reda (เลบานอน)
อุซเบกิสถาน  1–0  อินเดีย
รายงาน
สนามกีฬาธรรมศาสตร์, ปทุมธานี
ผู้ชม: 98 คน
ผู้ตัดสิน: Shen Yinhao (จีน)

ญี่ปุ่น  8–4  อินเดีย
รายงาน
ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร
ผู้ชม: 274 คน
ผู้ตัดสิน: Nasrullo Kabirov (ทาจิกิสถาน)
เวียดนาม  0–1  อุซเบกิสถาน
รายงาน
สนามกีฬาธรรมศาสตร์, ปทุมธานี
ผู้ชม: 149 คน
ผู้ตัดสิน: Kim Jong-hyeok (เกาหลีใต้)

รอบแพ้คัดออก

แก้

โปรแกรมการแข่งขันสำหรับรอบแพ้คัดออกได้ถูกปล่อยออกมาในปี ค.ศ. 2023. 4 ทีมที่ดีที่สุดในรอบแพ้คัดออกจะได้ผ่านเข้าไปสำหรับ ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 2023 ในฐานะตัวแทนจากเอเอฟซี.

สายการแข่งขัน

แก้
 
รอบก่อนรองชนะเลิศรอบรองชนะเลิศรอบชิงชนะเลิศ
 
          
 
25 มิถุนายน – ปทุมธานี
 
 
  ไทย1
 
29 มิถุนายน – ปทุมธานี
 
  เกาหลีใต้4
 
  เกาหลีใต้1
 
26 มิถุนายน – ธรรมศาสตร์
 
  อุซเบกิสถาน0
 
  ซาอุดีอาระเบีย0
 
2 กรกฎาคม – ปทุมธานี
 
  อุซเบกิสถาน2
 
  เกาหลีใต้0
 
25 มิถุนายน – ธรรมศาสตร์
 
  ญี่ปุ่น3
 
  อิหร่าน
(ลูกโทษ)
0 (4)
 
29 มิถุนายน – ธรรมศาสตร์
 
  เยเมน0 (2)
 
  อิหร่าน0
 
26 มิถุนายน – ปทุมธานี
 
  ญี่ปุ่น 3
 
  ญี่ปุ่น3
 
 
  ออสเตรเลีย1
 

รอบก่อนรองชนะเลิศ

แก้

ผู้ชนะจะได้ผ่านเข้าไปสำหรับ ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 2023.


ไทย  1–4  เกาหลีใต้
รายงาน
ผู้ชม: 5,840 คน
ผู้ตัดสิน: Shen Yinhao (จีน)

ญี่ปุ่น  3–1  ออสเตรเลีย
รายงาน
ผู้ชม: 457 คน
ผู้ตัดสิน: มงคลชัย เพชรศรี (ไทย)

ซาอุดีอาระเบีย  0–2  อุซเบกิสถาน
รายงาน
ผู้ชม: 170 คน
ผู้ตัดสิน: Ahmed Al-Ali (จอร์แดน)

รอบรองชนะเลิศ

แก้
อิหร่าน  0–3  ญี่ปุ่น
รายงาน
ผู้ชม: 298 คน
ผู้ตัดสิน: Nasrullo Kabirov (ทาจิกิสถาน)

เกาหลีใต้  1–0  อุซเบกิสถาน
รายงาน
ผู้ชม: 496 คน
ผู้ตัดสิน: Banerjee Pranjal (อินเดีย)

รอบชิงชนะเลิศ

แก้
เกาหลีใต้  0–3  ญี่ปุ่น
รายงาน
ผู้ตัดสิน: มงคลชัย เพชรศรี (ไทย)

หมายเหตุ

แก้
  1. "AFC Competitions Committee recommends changes to youth competitions". AFC. 26 November 2018.
  2. "AFC rebrands age group championships to AFC Asian Cups". AFC. 2 October 2020.
  3. "Latest update on AFC Competitions in 2021". AFC. 25 January 2021.
  4. "Latest update on AFC Competitions in 2021". the-afc.com. Asian Football Confederation. 25 January 2021.
  5. "Bahrain withdraws from hosting 2023 AFC U-17 Cup". Bahrain News Agency. 17 June 2022.
  6. "Thailand recommended as host of the AFC U17 Asian Cup 2023". the-afc.com. AFC. 23 December 2022. สืบค้นเมื่อ 24 December 2022.
  7. "AFC Competitions Calendar 2022". AFC. 24 February 2021.
  8. "#AFCU17 Thailand 2023 Groups Finalised". Asian Football Confederation. 30 March 2023.

อ้างอิง

แก้