พระวรปิตา เป็นพระราชบิดาของพระเจ้าวรวงศาธรรมิกราช เดิมเป็นสามัญชน นามเดิมไม่ปรากฏ เมื่อพระหน่อแก้วกุมารสวรรคต ทางราชสำนักล้านช้างได้เลือกเจ้าวรวงศาขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ. 2139 แต่เนื่องจากขณะนั้น เจ้าวรวงศาพระชนม์เพียง13 พรรษา จึงให้พระวรปิตาขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการ จนกระทั่งพระเจ้าวรวงศาพระชนม์ครบ 15 พรรษา พระวรปิตาไม่ยอมคืนอำนาจแต่ต้องการกำจัดพระเจ้าวรวงศาเพื่อเป็นกษัตริย์เสียเอง จึงเกิดรบพุ่งกับพระยาแสนหลวงที่เป็นญาติฝ่ายมารดาของพระเจ้าวรวงศา ในที่สุดได้ไกล่เกลี่ยกัน พระเจ้าวรวงศาได้ขึ้นครองราชย์ดังเดิม

ต่อมา ใน พ.ศ. 2140 พระวรวงศากับพระยาแสนหลวงยกทัพไปกวาดต้อนครัวลาวที่เชียงใหม่ที่ถูกกวาดต้อนไปแต่ครั้งพม่าตีล้านช้างกลับมา พระวรปิตาถือโอกาสนี้ก่อกบฏ โดยเมื่อทัพของพระเจ้าวรวงศาและพระยาแสนหลวงกลับมาถึงใน พ.ศ. 2142 พระวรปิตาสั่งปิดประตูเมือง ไม่ให้เข้าเมือง เกิดรบพุ่งกัน 4 เดือน พระเถระอาวุโสจึงไกล่เกลี่ยให้คืนดีกัน พระวรปิตาได้เป็นเจ้าเมืองมรุกขนครหรือนครพนม ต่อมาใน พ.ศ. 2145 พระเจ้าวรวงศายกทัพขึ้นไปหลวงพระบางเพื่อตั้งรับทัพพม่าที่เข้ามาตีไทใหญ่ พระวรปิตาก่อกบฏ ยกทัพมายึดเวียงจันทน์ พระเจ้าวรวงศาจึงให้พระยาแสนหลวงยกทัพมายึดเวียงจันทน์คืน พระวรปิตาเป็นฝ่ายแพ้หลบหนีไป ก่อนจะถูกจับตัวได้ที่เมืองปากซัน หลังจากนั้น พระวรปิตาได้ขออภัยโทษและออกบวชตลอดชีวิต

อ้างอิง แก้

  • มหาบุนมี เทบสีเมือง. ความเป็นมาของชนชาติลาว เล่ม 2 อาณาจักรลาวล้านช้างตอนต้น. แปลโดย ไผท ภูธา. กทม. สุขภาพใจ. 2554. หน้า 318 - 323