ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัสตริดแห่งสวีเดน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ศรีคำ002 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
ศรีคำ002 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 52:
 
== อุบัติเหตุทางรถยนต์ ==
ในเดือนสิงหาคม [[พ.ศ. 2478]]1935 สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี พร้อมด้วยพระราชโอรสและธิดาได้เสด้จไปยังตำหนักฮาสลิฮอร์น ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบเจนีวา [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] การพักผ่อนอันเงียบสงบทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงใช้เวลาส่วนมากในการเดินและปีนเขาในแถบชนบท ในวันก่อนที่จะเสด็จกลับกรุงบรัสเซลส์ กษัตริย์เลโอโปลด์และพระราชินีอัสตริดทรงตัดสินพระทัยไปอีกแห่งหนึ่งเป็นที่สุดท้าย เลโอโพลด์ทรงเป็นนักปีนเขาที่กระตือรือร้น และได้ทรงปีนเทือกเขาโดโลไมต์มาแล้วหลายครั้ง ส่วนพระราชโอรสและธิดาเสด็จกลับยังกรุงบรัสเซลส์แล้ว
 
ในวันที่ [[29 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2478]]1935 สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโปลด์พระเจ้าเลออปอลและสมเด็จพระราชินีอัสตริดเสด็จออกจากตำหนักที่ประทับเพื่อไปในการปีนเขาซึ่งเป็นเหมือนคราวเคราะห์ครั้งสุดท้าย กษัตริย์เลโอโพลด์ซึ่งทรงขับรถยนต์สปอร์ตไปตามถนนที่แคบและมีลมแรงในแถบนี้ ทรงนึกถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันนั้น ส่วนพระราชินีอัสตริดที่ประทับนั่งมาข้าง ๆ ทรงช่วยพระสวามีมองดูเส้นทางเพื่อไปยังจุดหมาย เพียงไม่กี่นาทีก่อนถึงหมู่บ้านในเมืองเคือสนัคต์-อัม-รีกี พระองค์ทรงชี้ให้พระสวามีดูอะไรบางอย่าง ทำให้ทรงละสายตาไปทอดพระเนตรเพียงชั่วครู่ ทันใดนั้นรถยนต์พระที่นั่งก็พุ่งลงไปยังหุบเหว พระราชินีอัสตริดทรงกระเด็นออกนอกตัวรถอย่างรุนแรง ร่างไร้วิญญาณของพระองค์นอนอยู่บนสนามหญ้าใกล้กับซากรถยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าถึงเสียงตะโกนร้องว่า "อัสตริด!" ครั้งหนึ่ง เมื่อกษัตริย์เลโอโพลด์เลออปอลทรงอุ้มร่างที่โชกเลือดของพระมเหสีไว้แนบพระอุระ พระราชินีได้สวรรคตไปพร้อมกับทารกที่จะเป็นพระโอรสหรือธิดาพระองค์ที่สี่ในอุบัติเหตุครั้งนี้
ในเดือนสิงหาคม [[พ.ศ. 2478]] สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี พร้อมด้วยพระราชโอรสและธิดาได้เสด้จไปยังตำหนักฮาสลิฮอร์น ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบเจนีวา [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] การพักผ่อนอันเงียบสงบทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงใช้เวลาส่วนมากในการเดินและปีนเขาในแถบชนบท ในวันก่อนที่จะเสด็จกลับกรุงบรัสเซลส์ กษัตริย์เลโอโปลด์และพระราชินีอัสตริดทรงตัดสินพระทัยไปอีกแห่งหนึ่งเป็นที่สุดท้าย เลโอโพลด์ทรงเป็นนักปีนเขาที่กระตือรือร้น และได้ทรงปีนเทือกเขาโดโลไมต์มาแล้วหลายครั้ง ส่วนพระราชโอรสและธิดาเสด็จกลับยังกรุงบรัสเซลส์แล้ว
 
ในวันที่ [[29 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2478]] สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโปลด์และสมเด็จพระราชินีอัสตริดเสด็จออกจากตำหนักที่ประทับเพื่อไปในการปีนเขาซึ่งเป็นเหมือนคราวเคราะห์ครั้งสุดท้าย กษัตริย์เลโอโพลด์ซึ่งทรงขับรถยนต์สปอร์ตไปตามถนนที่แคบและมีลมแรงในแถบนี้ ทรงนึกถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันนั้น ส่วนพระราชินีอัสตริดที่ประทับนั่งมาข้าง ๆ ทรงช่วยพระสวามีมองดูเส้นทางเพื่อไปยังจุดหมาย เพียงไม่กี่นาทีก่อนถึงหมู่บ้านในเมืองเคือสนัคต์-อัม-รีกี พระองค์ทรงชี้ให้พระสวามีดูอะไรบางอย่าง ทำให้ทรงละสายตาไปทอดพระเนตรเพียงชั่วครู่ ทันใดนั้นรถยนต์พระที่นั่งก็พุ่งลงไปยังหุบเหว พระราชินีอัสตริดทรงกระเด็นออกนอกตัวรถอย่างรุนแรง ร่างไร้วิญญาณของพระองค์นอนอยู่บนสนามหญ้าใกล้กับซากรถยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าถึงเสียงตะโกนร้องว่า "อัสตริด!" ครั้งหนึ่ง เมื่อกษัตริย์เลโอโพลด์ทรงอุ้มร่างที่โชกเลือดของพระมเหสีไว้แนบพระอุระ พระราชินีได้สวรรคตไปพร้อมกับทารกที่จะเป็นพระโอรสหรือธิดาพระองค์ที่สี่ในอุบัติเหตุครั้งนี้
 
== พระอิสริยยศ ==