ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ขันธ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
# '''[[เวทนา|เวท]]นา''' เป็นเวทนาเจตสิก เป็นความรู้สึก มี 5 ได้แก่ [[ทุกข์]] [[สุข]] เกิดให้จิตรู้ได้ทางกาย โสมมนัส โทมนัส อุเบกขา เกิดให้จิตรู้ได้ทางใจ (หมายถึง ความรู้สึก 3 ประการคือสุขหรือพอใจอย่างหนึ่ง, ทุกข์หรือไม่พอใจอย่างหนึ่ง, อีกแบบหนึ่งอยู่ในลักษณะที่ไม่อาจจะเรียกได้ว่าสุขหรือทุกข์ คือเป็นเรื่องที่ยังเฉย ๆ อยู่ แต่ก็เป็นความรู้สึกเหมือนกัน. วันหนึ่ง ๆ ย่อมเต็มไปด้วยความรู้สึก; ท่านจึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ประกอบกันเป็นคน และเรียกวส่วนนี้ว่า เวทนา หรือ เวทนาขันธ์
# '''[[สัญญา (ศาสนาพุทธ)|สัญญา]]''' เป็นสัญญาเจตสิก เป็นความจำได้หมายรู้ ได้แก่ จำสิ่งที่ปรากฏได้ทางตา รับและรู้สึกนั้นๆได้ทางใจ แปลว่ารู้ตัว เป็นความรู้สึกตัวอยู่เหมือนอย่างว่าเรากำลังตื่นอยู่ คือไม่หลับ ไม่สลบ ไม่ตาย หรือเรียกว่ามีสติสมปฤดี. โดยทั่ว ๆ ไป มักจะอธิบายกันว่าเป็นความจำได้หมายรู้ ก็ถูกเหมือนกัน เพราะว่ายังไม่เมา ไม่สลบ ไม่หลับ ไม่ตาย ดังที่กล่าวมาแล้ว เมื่อกระทบอะไร ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็รู้สึกหรือจำได้ว่าเป็นอะไร เช่นรู้ว่า เขียว แดง สั้น ยาว คน สัตว์ ฯลฯ ตามแต่จะจำได้. นั่นแหละ เป็นความรู้สึกของสมปฤดี หรือ "สัญญา" ในที่นี้.
# '''[[สังขาร]]''' เป็นเจตสิก 50 ประเภท ปรุงแต่งจิตให้เป็นจิตหลากหลาย เรียกว่า "สังขาร" มีความหมายมาก จนมันปนกันยุ่งไปหมด, เราพูดถึงสังขารที่เป็นส่วนของนามธรรมนี้กันก่อนแปลว่า "ปรุง" คือกิริยาอาการของสิ่งที่เป็นอยู่ในคนหนึ่ง ๆ ได้แก่ การคิดหรือความคิดเช่นคิดจะทำ คิดจะพูด คิดอย่างนั้นอย่างนี้ คิดดีคิดเลวคิดทางไหนก็จัดเป็นความคิดทั้งนั้น. ความรู้สึกที่เป็นควาคิดพลุ่งขึ้นมาจากกรปรุแต่งภายในใจนี้เรียกว่าสังขาร. คำว่า สังขาร ในที่อื่นนั้น หมายถึงบุญกุศลที่ปรุงแต่งคนให้เกิดขึ้นก็มีหมายถึงร่างกายหรือโครงร่างที่มีจิตใจครองดังนี้ก็มี มีความหมายหลายทาง แต่ตรงกันโดยเหตุที่มันมีความหมายไปในทางมีการปรุงแต่งประกับกันขึ้นมา
# '''[[สังขาร]]''' เป็นเจตสิก 50 ประเภท ปรุงแต่งจิตให้เป็นจิตหลากหลาย
# '''[[วิญญาณ (ศาสนาพุทธ)|วิญญาณ]]''' เป็นจิตทั้งหมด เป็นสภาพรับรู้ ได้แก่ ระบบรับรู้สิ่งนั้นๆในปัจจุบัน ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
 
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/ขันธ์"