ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เดปอร์ติโบอาลาเบส"

ในฤดูกาล [[เซกุนดาดิบิซิออน ฤดูกาล 1953–54|1953–54]] สโมสรได้กลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ โรมัน การาตากา และได้ตกชั้นในฤดูกาลถัดมา<ref name=":0" /> ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1963 อาลาเบส ตกชั้นสู่ [[เตร์เซราดิบิซิออน]] ลีกลำดับที่สามในขณะนั้น ซึ่งได้อยู่ในลีกนี้จนถึงฤดูกาล [[เตร์เซราดิบิซิออน ฤดูกาล 1985–86|1985–86]]<ref>{{Cite web|url=https://alaves.elcorreo.com/historia/|title=Historia del Deportivo Alavés|website=Alaves – El Correo|language=es|access-date=2020-01-24}}</ref> ในฤดูกาล 1969-70 สโมสรตกสู่ระดับ[[ฟุตบอลลีกภูมิภาคในสเปน|ลีกลำดับที่สี่]] แต่เพียงปีเดียวสโมสรก็สามารถกลับขึ้นมาเล่นใน[[เตร์เซราดิบิซิออน]] ลีกลำดับที่สามในขณะนั้นได้ อีกครั้ง ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในการเลื่อนชั้นกลับเข้าสู่ เซกุนดาดิบิซิออนใน[[เซกุนดาดิบิซิออน เบ ฤดูกาล.1973–74|ฤดูกาล 1973–74]] โดยรักษาการอยู่ในลีกนี้ได้เป็นเวลา 9 ปีก่อนที่จะตกชั้นลงสู่ลีกล่างอีกครั้ง ใน[[เตร์เซราดิบิซิออน ฤดูกาล 1987–88|ฤดูกาล 1987–88]] อาลาเบส จบลำดับที่ 8 บนตารางคะแนน[[เตร์เซราดิบิซิออน]] ซึ่งเป็นลีกอันดับที่สี่ในขณะนั้น นับเป็นการจบอันดับที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่ในอีกเจ็ดฤดูกาลถัดมาพวกเขาจะกลับขึ้นมาในเซกุนดาดิบิซิออนได้อีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์กลุ่มของเขาสองปีติดต่อกันใน [[เซกุนดาดิบิซิออน เบ ฤดูกาล 1992–93]] (ลีกลำดับที่สามในขณะนั้นที่เพิ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1977)

หลังจากพวกเขาชนะเลิศ [[เซกุนดาดิบิซิออน ฤดูกาล 1997–98|1997–98]],<ref>{{Cite web|url=http://lafutbolteca.com/deportivo-alaves-s-a-d/|title=Deportivo Alavés, S.A.D. :: La Futbolteca. Enciclopedia del Fútbol Español|language=ES-es|access-date=2020-01-24}}</ref> ก็ทำให้พวกเขาเลื่อนชั้นสู่[[ลาลิกา|ลีกสูงสุด]] เป็นครั้งแรกในรอบ 42 ปี โดยในฤดูกาลนี้ อาลาเบส จบลำดับที่ 16 บนตารางคะแนน ซึ่งเก็บแต้มได้มากกว่าทีมที่ต้องเพลย์-ออฟตกชั้นอย่าง [[สโมสรฟุตบอลเอ็กเตร์มาดูราอิน|เอ็กเตร์มาดูราอิน]]เพียงแต้มเดียว ใน[[ลาลิกา ฤดูกาล 1999–2000|ฤดูกาลถัดมา]] อาลาเบส สามารถผ่านเข้าไปลงเล่นใน[[ยูฟ่ายูโรปาลีก|ยูฟ่าคัพ]]ได้สำเร็จ หลังจากพวกเขาจบอันดับที่หก บนตารางคะแนน[[ลาลิกา]] โดยเก็บได้ด้วยจำนวน 61 แต้ม โดยในจำนวนนี้พวกเขาสามารถเก็บ 6 แต้มได้จากการชนะ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]] ทั้งเหย้าและเยือน โดยนับเป็นสถิติการจบลำดับที่ดีที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน

[[ไฟล์:Liverpool vs Alaves 2001-05-16.svg|thumb|รายชื่อผู้เล่นใน[[ยูฟ่าคัพ 2001 นัดชิงชนะเลิศ 2001]] พบกับ[[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]]]]

ในฤดูกาล 2000–01 อาลาเบสจบลำดับที่ 10 บน[[ลาลิกา ฤดูกาล 2000–01|ตารางคะแนนลาลิกา]] และได้ผ่านเข้าสู่[[ยูฟ่าคัพ 2001 นัดชิงชนะเลิศ 2001|รอบชิงชนะเลิศชองฟุตบอลยูฟ่าคัพ]] หลังจากเอาชนะ[[แอร์สเทอ เอ็ฟเซ ไคเซิร์สเลาเทิร์น]] [[ราโยบาเยกาโน]] และ[[อินเตอร์มิลาน]] ตามลำดับในรอบแพ้คัดออก<ref>{{cite web |url=https://elpais.com/diario/2001/02/23/deportes/982882801_850215.html|title=El Alavés incendia San Siro|trans-title=Alavés set fire to San Siro|publisher=[[El País]]|language=es|date=23 February 2001|accessdate=24 February 2019 }}</ref><ref name=heck>{{cite web|url=https://www.fourfourtwo.com/features/what-heck-happened-alaves-after-2001|title=What the heck happened to Alaves after 2001?|work=[[FourFourTwo]] |author=Robert O'Connor|date=18 May 2016|accessdate=24 February 2019 }}</ref> โดยพวกเขาแพ้ใน[[ยูฟ่าคัพ นัดชิงชนะเลิศ 2001|รอบชิงชนะเลิศ]] ให้พวกเขาต้องพบกับ[[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]] ด้วยคะแนนที่[[เว็สท์ฟาเลินชตาดีอ็อน]] 5-4ใน[[ดอร์ทมุนด์]] อาลาเบสพ่ายแพ้ในช่วงต่อ[[เวลาพิเศษ (ฟุตบอล)|เวลาพิเศษ]]ด้วยกฎ[[โกลเดนโกล]] 5-4 หลังจาก[[เดลฟิ เกลิ]] โหม่งสกัดลูกฟรีคิกของ[[แกรี แม็กอัลลิสเตอร์]] เข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 116<ref>[https://www.telegraph.co.uk/sport/2317064/The-greatest-matches-of-all-time.html The greatest matches of all time]; [[The Daily Telegraph]], 4 July 2007</ref>

ในฤดูกาลถัดมา อาลาเบส จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 7 บน[[ลาลิกา ฤดูกาล 2001–02|ตารางคะแนนลาลิกา]] ทำให้ได้ผ่านเข้าไปลงเล่นใน[[ยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 2002–03]] นับเป็นครั้งที่สองที่ อาลาเบส ได้ลงเล่นในฟุตบอลยุโรป โดยทีมสามารถเอาชนะได้ในรอบแรกกับ [[สโมสรกีฬาอันคารากือจือ|อันคารากือจือ]] ก่อนที่จะแพ้ให้กับ[[เบชิกทัชฌิมนัสติกคูลือบือ|เบชิกทัช]]ในรอบที่สอง

ในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2003 อาบาเบส ชนะการแข่งขัน[[ลาลิกา]] นัดที่ 100 จากการชนะ[[เรอัลบายาโดลิด]] 3–1 ที่[[สนามกีฬาโฆเซซอร์รียา]] โดยในฤดูกาลนี้พวกเขาต้องตกชั้นลงอีกครั้ง ในเวลานี้ อาลาเบส ถูกซื้อโดย[[ดีมิทรี เพียตร์แมน]] นักธุรกิจชาวยูเครน - อเมริกัน โดยทำให้โค้ชและผู้เล่น<ref>[http://www.20minutos.es/noticia/178817/0/futbol/alaves/peterman/ Carreras denuncia el "trato vejatorio" de Piterman (Carreras denounces "vexatious treatment" by Piterman)]; 20 Minutos, 16 February 2006 {{in lang|es}}</ref> รวมถึงแฟนบอล ต่างไม่พอใจกเปนอย่างเป็นอย่างมาก<ref>[http://www.20minutos.es/noticia/93279/0/piterman/aficionados/subnormales/ Dimitri Piterman llama "subnormales" a los aficionados del Alavés (Dimitri Piterman calls Alavés' fans "morons")]; 20 Minutos, 22 February 2006 {{in lang|es}}</ref> อาลาเบส ใช้เวลาเพียงปีเดียวก็สามารถกลับมาสู่ตำแหน่งลีกสูงสุดได้ ก่อนที่จะจบอันดับที่ 18 บนลาลิกาทำให้ต้องตกชั้นลง อีกครั่งครั้ง โดยตลอดฤดูกาลได้ใช้ผู้จัดการทีมถึง 3 คน เพียตส์แมน ออกจากการดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 2007 ทำให้สโมสรมีหนี้สินจำนวนมาก อาลาเบส ต้องหนีการตกชั้นจาก[[เซกุนดาดิบิซิออน]]สองฤดูกาล แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จใน[[เซกุนดาดิบิซิออน ฤดูกาล 2008–09|ฤดูกาล 2008–09]]

อาลาเบส ต้องลงเล่นอยู่ใน[[เซกุนดาดิบิซิออน เบ]] เป็นเวลา 4 ฤดูกาล ก่อนที่ [[โฆเซ อันโตนิโอ เกเรสเอตา]] จะเข้าซื้อสโมสร<ref>{{cite news|url=http://alaves.elcorreo.com/noticias/2013-07-29/querejeta-hace-acciones-alaves-201307292006.html|title=Querejeta compra las acciones del Alavés que tenía la familia Ortiz de Zárate|trans-title=Querejeta bought Alavés' shares that the Ortiz de Zárate family held|publisher=[[El Correo]]|date=29 July 2013|accessdate=26 February 2017|language=Spanish}}</ref> และสามารถเลื่อนชั้นได้ใน[[เซกุนดาดิบิซิออน เบ ฤดูกาล 2012–13|ฤดูกาลนี้ 2012–13]] หลังจากชนะการ[[เซกุนดาดิบิซิออน เบ รอบเพลย์-ออฟ 2013|เพลย์-ออฟ]] ต่อ[[เรอัล ฆาเอน]] หลังจากการเข้ามาสะสางปัญหาทางเศรษฐกิจของ เกเรสเอตา ในอีกสามปีต่อมา ในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 อาลาเบส ชนะเลิศ[[เซกุนดาดิบิซิออน ฤดูกาล 2015–16|เซกุนดาดิบิซิออน]] ทำให้ได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลัง[[เซเด เลกาเนส|เลกาเนส]] ทีมลำดับที่สองพ่ายแพ้ต่อ[[เซเด นูมันเซีย|นูมันเซีย]] 2–0 ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน

ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2016 อาลาเบส ชนะการแข่งขันในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เลื่อนชั้นกลับขึ้นมา โดยเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]] ด้วยคะแนน 2–1 ที่สนาม[[กัมนอว์]]<ref>{{cite web|url=http://www.marca.com/eventos/marcador/futbol/2016_17/la-liga/jornada_3/bar_ala/|title=Glorioso Matagigantes|trans-title=Glorious Giantkillers|publisher=Marca|language=Spanish|date=10 September 2016|accessdate=21 September 2017}}</ref> ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 อาลาเบส สามารถผ่านเข้าไป[[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล นัดชิงชนะเลิศ|ชิงชนะเลิศ]][[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2016–17|โกปาเดลเรย์]] หลังจากเอาชนะ [[เซลตาเดบิโก]] ในรอบรองชนะเลิศ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่สโมสรได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศถ้วยในประเทศ หลังจาก ก่อนหน้านี้ เคยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาแล้วในปี [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1997–98|1998]] และ[[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2003–04|2004]] โดยในปี ค.ศ. 2017 นี้พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]] 3–1 ที่[[สนามกีฬาบิเซนเต กัลเดรอน|บิเซนเต กัลเดรอน]]<ref name=BBC>{{cite web|url=https://www.bbc.com/sport/football/39909498|title=Barcelona 3–1 Alavés|publisher=BBC Sport|date=27 May 2017|accessdate=21 September 2017}}</ref> โดยในฤดูกาลนี้พวกเขาจบลำดับที่เก้าบน[[ลาลิกา ฤดูกาล 2016–17#ตารางคะแนน|ตารางคะแนนลาลิกา]] จากการชนะ 14 นัด เสมอ 13 นัดและแพ้ 11 นัด<ref>{{Cite web|url=https://www.resultados-futbol.com/primera2017|title=Primera División, Temporada 2016/2017 – laliga, liga santander, la liga santander, campeonato nacional de liga de primera división, liga española|website=www.resultados-futbol.com|access-date=2019-11-20}}</ref>