ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ศรีคำ001 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Anggorn1 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20:
| birth_date = {{birth date |1921|06|10|df=yes}}
| birth_place = [[มอนเรโปส คอร์ฟู]] [[ราชอาณาจักรกรีซ|กรีซ]]
| death_style = สิ้นพระชนม์<!--ตามแนวทางสารานุกรมราชบัณฑิตยสภา ใช้คำว่าสิ้นพระชนม์กับพระราชสวามี ไมใช่สวรรคตไม่ใช่สวรรคต-->
| death_date = {{death date and age |2021|04|9 |1921|06|10|df=yes}}
|death_place= [[วินเซอร์ บาร์กเชอร์]] [[สหราชอาณาจักร]]
บรรทัด 48:
==ราชการทหารเรือ==
หลังจบจากโรงเรียนกอร์ดอนสตันในปีค.ศ. 1939 เจ้าชายฟิลิปในวัย 18 ชันษาเข้าศึกษาที่ราชนาวิกวิทยาลัยเป็นเวลาหนึ่งภาคเรียน แล้วจึงถูกส่งตัวกลับประเทศกรีซไปอยู่กับพระมารดาเป็นเวลาราวหนึ่งเดือนที่กรุงเอเธนส์ [[สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จที่ 2 แห่งกรีซ|สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งกรีซ]] สั่งให้เจ้าชายกลับอังกฤษ พระองค์จึงเสด็จกลับอังกฤษในเดือนกันยายนและเข้าเป็นนายเรือฝึกหัดในราชนาวีอังกฤษ<ref>Eade, pp. 129–130; Vickers, pp. 284–285, 433.</ref> พระองค์จบการศึกษาจากราชนาวิกวิทยาลัยในปีถัดมา ขณะนั้น [[สงครามโลกครั้งที่สอง]]กำลังขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วในยุโรป แต่เจ้าชายก็เลือกรับราชการทหารในกองทัพสหราชอาณาจักรต่อไป ในขณะที่พี่เขยทั้งสองของพระองค์ นั่นคือเจ้าชายคริสโทฟแห่งเฮ็สเซิน และแบร์โทลด์ มาร์คกราฟแห่งบาเดิน เข้าร่วมรบอยู่ฝ่ายเยอรมัน<ref>Vickers, pp. 293–295.</ref> เจ้าชายฟิลิปได้เป็นว่าที่เรือตรีในเดือนมกราคม ค.ศ. 1940 ทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลาสี่เดือนบนเรือหลวง''รามิลีย์'' (HMS ''Ramillies'') ในภารกิจคุ้มกันขบวนเรือขนส่งทหารออสเตรเลียที่ผ่าน[[มหาสมุทรอินเดีย]] ไม่นานจากนั้นก็ไปปฏิบัติหน้าที่บนเรือหลวง''เคนต์'' (HMS ''Kent'') และเรือหลวง''ชรอปเชอร์'' (HMS ''Shropshire'') ใน[[บริติชซีลอน]] ต่อมาหลังกองทัพอีตาลีบุกยึดประเทศกรีซในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1940 พระองค์ถูกโอนตัวจากมหาสมุทรอินเดียมาปฏิบัติหน้าที่บนเรือหลวง''วาแลนต์'' (HMS ''Valiant'') ในกองเรือเมดิเตอร์เรเนียน<ref>Heald, p. 60.</ref>
 
== สิ้นพระชนม์ ==
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 เจ้าชายฟิลิป ทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่เจ็ด [[กรุงลอนดอน]] เพื่อเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน หลังจากทรงมีอาการประชวร ก่อนที่ในวันที่ 1 มีนาคม จะทรงถูกส่งไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเซนต์บาร์โธโลมิว กรุงลอนดอน และทรงเข้ารับการผ่าตัดพระหทัยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งสำนัก[[พระราชวังบักกิงแฮม]]แถลงว่าการผ่าตัดลุล่วงไปด้วยดี และเสด็จออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2021<ref>[[เจ้าชายฟิลิป สิ้นพระชนม์ นานาชาติร่วมอาลัย BBC]]</ref>
 
วันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2021 สำนักพระราชวังของ[[สหราชอาณาจักร]] ประกาศว่าเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ สิ้นพระชนมืแล้วด้วยพระอาการสงบ โดยไม่ได้เปิดเผยสาเหตุของการสิ้นพระชนม์มากนัก โดยประกาศความว่า
 
''"นับเป็นความโศกเศร้าอย่างยิ่ง ที่[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระราชินีนาถ]]ได้ประกาศการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีผู้เป็นที่รัก เจ้าชายฟิลิป สิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อเช้าวันนี้ที่[[ปราสาทวินด์เซอร์]]"<ref>[https://www.royal.uk/announcement-death-duke-edinburgh Announcement of the death of The Duke of Edinburgh ''Royal household of United kingdom'']</ref>''
 
การสิ้นพระชนม์ของดยุคแห่งเอดินบะระนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระราชินีนาถ ซึ่งเคยตรัสถึงพระสวามีผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งว่า ''“ทรงเป็นพลังอันแข็งแกร่งที่ช่วยให้ข้าพเจ้ายืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้”''
 
รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศให้หน่วยงานราชการทุกแห่งลดธงครึ่งเสาจนถึงเวลา 8.00 ตามเวลาท้องถิ่นของวันถัดจากพระราชพิธีพระศพ และจะมีการยิงสลุต 41 นัดตามสถานที่สำคัญหลายแห่งทั่วสหราชอาณาจักรและยิบรอลตาร์ในช่วงเที่ยงของวันนี้ ตามเวลาท่องถิ่น รวมเป็นระยะเวลา 40 นาที เรือรบแห่งราชนาวีอังกฤษ ซึ่งรวมถึงเรือ HMS Diamond และเรือ HMS Montrose จะมีการยิงสลุตเพื่อถวายพระเกียรติแก่ดยุคแห่งเอดินบะระ ซึ่งทรงเคยรับราชการในกองทัพเรืออังกฤษเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และทรงดำรงพระยศต่างๆ มากมาย รวมถึงตำแหน่งจอมพลเรือ (Lord High Admiral)
 
ทั้งนี้ เจ้าชายฟิลิปทรงมีพระประสงค์ให้พิธีพระศพของพระองค์เป็นไปอย่างเรียบง่ายที่สุด โดยไม่ต้องมีการตั้งพระศพ (lie-in-state) ให้สาธารณชนเข้าร่วมถวายความอาลัย และให้ประกอบพิธีฝังภายในปราสาทวินด์เซอร์ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานที่ตั้งอยู่ในมณฑลบาร์คเชอร์
 
==พระบุตร==