ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย (ดักมาร์แห่งเดนมาร์ก)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Secretsoil (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 50:
== เป็นคู่หมั้นสองหน สุดท้ายเป็นเจ้าสาว ==
 
การถือกำเนิดของอุดมคติเกี่ยวกับความชื่นชอบสิ่งซึ่งเป็นของสลาฟในจักรวรรดิรัสเซียทำให้[[จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 แห่งรัสเซีย]]ทรงเสาะหาเจ้าสาวให้กับ[[แกรนด์ดยุกนิโคลาส อเล็กซานโดรวิชแห่งรัสเซีย]] ในประเทศอื่นนอกเหนือไปจากรัฐเยอรมันต่างๆต่าง ๆ ที่ได้ถวายพระชายาให้กับพระจักรพรรดิรัสเซีย อย่างเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ในปี [[พ.ศ. 2407]] แกรนด์ดยุกนิโคลาส หรือ ซึ่งรู้จักในหมู่พระประยูรญาติว่า "นิกซา" เสด็จเยือน[[ประเทศเดนมาร์ก]]และทรงหมั้นกับเจ้าหญิงดักมาร์ แต่พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วย[[วัณโรค]] เมื่อวันที่ [[22 เมษายน]] [[พ.ศ. 2408]] ทั้งนี้ก่อนสิ้นพระชนม์ยังมีพระประสงค์ให้เจ้าหญิงทรงหมั้นกับแกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์ ซึ่งต่อมาคือ [[จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย|จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3]] พระอนุชาแทน เจ้าหญิงดักมาร์ทรงเสียพระทัยมากเมื่อพระคู่หมั้นสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงพระทัยสลายมากเมื่อเสด็จกลับสู่มาตุภูมิ พระประยูรญาติต่างทรงรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของเจ้าหญิง พระองค์ทรงรู้สึกเกี่ยวพันกับประเทศรัสเซียและนึกถึงประเทศที่ยิ่งใหญ่อยู่ไกลโพ้นที่จะเป็นบ้านใหม่ของพระองค์ การสูญเสียครั้งใหญ่นี้ทำให้ทรงใกล้ชิดกับพระชนกและชนนีของแกรนด์ดยุกนิกซา และทรงได้รับพระราชหัตถเลขาจากสมเด็จพระจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งเนื้อความในนั้นเป็นคำปลอบใจจากพระจักรพรรดิ พระองค์ตรัสกับเจ้าหญิงด้วยความรักใคร่ว่าพระองค์ทรงหวังว่าเจ้าหญิงจะยังคงคิดว่าเป็นสมาชิกในพระราชวงศ์รัสเซียอยู่<ref> Empress Marie Feodorovna's Favorite Residences in Russia and in Denmark, p.55 </ref> ในเดือน[[มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2409]] เมื่อแกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์เสด็จเยือนประเทศเดนมาร์ก ทรงขออภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงดักมาร์ ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ในห้องของเจ้าหญิงเพื่อดูรูปต่างๆต่าง ๆ ด้วยกัน<ref> A Royal Family, pp.171-172 </ref>
[[ไฟล์:Nicholas II of Russia as a child with his mother.jpg|thumb|180px|left|เจ้าหญิงมาเรียและเจ้าชายนิคกี้]]
 
 
เจ้าหญิงดักมาร์เสด็จออกจากประเทศเดนมาร์กเมื่อวันที่ [[1 กันยายน]] [[พ.ศ. 2409]] ขณะนั้นท่ามกลางฝูงชนที่ยืนรายล้อมท่าเรือส่งเสด็จได้มี[[ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ็น]]ยืนเฝ้าส่งเสด็จอยู่ด้วย เขาได้เขียนลงในสมุดบันทึกว่า "เมื่อวานนี้ ที่ท่าเรือ ขณะเจ้าหญิงเสด็จผ่านหน้าข้าพเจ้า ก็ทรงหยุดยืนและจับมือของข้าพเจ้า นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา ช่างเป็นสาวน้อยที่น่าสงสารอะไรเช่นนี้ พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเมตตาและเห็นใจเจ้าหญิงด้วย เขาร่ำลือว่ามีราชสำนักอันงามสง่าใน[[เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก|กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก]] และครอบครัวของพระจักรพรรดินั้นดี แต่กระนั้นเจ้าหญิงยังคงต้องมุ่งหน้าไปยังประเทศที่ไม่ทรงคุ้นเคย ที่ซึ่งผู้คนแตกต่างและศาสนาก็แตกต่างเช่นกัน อีกทั้งจะไม่ทรงมีคนรู้จักอยู่ข้างๆข้าง ๆ เลย"
 
เจ้าหญิงดักมาร์ทรงได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นที่เมืองครอนสตัดท์จากสมเด็จพระจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 และสมาชิกทุกพระองค์ในราชวงศ์รัสเซีย เจ้าหญิงทรงได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็นแกรนด์ดัชเชสมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย งานพิธีราชาภิเษกสมรสอันหรูหราเกิดขึ้นในวันที่ [[9 พฤศจิกายน]] ([[28 ตุลาคม]] ตาม[[ปฏิทินแบบเก่า]]) [[พ.ศ. 2409]] ณ โบสถ์หลวง พระราชวังฤดูหนาว [[เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก|กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก]] หลังจากคืนวันอภิเษกสมรส แกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์ทรงเขียนเล่าในสมุดบันทึกว่า "เราถอดรองเท้าและชุดคลุมประดับด้วยเงินออก และสัมผัสร่างกายที่รักของเราอยู่ด้านข้าง เรารู้สึกยังไงน่ะหรือ เราไม่ปรารถนาที่จะพรรณนาลงในนี้ หลังจากนั้นเราสองคนก็คุยกันอยู่เป็นเวลานาน"<ref> ibid p.173 </ref> หลังจากงานเลี้ยงฉลองการอภิเษกสมรสทั้งหมดผ่านพ้นไป ทั้งสองพระองค์ก็ได้ย้ายไปยัง[[พระราชวังอานิชคอฟ]] ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นที่ประทับอีกต่อมา 15 ปี เมื่อมิได้เสด็จประพาสฤดูร้อนยัง[[พระราชวังลิวาเดีย]] อันเป็นตำหนักฤดร้อนอยู่ใน[[เมืองไครเมีย]]