ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
ล ย้อนการแก้ไขของ 2403:6200:88A0:F123:85B2:C8A5:3210:1BB2 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว ถูกย้อนกลับแล้ว |
||
บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล เหตุการณ์ประวัติศาสตร์
|Event_Name=การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475
เส้น 16 ⟶ 15:
*การประนีประนอมระหว่างคณะราษฎรกับอำนาจเก่าส่งผลให้[[พระยามโนปกรณนิติธาดา]]ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนแรก|URL=}}
'''การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475'''<ref>สำหรับการปฏิวัติ [[ชาวไทย]]ทั่วไปนิยมเรียกโดยง่ายว่า ''การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475'' หรือเรียกโดยผิดจากความหมายที่แท้จริงว่า ''[[รัฐประหาร]]''</ref> เป็นจุด
== เบื้องหลัง ==
[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยในหลายด้าน แต่การปฏิรูปรัฐธรรมนูญกลับเป็นไปอย่างเชื่องช้าซึ่งสร้างความไม่พอใจในหมู่พวกหัวก้าวหน้าและเสรีนิยม<ref name="Page four">Stowe p.4</ref> ในปี พ.ศ. 2454 ได้เกิด[[กบฏ ร.ศ. 130]] ซึ่งดำเนินการโดยคณะนายทหารหนุ่ม เป้าหมายของคณะคือเปลี่ยนแปลงรูปแบบ
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ทรงสืบราชสมบัติสืบต่อจากพระเชษฐาเป็น[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] หลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระองค์ทรงสืบช่วงปกครองประเทศในวิกฤตการณ์ พระเชษฐาของพระองค์ทรงได้ทำให้สถานะของประเทศเกือบจะล้มละลาย เพราะทรงมักจะใช้เงินจากกองคลังมาปกปิดการขาดดุลของท้องพระคลังข้างที่ และข้อเท็จจริงยังมีว่ารัฐและประชาชนถูกบังคับให้จ่ายเงินแก่พระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ซึ่งมีวิถีชีวิตอันหรูหราฟุ่มเฟือย พระองค์ทรงรีบจัดตั้ง[[อภิรัฐมนตรีสภา]]ขึ้นเป็นองค์กรหลักในการปกครองรัฐ เพื่อพยายามแก้ไขปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ สภานั้นประกอบด้วยเจ้านายอาวุโสมีประสบการณ์ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลก่อนมาแล้ว เจ้านายเหล่านั้นเร่งเปลี่ยนตัวสามัญชนที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในข้าราชการพลเรือนและทหารแล้วแทนที่
เมื่อถึง พ.ศ. 2473 สถานการณ์โลกหนักหนาเกินกว่าประเทศจะรับได้เมื่อ[[เหตุการณ์ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทตก ค.ศ. 1929|ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทล่ม]]และ[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่|ความล่มสลายทางเศรษฐกิจ]]มาถึงสยามในที่สุด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสนอให้จัดเก็บ[[ภาษี]]รายได้ทั่วไปและภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนยากจน แต่นโยบายดังกล่าวถูกสภาปฏิเสธอย่างรุนแรง ซึ่งสภาเกรงว่าทรัพย์สินของพวกตนจะลดลง สภาหันไปลดค่าตอบแทนของข้าราชการพลเรือนและลดงบประมาณทางทหารแทน ทำให้อภิชนผู้ได้รับการศึกษาในประเทศส่วนใหญ่โกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านายทหาร<ref name="Page two"/> และในปี 2474 [[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช]] เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ลาออก พระองค์เจ้าบวรเดชมิใช่สมาชิกอภิรัฐมนตรีสภา และสงสัยว่าความไม่ลงรอยกับสภาเรื่องการตัดงบประมาณนำไปสู่การลาออกนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงยอมรับว่าพระองค์ทรงขาดความรู้การคลังอย่างเปิดเผย พยายามต่อสู้กับเจ้านายที่อาวุโสกว่าในเรื่องนี้ แต่ก็สำเร็จเพียงเล็กน้อย<ref name="Page two">Stowe P.2</ref>
|