ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}▼
{{กล่องข้อมูล พุทธศาสนสถาน
| full_name = วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
เส้น 37 ⟶ 38:
'''วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร''' ตั้งอยู่ใน[[แขวงศิริราช]] [[เขตบางกอกน้อย]] [[กรุงเทพมหานคร]] เป็น[[พระอารามหลวง]]ชั้นโทชนิดวรมหาวิหาร อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์[[มหานิกาย]]ภาค 1
วัดแห่งนี้เป็นวัด
วัดระฆังโฆสิตารามมีหอ[[พระไตรปิฎก]]ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก
== ประวัติ ==
เดิมเป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ และขึ้นยกเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัตนโกสินทร์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งอัญเชิญมาจากนครศรีธรรมราชขึ้นที่วัดนี้
ในรัชสมัย
ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่
== อาณาเขตที่ตั้งวัด ==
บรรทัด 62:
=== หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า ===
[[ไฟล์:Phra Prathan Yim Rub Fa (II).jpg|thumb|300px|หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า]]
พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ
== โบราณสถานสำคัญ ==
=== พระอุโบสถ ===
[[ไฟล์:Wat Rakhang (I).jpg|300px|thumb|right|อุโบสถ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร]]
เป็นทรงแบบรัชกาลที่
=== พระวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า) ===
{{โครงส่วน}}
เป็นทรงแบบรัชกาลที่
=== พระปรางค์ ===
รัชกาลที่
=== หอระฆัง ===
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สืบถามเรื่องระฆังของวัดบางหว้าใหญ่ซึ่งเป็นระฆังที่มีเสียงไพเราะยิ่งนัก ที่ขุดได้ในวัดนั้นว่าขุดได้ ณ ที่ใด
▲พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สืบถามเรื่องระฆังของวัดบางหว้าใหญ่ซึ่งเป็นระฆังที่มีเสียงไพเราะยิ่งนัก ที่ขุดได้ในวัดนั้นว่าขุดได้ ณ ที่ใด ทรงขอระฆังเสียงดีลูกนั้นไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงสร้างหอระฆังจตุรมุขพร้อมทั้งระฆังอีก ๕ ลูก พระราชทานไว้แทน เพราะเหตุแห่งการขุดระฆังได้ จึงได้ชื่อตามที่ประชาชนเรียกว่า วัดระฆัง ตั้งแต่นั้นมา
=== หอพระไตรปิฎก ===
เป็นรูปเรือน
=== ศาลาการเปรียญ ===
{{โครงส่วน}}
=== หอพระไตรปิฎก (คณะ 2) ===
▲ อยู่หน้าตำหนักแดง ในคณะ ๒ เป็นเรือนไม้ฝาปะกน ปิดทอง ทาสีเขียวสด ประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำสวยงามมาก
=== พระเจดีย์สามองค์ ===
สร้างโดยเจ้านายวังหลัง
== สถานที่น่าสนใจภายในวัด ==
=== พระวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ===
เป็นพระวิหารทรงเดียวกับ พระวิหารสมเด็จพระสังฆราช (สี) ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน มีเครื่องหมาสำคัญที่หน้าบันทั้งสองข้าง เป็นรูปพัดยศจารึกอักษรไว้ว่า “พระวิหารสมเด็จ ๒๕๐๓” เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระราชาคณะของวัดนี้
▲- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสรีวงศ์) เป็นพระเถระที่มีพระเกียรติคุณปรากฏอีกองค์หนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงได้รับการถวายเจ้านายโดยเฉพาะ เป็นเหตุให้พระเครื่องที่ทรงทำร่วมกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ผู้เป็นอาจารย์ ได้รับขนานนามว่า “สมเด็จปิลันทน์” และมีชื่อเสียงควบคู่กันมา
▲- สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ อิศรางกูร) ผู้มีชื่อเสียงในทางเทศนาวิธีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชี่ยวชาญการเทศน์มหาชาติทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ได้เป็นเปรียญ ๓ ประโยคตั้งแต่ยังเป็นสามเณร หรือมีอายุได้ ๑๔ ปี เท่านั้น และสำเร็จเป็นเปรียญ ๘ ประโยค ในเวลาต่อมา เมื่อครั้งเป็นที่พระพิมลธรรม ท่านได้รับพระราชทานสุพรรณบัฏเป็นพิเศษกว่าสมเด็จพระราชาคณะองค์อื่น ๆ และเมื่อมรณภาพ ในรัชกาลที่ ๖ ก็ได้รับการพระราชทานเพลิงที่พระเมรุสนามหลวงเป็นเกียรติด้วย {{โครงส่วน}}
=== พระวิหารสมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ===
ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ หลังคามุงกระเบื้องเคลือบติดคันทวยตามเสาสวยงาม หน้าบันทั้งสองด้าน จำหลักรูปฉัตร
=== พิพิธภัณฑ์วัดระฆังโฆสิตาราม (อาคารเฉลิมพระเกียรติริมแม่น้ำเจ้าพระยา)===
{{โครงส่วน}}
เส้น 178 ⟶ 176:
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
▲{{ต้องการอ้างอิง}}
== ดูเพิ่ม ==
|