ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ปรับปรุงเพิ่มส่วนอ้างอิง และตัดเนื้อหาที่ไม่เป็นสารานุกรมออก |
||
บรรทัด 1:
'''ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา''' ({{lang-en|Fermat's last theorem}}) เป็นหนึ่งใน[[ทฤษฎีบท]]ที่โด่งดังใน[[ประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์]] ซึ่งกล่าวว่า:
{{คำพูด|ไม่มี[[จำนวนเต็ม]]บวก ''x'', ''y'', และ ''z'' ที่ทำให้ <math>x^n + y^n = z^n \;</math> เมื่อ ''n'' เป็น[[จำนวนเต็ม]]ที่มากกว่า 2<ref>{{cite web |last1=Weisstein |first1=Eric W. |title=Fermat's Last Theorem |url=https://mathworld.wolfram.com/FermatsLastTheorem.html |website=mathworld.wolfram.com |language=en}}</ref>}}
[[ปีแยร์ เดอ แฟร์มา]] [[นักคณิตศาสตร์]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้เขียนทฤษฎีบทนี้ลงในหน้ากระดาษหนังสือ ''Arithmetica'' ของ[[ไดโอแฟนตัส]] ฉบับแปลเป็น[[ภาษาละติน]]โดย [[Claude-Gaspar Bachet]] เขาเขียนว่า "ฉันมีบทพิสูจน์ที่น่าอัศจรรย์สำหรับบทสรุปนี้ แต่พื้นที่กระดาษเหลือน้อยเกินไปที่จะอธิบายได้" (เขียนเป็นภาษาละตินว่า "Cuius rei demonstrationem mirabilem sane detexi. Hanc marginis exiguitas non caperet.") อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา
[[ไฟล์:Pierre de Fermat.jpg|thumb|150px|ปีแยร์ เดอ แฟร์มา]]
ความสนใจของนักคณิตศาสตร์ที่จะพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาทำให้เกิดคณิตศาสตร์สาขาใหม่ ๆ ขึ้นมา ได้แก่ [[ทฤษฎีจำนวนเชิงพีชคณิต]] ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19<ref>{{cite book |last1=Stewart |first1=Ian |last2=Tall |first2=David |title=Algebraic Number Theory and Fermat's Last Theorem |publisher=CRC PRESS |isbn=9780367658717}}</ref> และนำไปสู่บทพิสูจน์'''ข้อคาดการณ์ทานิยามา-ชิมูระ'''ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่บัจจุบันรู้จักกันในชื่อ [[ทฤษฎีบทมอดูลาริตี]]<ref>{{cite web |title=Shimura-Taniyama conjecture - Encyclopedia of Mathematics |url=https://encyclopediaofmath.org/wiki/Shimura-Taniyama_conjecture |website=encyclopediaofmath.org}}</ref>
== บริบททางคณิตศาสตร์ ==
ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา เป็นรูปแบบทั่วไปของ[[สมการไดโอแฟนไทน์]] ''a''<sup>2</sup> + ''b''<sup>2</sup> = ''c''<sup>2</sup> (สมการที่ตัวแปรเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น) ชาวจีน ชาวกรีก และชาวบาบิโลเนียนได้ค้นพบคำตอบของสมการนี้หลายคำตอบเช่น (3, 4, 5) (3<sup>2</sup> + 4<sup>2</sup> = 5<sup>2</sup>) หรือ (5, 12, 13) เป็นต้น คำตอบเหล่านี้เรียกว่า [[สามสิ่งอันดับพีทาโกรัส]] (Pythagorean triples) และมีอยู่จำนวนไม่จำกัด ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา กล่าวว่า สมการนี้จะไม่มีคำตอบเมื่อเลขยกกำลังมากกว่า 2
== ประวัติในยุคแรก ๆ ==
เส้น 18 ⟶ 16:
เราอาจพิสูจน์ทฤษฎีบทนี้ในกรณีที่ ''n'' = 4 และกรณีที่ ''n'' เป็น[[จำนวนเฉพาะ]] ก็สามารถสรุปได้ว่าทฤษฎีบทเป็นจริงสำหรับทุกค่า ''n''.
แฟร์มาได้พิสูจน์กรณี ''n'' = 4, [[เลออนฮาร์ด ออยเลอร์|ออยเลอร์]] พิสูจน์กรณี ''n'' = 3, [[
ใน [[ค.ศ. 1983]] [[Gerd Faltings]] ได้พิสูจน์[[ข้อความคาดการณ์ของ Mordell]] สำเร็จ ซึ่งกล่าวว่าสำหรับ ''n'' > 2 จะมีจำนวนเต็ม ''a'', ''b'' และ ''c'' ซึ่งเป็น[[จำนวนเฉพาะสัมพัทธ์]]กัน และทำให้ ''a''<sup>''n''</sup> + ''b''<sup>''n''</sup> = ''c''<sup>''n''</sup> อยู่จำนวนจำกัด
เส้น 24 ⟶ 22:
== บทพิสูจน์ ==
[[แอนดรูว์ ไวลส์]] (Andrew Wiles) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษจาก[[มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์]] ได้พิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา โดยใช้เครื่องมือในการพิสูจน์คือ [[เรขาคณิตเชิงพีชคณิต]]
ไวลส์ใช้เวลา 7 ปีในการพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา เขาทำการพิสูจน์โดยลำพัง และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด (ยกเว้น ตอนตรวจทานครั้งสุดท้าย ซึ่งเขาได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขาที่ชื่อ [[Nick Katz]]) ในวันที่ 21-23 มิถุนายน [[ค.ศ. 1993]] เขาก็ได้แสดงบทพิสูจน์ของเขาที่
== แฟร์มามีบทพิสูจน์จริงหรือ? ==
เส้น 39 ⟶ 38:
แอนดรูส์ ไวลส์ เองก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขาไม่เชื่อว่าแฟร์มาจะมีบทพิสูจน์ที่ถูกต้องจริง
<blockquote style="font-style:italic;">I don’t believe Fermat had a proof. I think he fooled himself into thinking he had a proof. But what has made this problem special for amateurs is that there’s a tiny possibility that there does exist an elegant seventeenth century proof.<ref>{{cite web |title=NOVA Online {{!}} The Proof {{!}} Solving Fermat: Andrew Wiles |url=https://www.pbs.org/wgbh/nova/proof/wiles.html |website=www.pbs.org}}</ref> </blockquote>
<blockquote style="font-style:italic;">(ผมไม่เชื่อว่าแฟร์มาจะมีบทพิสูจน์ที่ถูกต้องจริง ผมคิดว่าเขาหลอกให้ตัวเองเชื่อว่าเขามีบทพิสูจน์นั้น แต่สิ่งที่ทำให้โจทย์ข้อนี้เป็นเรื่องพิเศษสำหรับนักคณิตศาสตร์สมัครเล่นก็คือ มันทำให้เกิดความหวังว่า ยังมีโอกาสที่จะค้นพบบทพิสูจน์อันสวยงามได้โดยใช้เพียงความรู้คณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 17) </blockquote>
== ดูเพิ่ม ==
เส้น 49 ⟶ 46:
* [[สมมติฐานของรีมันน์]]
==
{{reflist}}
== อ่านเพิ่มเติม ==
*{{cite book |last1=Stewart |first1=Ian |last2=Tall |first2=David |title=Algebraic Number Theory and Fermat's Last Theorem |publisher=CRC PRESS |isbn=9780367658717}}
*{{cite book |last1=Saitō |first1=Takeshi |title=Fermat’s Last Theorem: The Proof |publisher=American Mathematical Society |location=Providence, Rhode Island |isbn=978-0-8218-9849-9}}
*{{cite web |title=Fermat's last theorem |url=http://encyclopediaofmath.org/index.php?title=Fermat%27s_last_theorem |website=Encyclopedia of Mathematics}}
[[หมวดหมู่:ทฤษฎีจำนวน]]
|