ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาดอนนา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ne Prom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Ne Prom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล นักร้อง
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ความหมายอื่น|เปลี่ยนทาง=Madonna|ดูที่=พระแม่มารี}}<!--Mary, called since medieval times Madonna, was a Jewish resident of Nazareth in Galilee and known from the New Testament as the mother of Jesus of Nazareth.-->{{กล่องข้อมูล นักร้อง
| ชื่อ = มาดอนน่า
| ประเภท = นักร้อง
| ภาพ = Madonna performed "Like a Virgin" during The Blonde Ambition World Tour in 1990.jpg
| คำบรรยายภาพ =มาดอนน่า แสดงเพลง Like A Virgin อันล่อแหลม<br />ในทัวร์คอนเสิร์ตบลอนด์แอมบิชั่น ปี .ศ.19902533<br />จุดซึ่งสร้างกระแสต่อต้านจากสำนักวาติกัน
| ขนาดภาพ = 500
| ภาพแนวนอน =Madonna performed "Like a Virgin" during The Blonde Ambition World Tour in 1990.jpg
| ชื่อจริง = มาดอนนา ลูอิส ชีคโคเน
เส้น 20 ⟶ 19:
| อดีตสมาชิก =
}}
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ความหมายอื่น|เปลี่ยนทาง=Madonna|ดูที่=พระแม่มารี}}<!--Mary, called since medieval times Madonna, was a Jewish resident of Nazareth in Galilee and known from the New Testament as the mother of Jesus of Nazareth.-->'''มาดอนนา ลูอิส ชีโคเน'''<ref>{{cite web|title=Brando Enterprises LP v. Madonna Louise Ciccone et al |work=RFC Express|year=2004|url=http://www.rfcexpress.com/lawsuits/trademark-lawsuits/california-central-district-court/110985/brando-enterprises-lp-v-madonna-louise-ciccone-et-al/summary/|date=2012-10-28|accessdate=2013-02-26}}</ref> ({{lang-en|Madonna Louise Ciccone}}; {{IPAc-en|tʃ|ɪ|ˈ|k|oʊ|n|eɪ}} {{respell|chi|KOH|nay}}) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อของ '''มาดอนน่า''' เป็น[[นักร้อง]]สาว[[ป๊อป|แนวเพลงป็อป]][[อเมริกา|ชาวอเมริกัน]] เป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมาก มีชื่อเสียงแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลกและโด่งดังเป็นอย่างมากในช่วงยุค 80s ด้วยภาพลักษณ์ที่แรง เป็นคนกล้า มุ่งมั่น และชัดเจน อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอเสมอมา โดยเป็นนักร้องหญิงเพียงคนเดียวที่มีเพลงขึ้นอันดับหนึ่งมากกว่า 10 เพลงทั้งฝั่งอเมริกา และอังกฤษ และได้รับฉายาว่าเป็น"ราชินีแห่งเพลง[[ป็อป]]" นอกจากความสามารถด้านการร้องเพลงแล้ว มาดอนน่ายังเป็น[[นักแต่งเพลง]] [[โปรดิวเซอร์]] [[ผู้กำกับภาพยนตร์]] และนักแสดงอีกด้วย
 
== ประวัติ ==
 
ในปี 1977 เธอได้ย้ายจากบ้านเกิดที่[[เบย์ซิตี้]] [[รัฐมิชิแกน]] [[สหรัฐอเมริกา]] ด้วยเงินติดตัวเพียง 35 ดอลลาร์ เธอบอกให้แท็กซี่พาเธอไปที่ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง จนเธอได้เรื่มต้นเข้ามาทำงานในร้านดังกิ้นโดนัทใน [[นครนิวยอร์ก|นิวยอร์ก]] ด้วยความหวังที่ว่า สักวันนึงเธอจะต้องดังให้ได้ เธอตะเกียกตะกายมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งปี 1979 เธอได้งานเป็นนักแสดงในคณะละครเสียดสีสังคม ในช่วงนั้นเธอได้รู้จักกับ[[แดน กิลรอย]] (''[[:en:Dan Gilroy|Dan Gilroy]]'') ต่อจากนั้นไม่นานนัก ทั้งสองตัดสินใจคบกันในฐานะคนรัก และได้ฟอร์มวงดนตรีขึ้นมา ชื่อว่า เดอะ เบรกฟาสต์ คลับ (''The Breakfast Club'') เริ่มแรกมาดอนน่าเล่นกลองและในเวลาต่อมาเธอก็ได้เป็นนักร้องนำ
ที่เป็นใจกลางของทุกสิ่ง จนเธอได้เรื่มต้นเข้ามาทำงานในร้านดังกิ้นโดนัทใน [[นครนิวยอร์ก|นิวยอร์ก]] ด้วยความหวังที่ว่า
[[ไฟล์:Madonna Dress You Up at Virgin Tour.png|left|thumb|182x182px|มาดอนน่า แสดงเพลง Dress You Up ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต The Virgin Tour ในปี 1985]]
สักวันนึงเธอจะต้องดังให้ได้ เธอตะเกียกตะกายมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งปี 1979 เธอได้งานเป็นนักแสดงในคณะ
ละครเสียดสีสังคม ในช่วงนั้นเธอได้รู้จักกับ[[แดน กิลรอย]] (''[[:en:Dan Gilroy|Dan Gilroy]]'') ต่อจากนั้นไม่นานนัก ทั้งสองตัดสินใจคบกัน
ในฐานะคนรัก และได้ฟอร์มวงดนตรีขึ้นมา ชื่อว่า เดอะ เบรกฟาสต์ คลับ (''The Breakfast Club'') เริ่มแรกมาดอนน่าเล่น
กลองและในเวลาต่อมาเธอก็ได้เป็นนักร้องนำ
 
จนกระทั่งเธอกับแฟนเก่า [[สตีเฟ่น เบรย์]] (''[[:en:Stephen Bray|Stephen Bray]]'') ตั้งวงดนตรีขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่าเอ็มมี่ (Emmy) แต่ด้วยความที่อยาก
ออกอัลบั้ม มาดอนน่าและเบรย์จึงได้ลาออกจากวง และได้ทำเทปเดโมส่งไปให้[[มาร์ค คามินส์]] (''[[:en:Mark Kamins|Mark Kamins]]'') โปรดิวเซอร์
เส้น 37 ⟶ 32:
ที่ขึ้นไปได้ถึงอันดับ 3 ใน Billboard Dance Chart แล้วซิงเกิล ''Burning Up'' ก็ตามมาตอกย้ำความฮอท
จนเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่ออัลบั้ม เพลง ''Holiday'' เป็นเพลงแรกของเธอ
ที่เข้าชาร์ท Billboard Hot 100 จากนั้นมาเธอก็มีเพลงดังมาเรื่อยๆอย่าง ''Borderline'' และ ''Lucky Star'' ร่วมปูทางในเส้นทางสายดนตรีให้เธอได้อย่างสวยงาม
[[ไฟล์:Madonna, Rotterdam, 26-8-1987.jpg|left|thumb|295x295px|มาดอนน่าแสดงในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Who's that Girl World Tour ในปี ค.ศ.1987]]
 
อัลบั้มที่สอง '''Like A Virgin''' เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นสาวเซ็กซี่ตามสไตล์[[มาริลีน มอนโร]]
อัลบั้มนี้มีเพลงสร้างชื่ออย่างเช่น ''Like A Virgin'', ''Material Girl'', ''Dress You Up'' และ ''Angel'' และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือโชว์ Like A Virgin สุดหวือหวาในงานประกาศรางวัล[[เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส]] ปี 1984 (''[[:en:MTV Video Music Awards|MTV Video Music Awards]] 1984'') เธอใส่ชุดเจ้าสาวเดินควงตุ๊กตาเจ้าบ่าวตัวเท่าคนจริงเดินลงมาจากเค้กก้อนยักษ์ แล้ว
''Angel'' และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือโชว์ Like A Virgin สุดหวือหวาในงานประกาศรางวัล[[เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส]] ปี 1984 (''[[:en:MTV Video Music Awards|MTV Video Music Awards]] 1984'') เธอใส่ชุดเจ้าสาวเดินควงตุ๊กตาเจ้าบ่าวตัวเท่าคนจริงเดินลงมาจากเค้กก้อนยักษ์ แล้ว
กลิ้งไปมาด้วยลีลาเย้ายวนเธอได้กลายเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่ทั่วโลกรู้จักด้วยลุคอันจัดจ้านของเธอ
มาดอนน่าสร้างสถิติอีกครั้งด้วยการพาเพลง Like A Virgin ขึ้นอันดับ 1 ยาวนานถึง 6 สัปดาห์
จนทำให้เธอได้กลายเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่ทั่วโลกรู้จักด้วยลุคอันจัดจ้านของเธอ เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังไปร้อง เพลง ''Crazy For You'' ประกอบภาพยนตร์วิชั่น เควส ([[:en:Vision Quest|Vision Quest]]) ที่ดังจนซิงเกิลการกุศล
รวมนักร้องดังของยุคอย่าง ''We Are The World'' ต้องยอมลงจากที่ 1 เชียว เธอได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างจริงจังจากการได้รับบทนำใน [[:en:Desperately Seeking Susan|Desperately Seeking Susan]] และช่วงนั้นเองนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ เมื่อหนังโป๊ต้นทุนต่ำของเธอเรื่อง ''A Certain Sacrifice'' ซึ่งเธอถ่ายไว้เมื่อก่อนเข้าวงการถูกออกฉาย เท่านั้นยังไม่พอหนังสือเพลย์บอยและ เพนท์เฮาส์ต่างพากันลงรูปโป๊ของเธอที่เคยถ่ายไว้ก่อนเข้าวงการ เธอแต่งงานครั้งแรกกับดาราหนุ่ม[[ฌอน เพนน์]] (''[[:en:Sean Penn|Sean Penn]]'') มีหนังที่เล่นด้วยกันอย่างเรื่อง ''Shanghai Surprise'' แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
รวมนักร้องดังของยุคอย่าง ''We Are The World'' ต้องยอมลงจากที่ 1 เชียว เธอได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการ
เส้นทางในวงการเพลงของเธอเดินทางอย่างราบรื่น เธอมีเพลงอันดับ 1 อย่าง ''Live to Tell'', ''Papa Don't Preach'' และ ''Open Your Heart'' จากอัลบั้ม '''True Blue''' ที่ขายได้ ถึง 22 ล้านก๊อปปี้ อัลบั้มนี้เธอตั้งใจจะอุทิศให้สามี ในทางตรงกันข้ามชีวิตคู่ของเธอต้องจบลง เมื่อเธอและ Penn ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน ''Papa Don't Preach'' หรือ พ่อจ๋าอย่าบ่นสร้างกระแสฮือฮามากเพราะเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นที่ท้องก่อนเวลาอันควร แต่ก็ยังรั้นจะเก็บลูกไว้
ภาพยนตร์อย่างจริงจังจากการได้รับบทนำใน [[:en:Desperately Seeking Susan|Desperately Seeking Susan]]
 
และช่วงนั้นเองนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ เมื่อหนังโป๊ต้นทุนต่ำของเธอเรื่อง ''A Certain Sacrifice'' ซึ่งเธอถ่ายไว้เมื่อก่อนเข้าวงการถูกออกฉาย เท่านั้นยังไม่พอหนังสือเพลย์บอยและ เพนท์เฮาส์ต่างพากันลงรูปโป๊ของเธอที่เคยถ่ายไว้ก่อนเข้าวงการ เธอแต่งงานครั้งแรกกับดาราหนุ่ม[[ฌอน เพนน์]] (''[[:en:Sean Penn|Sean Penn]]'') มีหนังที่เล่นด้วยกันอย่างเรื่อง ''Shanghai Surprise'' แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
เส้นทางในวงการเพลงของเธอเดินทางอย่างราบรื่น เธอมีเพลงอันดับ 1 อย่าง ''Live to Tell'', ''Papa Don't Preach'' และ ''Open Your Heart'' จากอัลบั้ม '''True Blue''' ที่ขายได้
ถึง 22 ล้านก๊อปปี้ อัลบั้มนี้เธอตั้งใจจะอุทิศให้สามี ในทางตรงกันข้ามชีวิตคู่ของเธอต้องจบลง เมื่อเธอและ Penn ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน ''Papa Don't Preach'' หรือ พ่อจ๋าอย่าบ่น
สร้างกระแสฮือฮามากเพราะเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นที่ท้องก่อนเวลาอันควร แต่ก็ยังรั้นจะเก็บลูกไว้
 
อัลบั้มที่สี่ '''Like A Prayer''' วางแผง แน่นอน ต้องมีเพลงฮิตอันดับ 1 ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมีด้วยกันถึง 4 เพลง คือ ''Like A Prayer'', ''Express Yourself'', ''Cherish'' และ ''Keep It Together'' [[มิวสิกวิดีโอ]]เพลง ''Like A Prayer'' ก็ช็อคแฟนเพลงอีกครั้งด้วยการนำเรื่องศาสนามาเกี่ยวกับเซ็กส์จนโดนตำหนิจากวาติกันและทำให้เป๊ปซี่ยกเลิกสัญญากับเธอทันที
 
ในปี 1990 เธอเริ่มต้น ''Blonde Ambition Tour'' ที่ยาวนานกินเวลาทั้งปี และมีเพลง ''Vogue'' เป็นซิงเกิลฮิตติดอันดับ 1 อีกหนึ่งเพลง ภาพยนตร์เรื่อง ''Dick Tracy'' ทำรายได้อย่างงดงามเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอนับจาก Desperately Seeking Susan
[[ไฟล์:EroticaGirlieShowUnderGround sh.jpg|left|thumb|252x252px|มาดอนน่า แสดงเพลง Erotica ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต The Girlie Show World Tour ในปี ค.ศ.1993]]
 
[[ไฟล์:MadonnaDrownedWorld8 cropped.jpg|thumb|270x270px|มาดอนน่า แสดงเพลง "Don't Tell Me" ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Drowned World Tour]]
'''The Immaculate Collection''' อัลบั้มรวมฮิตอันแรกของเธอ มีเพลงเพิ่มมาใหม่สองเพลงหนึ่งในนั้นคือ ''Justify My Love'' ที่เธอช็อคแฟนเพลงด้วยเอ็มวีที่แรงที่สุดในชีวิตของเธอโดยมีฉากสำคัญคือตอนที่มาดอนน่าจูบกับผู้หญิงต่อหน้าแฟนหนุ่ม เอ็มทีวีแบนวิดีโอนี้โดยยกเหตุผลเรื่องความลามกอนาจารในวิดีโอ ที่มีทั้งเซ็กส์แบบชาย-หญิง, ชาย-ชาย, หญิง-หญิง เธอจึงนำเอ็มวีนี้ใส่วิดีโอออกขาย
 
เส้น 63 ⟶ 53:
อัลบั้ม '''Bedtime Stories''' ดูเหมือนจะลดภาพความเซ็กซี่ลงจากอัลบั้มก่อน แต่ก็ยังมีเพลงฮิตอย่าง ''Take A Bow'' ส่วนเพลง ''Bedtime Stories'' และ ''Human Nature'' คงเป็นอานิสงส์จากการที่เธอลดความเซ็กซี่ เพราะสองเพลงนี้กลายเป็นสองเพลงแรกของเธอที่ไปไม่ถึงชาร์ท Top 40
 
ในปี 1995 เธอเปลี่ยนลุคตัวเองจากสาวเซ็กซี่มาเป็นผู้ใหญ่ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง ''Evita'' เธอได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ''Lourdes Maria Ciccone Leon'' ในช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังออกฉายพอดี ''Evita'' ทำให้เธอได้รางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกและเพลงประกอบภาพยนตร์ทั้ง cover ของเพลง ''Don't Cry for Me Argentina''และ ''You Must Love Me'' ก็เป็นเพลงฮิตด้วย
 
<br />
[[ไฟล์:HungUpFresno (cropped).jpg|thumb|234x234px|มาดอนน่า แสดงเพลง Hung Up ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต The Confession Tour ในปี ค.ศ.2006]]
[[ไฟล์:ReInventionJason (cropped).jpg|left|thumb|261x261px|มาดอนน่า แสดงเพลง American Life ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Re-Invention World Tour ปี ค.ศ. 2004]]
3 ปีให้หลังอัลบั้ม '''Ray of Light''' เป็นอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในยุคคุณแม่มาดอนน่าที่มีแนวเพลงทันสมัยขึ้นและเปิดตัวอย่างสวยงามที่อันดับ 2 ของชาร์ท
 
เส้น 79 ⟶ 72:
 
ในปี 2008 มาดอนน่ามีผลงานอัลบั้มชุดที่ 11 ชื่อชุด '''[[ฮาร์ดแคนดี|Hard Candy]]''' โดยมีซิงเกิลแรกคือ "[[กิพว์อิททูมี]]" ({{lang-en|Give It 2 Me}}) , "4 Minutes" ที่ร้องร่วมกับขึ้นอันดับ 3 ในอเมริกา อันดับ 1 ในอังกฤษ[[จัสติน ทิมเบอร์เลค]]<ref>[http://newsroom.mtv.com/2008/03/14/madonna-justin-timberlake-look-sweet-in-hard-candy-pics/ Madonna, Justin Timberlake Look Sweet In Hard Candy Pics]</ref> และในเดือนสิงหาคม ปี 2009 กับผลงานล่าสุดในอัลบั้ม ''Cerebration'' กับซิงเกิ้ลแรก Cerebration (เซละเบรทชั่น) ที่อาจเรียกได้ว่าเพื่อฉลองครบรอบ 27 ปี ในเส้นความสำเร็จทางดนตรีของเธอ มิวสิกวิดีโอเพลงนี้ไปถ่ายทำไกลถึงมิลาน ประเทศอิตาลี นอกจากนี้ยังได้ผู้กำกับรางวัลแกรมมี่ “โจนาส อเคอร์ลันด์” Jonas Akerlund ที่เคยกำกับมิวสิกวิดีโอ “เรย์ ออฟ ไลท์” Ray Of Light มากำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้อีกครั้งหนึ่งด้วย
 
 
== ผลงาน ==
[[ไฟล์:DressYouUpSticky&SweetTour2.jpg|thumb|253x253px|มาดอนน่า แสดงเพลง Dress You Up ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Sticky & Sweet Tour ในปี ค.ศ.2008]]
 
=== ผลงานเพลง ===
[[ไฟล์:Madonna Halftime show (6837586603) (cropped1).jpg|thumb|190x190px|Madonna แสดงเพลง Vogue ใน Superbowl XLVI Halftime Show ปี ค.ศ.2012]]
[[ไฟล์:Madonna The MDNA Tour Human Nature strip2.jpg|thumb|253x253px|มาดอนน่า แสดงเพลง Human Nature ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต MDNA World Tour ในปี ค.ศ.2012]]
 
* Madonna (1983)
* Like a Virgin (1984)
เส้น 90 ⟶ 89:
* Ray of Light (1998)
* Music (2000)
* American Life (2003)
* [[คอนเฟสชันส์ออนอะแดนซ์ฟลอร์|Confessions on a Dance Floor]] (2005)
* [[ฮาร์ดแคนดี|Hard Candy]] (2008)
* [[เอ็มดีเอ็นเอ|MDNA]] (2012)
* [[เรบเบิลฮาร์ท|Rebel Heart]] (2015)
*Madame X (2019)
 
เส้น 110 ⟶ 109:
* Rebel Heart Tour (2015-16)
*Madame X Tour (2019)
 
[[ไฟล์:Madonna Rebel Heart Tour 2015 - Amsterdam 2 (23823323680).jpg|thumb|252x252px|มาดอนน่า แสดงเพลง Iconic ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Rebel Heart World Tour ในปี ค.ศ. 2015]]
 
=== ผลงานการแสดง ===