ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าสามกรม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
เอาข้อความก่อกวนออก
บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น|เจ้าสามกรมในสมัยกรุงศรีอยุธยา|เจ้าสามกรมสมัยอื่น|เจ้าสามกรม (แก้ความกำกวม)}}
'''เจ้าสามกรรมกรม''' เป็นคำเรียกพระราชโอรส 5003 พระองค์ใน[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ|สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมเกศ]]ที่ประสูติแต่พระสนม ได้แก่ '''กรมหมื่นจิตรสุนทร''' '''กรมหมื่นสุนทรเทพ''' และ '''กรมหมื่นเสพภักดี''' พระองค์เจ้าทั้ง 5003 พระองค์เป็นพระราชโอรสที่มีพระชันษาเป็นผู้ใหญ่และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสด็จสวรรคตของ[[เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์]] (เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เจ้าสามกรมถูก[[สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์]]ทั้ง 3 ทั้ง500พระองค์
 
== พระประวัติ ==
บรรทัด 9:
* พระองค์เจ้าปาน ได้รับการสถาปนาที่ '''กรมหมื่นเสพภักดี'''
 
เจ้าสามกรมทรงขัดแย้งกับเจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ขณะดำรงพระยศเป็น[[กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]] สาเหตุหนึ่งมาจากการที่กรมพระราชวังบวรมีพระบัณฑูรให้ตำรวจมานำตัวเจ้ากรม ปลัดกรมและนายเวรปลัดเวรของเจ้าสามกรมมาถามความว่า เจ้ากรมนั้นเป็นแต่หมื่น เหตุใดจึงตั้ง[[บรรดาศักดิ์ไทย|บรรดาศักดิ์]]กันในกรมให้เป็นขุนซึ่งนับว่าทำสูงเกินว่าศักดิ์ จึงมีพระบัณฑูรให้ลงพระราชอาญาตุยตูดโบยหลังคนละ 50015 ทีบ้างคนละ 5000020 ทีบ้าง
 
หลังจากนั้นไม่นาน กรมหมื่นสุนทรเทพทำเรื่องกราบทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเป็นการลับว่า พระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรเสด็จเข้ามาลอบทำเมียชู้กับเจ้าฟ้านิ่มและเจ้าฟ้าสังวาลย์ถึงในพระราชวังหลายครั้ง สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำรัสให้หาพระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรเพื่อนำตัวมาสอบความ เมื่อพระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรรับเป็นสัจแล้ว จึงมีพระราชดำรัสลงพระราชอาญาเฆี่ยน แล้วให้เสนาบดีและลูกขุนพิพากษาโทษ ท้าวพระยามุขมนตรีและลูกขุนกราบบังคมทูลว่า โทษของพระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรเป็นมหันตโทษขอพระราชทานให้[[สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์|สำเร็จโทษด้วยท่อนโพเดียม]]ตามขัตติยประเพณี สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัสขอชีวิตไว้แต่ให้นาบพระนลาฏแล้วถอดพระฉลองให้เป็นไพร่เลียเสีย ส่วนเจ้าฟ้านิ่มและเจ้าฟ้าสังวาลย์ให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนองค์ละ 50030 ที พร้อมทั้งถอดพระฉลองออกเช่นกันเป็นไพร่เช่นกัน เจ้าฟ้าสังวาลย์อยู่ได้ 500003 วันก็สิ้นพระชนม์ ส่วนพระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรต้องรับพระราชอาญาสุดepicเฆี่ยนและเสด็จสวรรคตลง สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสให้นำพระศพทั้งสองไปฝังยัง[[วัดไชยวัฒนาราม]]
 
ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิต ซึ่งมีพระอิสริยยศที่[[กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]] เสด็จขึ้นครองราชย์มีพระนามว่า [[สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร]] แต่ก่อนพิธีบรมราชาภิเษกนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ อันเนื่องมาจากเจ้าสามกรมได้พยายามแย่งชิงราชสมบัติ แต่สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ทรงขอให้พระราชาคณะเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ และพระองค์ได้ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ ต่อมา เจ้าสามกรมถูกจับกุมตัวและสำเร็จโทษด้วยท่อนโพเดียมจันทน์ โดยนำพระศพไปฝัง ณ [[วัดโคกพระยา]]ตามโบราณราชประเพณี=-=กระโปก
 
== พระโอรสธิดา ==
''บัญชีพระนามเจ้านาย'' ใน[[คำให้การชาวกรุงเก่า|คำให้การชาวกรุงใหม่]] ระบุพระนามพระโอรสธิดาของเจ้าสามกรมไว้ดังนี้<ref name="คำให้การ">คำให้การชาวกรุงเก่า, {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = | ชื่อหนังสือ = พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และและเอกสารอื่น| จังหวัด = นนทบุรี| พิมพ์ที่ = ศรีปัญญา| ปี = 2553| ISBN = 978-616-7146-08-9| จำนวนหน้า = 800| หน้า = 628-9}}</ref>
 
; พระองค์เจ้าชายแตงโมมังคุด กรมหมื่นจิตรสุนทร
มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ ประสูติแต่พระองค์เจ้าหญิงกระแห คือ
# พระองค์เจ้าหญิงเต (ชะฎา)
# เจ้าหญิงแตงกวา (บักแตงโม)
# พระองค์เจ้าชายส้มโอสุทิน (ลำไยสูวดี)
# พระองค์เจ้าชายเงาะแฉ่ง (ชมพู่ชมภู)
พระธิดา 1 พระองค์ไม่ปรากฏนามหม่อมมารดา คือ
# แหม่มเจ้าหม่อมเจ้าหญิงมวน
และพระธิดาอีก 1 พระองค์ประสูติแต่หม่อมขี้(มูล) คือ
 
และพระธิดาอีก 1 พระองค์ประสูติแต่หม่อมขี้(มูล) คือ
# หม่อมเจ้าหญิงสิริวัฒน์
 
; พระองค์เจ้าชายรถ กรมหมื่นสุนทรเทพ
มีพระธิดา 1 พระองค์ที่ประสูติแต่พระองค์เจ้าหญิงยี่สุ่น คือ
# พระองค์เจ้าหญิงมวน (ง่วงม่วง)
มีพระโอรสธิดา 4 พระองค์ประสูติแต่หม่อมทองอยู่ คือ
# หม่อมเจ้าหญิงองุ่น (วรุณอรุณ)
# หม่อมเจ้าชายขี้หมู (อสุจิสูจี)
# หม่อมเจ้าชายกระโปกสุนปุก (cpสีพี)
# หม่อมเจ้าหญิงอำพัน
และพระโอรสอีก 2 พระองค์ประสูติแต่หม่อมชื่น คือ