ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คาซัดดูม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
EnDor (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
'''คาซัด-ดูม (Khazad-dûm)''' เป็นชื่ออาณาจักรแห่งหนึ่งบน[[มิดเดิลเอิร์ธ]] ในนิยายแฟนตาซีเรื่อง [[เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์]] ประพันธ์โดย [[เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน]] คำว่า ''คาซัด'' เป็นคำใน[[ภาษาคุซดุล]]ที่เหล่า[[คนแคระ (มิดเดิลเอิร์ธ)|คนแคระ]]ใช้เรียกตัวเอง ''คาซัดดูม'' หมายถึง "เคหาของคนแคระ" ชื่อนี้ในภาษากลางของมิดเดิลเอิร์ธหรือ[[ภาษาเวสทรอน]] เรียกว่า '''ดวาโรว์เดล์ฟ''' (Dwarrowdelf) ส่วนคำว่า '''มอเรีย''' เป็น[[ภาษาซินดาริน]] มีความหมายว่า "ปล่องเหวมืด" ซึ่งเป็นชื่อที่พวก[[เอล์ฟ (มิดเดิลเอิร์ธ)|เอล์ฟ]]ใช้เรียกอาณาจักรแห่งนี้ ด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์
 
'''คาซัด-ดูม''' เป็นอาณาจักรของคนแคระที่ใหญ่ที่สุดในมิดเดิลเอิร์ธ เป็นอาณาจักรที่สวยงามภายใต้[[ภูเขาในมิดเดิลเอิร์ธ#ม|เทือกเขามิสตี้]] ซึ่ง ''ดูริน ผู้อมตะ (Durin The Deathless)'' กษัตริย์ของพวกเขาเป็นผู้บุกเบิกตั้งแต่[[ยุคที่หนึ่ง]] เป็นอาณาจักรของคนแคระในสายวงศ์ ''ลองเบียร์ด (Longbeard)'' ภายใต้ขุนเขานี้มีเหมืองที่เป็นแหล่งแร่อันล้ำค่า เรียกว่า [[มิธริล]] รวมถึงอัญมณีที่มีค่าอีกมากมาย
 
ดูริน มีชีวิตที่ยืนยาวและปกครองผู้คนของเขาหลายปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตก่อนสิ้นสุดยุคที่หนึ่ง แต่วงศ์วานของเขาก็ยังสืบต่อมา และอาณาจักรของเขาก็เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นต่อมาหลายพันปี ภายในท้องพระโรงถูกประดับประดาไปด้วยแสงสว่างจากไฟและดนตรี พวกคนแคระร่ำรวยมั่งคั่งมากขึ้น เมื่อพวกเขาค้นพบแร่อันล้ำค่าสีเงิน สามารถตีเป็นแผ่นบางๆได้เรียกว่า [[มิธริล]] ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นในมิดเดิลเอิร์ธ พวกเขาสร้างอาวุธที่มีความประณีตและสวยงามหลายสิ่ง เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับอาหารของพวกมนุษย์
 
ในยุคที่สอง ชื่อเสียงของความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรก็มีมากขึ้นอีก มีพวกคนแคระจำนวนมากอพยพมาเข้าร่วมจากเทือกเขาเอเร็ดลูอิน หรือเทือกเขาสีน้ำเงิน หลังจากที่[[โนกร็อด]]และ[[เบเลกอสต์]]เมืองของพวกเขา ถูกทำลายในระหว่าง[[สงครามแห่งความโกรธา]] และการปราบมอร์กอธในช่วงสิ้นสุดยุคที่หนึ่ง ทำให้อาณาจักรแห่งนี้รุ่งเรืองอย่างมาก
 
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรคาซัดดูมกับเหล่าเอล์ฟ เริ่มขึ้นใน[[ยุคที่สอง]] หลังจากสิ้นแผ่นดิน[[เบเลริอันด์]] พวกเอล์ฟชาว[[โนลดอร์]]เดินทางออกมาทางตะวันออก และตั้งอาณาจักรของชาวโนลดอร์ลี้ภัยขึ้นที่ [[เอเรกิออน]] เชิงเทือกเขามิสตี้ด้านทิศตะวันตก ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้เริ่มเปิดการทูตและการค้าระหว่างกัน นายช่างใหญ่ของคนแคระชื่อ ''นาร์วิ (Narvi)'' ได้สร้าง ''ประตูตะวันตก'' ของคาซัดดูมขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ฝ่ายเอล์ฟก็ส่งช่างฝีมือเอกของตน คือ [[เคเลบริมบอร์]] มาช่วยงานประดิษฐ์บนบานประตู เขาได้ใช้ ''อิธิลดิน'' แร่ธาตุชนิดหนึ่งที่จะส่องแสงสว่างเรืองเมื่อโดนแสงจันทร์ มาจารึกภาพและอักขระบนบานประตู ข้อความบนบานประตูคือ "Ennin Durin aran Moria. Pedo mellon a mino" หมายถึง "ทวาราแห่งดูริน ลอร์ดแห่งมอเรีย จงเอ่ย สหาย และเข้ามา" เป็นข้อความปริศนาสำหรับผู้ทราบรหัสเปิดประตู ซึ่ง [[แกนดัล์ฟ]] [[โฟรโด แบ๊กกิ้นส์|โฟรโด]] และเหล่า[[คณะพันธมิตรแห่งแหวน|พันธมิตรแห่งแหวน]] ได้มาพบในเรื่อง [[เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์]]
 
ในช่วงเหตุการณ์เกี่ยวกับสร้างแหวนสามวงของพวกเอลฟ์นั้น เมื่อ[[เซารอน]]ล่วงรู้ว่าแหวนถูกสร้างโดยปราศจากการรู้เห็นของเขา เซารอนจึงเปิดศึกกับพวกเอลฟ์ [[เอเรกิออน]] (Eregion)ถูกทำลาย เคเลบริมบอร์ถูกสังหาร
ใน[[ยุคที่สาม]] การล่มสลายของอาณาจักรนี้มาถึงเมื่อ[[เซารอน]]กลับมาอีกครั้ง อสูรร้าย นามว่า [[บัลร็อก]] (Balrog) ซึ่งหลับไหลอยู่ภายใต้เหมืองแห่งนี้ได้ถูกปลุกขึ้น การบุกเข้าทำลายของพวก[[ออร์ค (มิดเดิลเอิร์ธ)|ออร์ค]]โดยคำสั่งของเซารอน ทำให้พวกคนแคระถูกโอบล้อมไร้ซึ่งทางออก และถูกสังหารทั้งหมด แม้แต่[[ตัวละครอื่นในลอร์ดออฟเดอะริงส์#บ|บาลิน]] (Balin) นายเหนือหัวแห่งมอเรียในตอนนั้น ก่อนที่[[คณะพันธมิตรแห่งแหวน]]จะเดินทางมาถึง ที่แห่งนี้ได้กลายเป็น สถานที่ที่น่าสะพรึงกลัวเปรียบเหมือนนรกภายใต้ขุนเขาไปแล้ว
ดูริน ที่สาม ส่งกองทัพคนแคระเข้าช่วยเหลือพวกเอลฟ์ แต่พวกเขาต้องล่าถอย ทวารแห่งดูรินถูกปิดสนิทและเซารอนก็ไม่สามารถทลายประตูได้ เซารอนโกรธมากจึงสั่งให้พวกออร์คไล่ล่าคนแคระทันทีที่พบ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามการติดต่อกันระหว่างอาณาจักรของคนแคระ เป็นไปอย่างลำบากและถูกรังควาญโดยพวกออร์ค
 
ระหว่างสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย พวกคนแคระจากคาซัดดูมได้ส่งกองทัพเข้าร่วมรบกับพวกมนุษย์และเอลฟ์ด้วย เซารอนพ่ายแพ้ แหวนเอกธำมรงค์หายสาบสูญ
 
เมื่อเซารอนกลับมาอย่างลับๆ ปีศาจร้ายก็หวนคืนพวกออร์คโจมตีพวกคนแคระในแทบเทือกเขามิสตี้ แต่พวกมันไม่สามารถเข้าถึงคาซัดดูมได้คนแคระแห่งคาซัดดูมยังคงรัษาความมั่งคั่งอยู่ได้ แต่ทว่าประชากรเริ่มลดลงทีละเล็กน้อย
เพราะพวกเขามัวแต่สนใจการขุดหาแร่มิธริลซึ่งหายากขึ้นทุกที
 
ระหว่างการขุดหาแร่ พวกคนแคระได้ค้นพบ อสูรกายร้ายที่หลับไหลอยู่ในส่วนลึกใต้สุดของคาซัดดูม มันคือ [[บัลร็อก]] (Balrog) ปีศาจที่มีร่างเป็นไฟมันหลบหนีจากเมื่อตอน[[สงครามแห่งความโกรธา]]และมาหลบซ่อนตัว มันถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
ดูริน ที่หก ถูกบัลร็อกสังหาร และในปีต่อมาลูกของเขา เนน ที่หนึ่ง(Nain I)ก็ถูกสังหารเช่นกัน พวกคนแคระแห่งคาซัดดูมต่างหนีออกมาและอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย
 
หลังจากนั้นคาซัดดูมเป็นที่รู้จักกันในนาม มอเรีย และน้อยคนนักที่จะกล้าเข้าไปในมอเรีย เซารอนส่งพวกโทรลล์ ออร์ค และปีศาจร้ายอื่นๆ มาอาศัยอยู่ที่นี่
 
จนกระทั่ง เทรน (Thrain) กษัตริย์พวกคนแคระ รวบรวมกำลังทำสงครามกับพวกออร์คในเทือกเขามิสตี้ กลายเป็นสงครามระหว่างออร์คและคนแคระครั้งใหญ่ (Battle of Azanulbizar) แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
 
ต่อมา [[บาลิน]] (Balin) นำกองทัพคนแคระจากเทือกเขาโลนลี่ และสามารถไล่พวกออร์คที่เฝ้าทางเข้าอยู่ได้ แต่บาลิน เป็นนายเหนือหัวแห่งมอเรียได้เพียงห้าปี ก็ถูกพวกออร์คสังหาร พวกคนแคระถูกโอบล้อมไว้ไร้ซึ่งทางออก และถูกสังหารทั้งหมด ก่อนที[[่คณะพันธมิตรแห่งแหวน]]จะเดินทางมาถึง ที่แห่งนี้ได้กลายเป็น สถานที่ที่น่าสะพรึงกลัวเปรียบเหมือนนรกภายใต้ขุนเขาไปแล้ว
 
==ดูเพิ่ม==