ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจหลักในการบินเฉียดดาวเสาร์เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1980 ''วอยเอจเจอร์ 1'' ถือเป็นวัตถุสร้างโดยมนุษย์ชิ้นที่ 3 ที่สามารถโคจรด้วยความเร็วมากพอจนถึงระดับ[[ความเร็วหลุดพ้น]]จากอิทธิพลของ[[ระบบสุริยะ]] นอกจากนี้ในวันที่ 25 สิงหาคม ปีเดียวกันค.ศ. ยาน2012 ''วอยเอจเจอร์ 1'' กลายเป็นยานอวกาศลำแรกที่ได้ข้ามผ่านอวกาศชั้น[[เฮลิโอพอส]] (heliopause) และได้เข้าสู่อวกาศชั้น[[มวลสารระหว่างดาว]] (Interstellar Medium)<ref name="NYT-20130912220130912">{{cite news|last=Barnes|first=Brooks|title=In a Breathtaking First, NASA Craft Exits the Solar System|url=https://www.nytimes.com/2013/09/13/science/in-a-breathtaking-first-nasa-craft-exits-the-solar-system.html|date=September 12, 2013|work=[[New York Times]]|accessdate=September 12, 2013}}</ref>
ในปี ค.ศ. 2017 ทีมงานของวอยเอจเจอร์ประสบความสำเร็จในการทดลองจุดชุดเครื่องยนต์ไอพ่นที่ใช้ในการควบคุมการเคลื่อนที่แบบวิถีโค้งแนวโคจร (Trajectory Correction Maneuver หรือ: TCM) ซึ่งไม่มีการใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 ส่งผลให้สามารถขยายเวลาทำภารกิจของยานไปได้อีกสองถึงสามปี<ref name="Backup thrusters test2">{{cite news|last=Wall|first=Mike|title=Voyager 1 Just Fired Up its Backup Thrusters for the 1st Time in 37 Years|url=https://www.space.com/38967-voyager-1-fires-backup-thrusters-after-37-years.html|accessdate=December 3, 2017|publisher=Space.com|date=December 1, 2017}}</ref>