ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สาธารณรัฐประชาชนโมซัมบิก"

ภายหลังสิ้นสุดการปกครองอาณานิคมแอฟริกาตะวันออกของโปรตุเกสเมื่อ ค.ศ. 1975 สาธารณรัฐประชาชนโมซัมบิกก่อตั้งโดย [[แนวร่วมเพื่อการปลดปล่อยโมซัมบิก]] ("เฟรลีมู" : "FRELIMO") นำโดย ประธานาธิบดี [[ซาโมรา มาเชล]], ในช่วงระยะสั้นๆก่อนการประกาศอิสรภาพจากโปรตุเกส ในสมัย[[อึชตาดูโนวู (โปรตุเกส)|อึชตาดูโนวู]] (สาธารณรัฐที่ 2). เฟรลีมูจัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดสังคมนิยม[[ลัทธิมากซ์–เลนิน]]แบบ[[พรรคการเมืองเดียว]] ในรูปแบบของรัฐบาล[[ลัทธิอำนาจนิยม]] ใช้นโยบาย[[การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรุนแรง]] (radical social change) ปกครองประเทศแบบสังคมนิยม โดย[[การโอนมาเป็นของรัฐ|ยึดทรัพย์สินเอกชนทั้งหมดเป็นของรัฐ]] และ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรป รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่าง [[สาธารณรัฐประชาชนแองโกลา]] และ [[สหภาพโซเวียต]] การเมืองภายในของโมซัมบิกได้รับผลกะทบกระทบจาก[[สงครามเย็น]]อย่างมาก โดยได้รับคำแนะนำจาก[[สภาเพื่อความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจ]] (คอมิคอน).<ref>[http://www.country-data.com/cgi-bin/query/r-648.html Angola: Communist nations]</ref><ref>The New Communist Third World By Peter John de la Fosse Wiles</ref><ref>[http://www.country-data.com/cgi-bin/query/r-12695.html Soviet Union-Mozambique]</ref><ref>[http://memory.loc.gov/frd/cs/germany_east/gx_appnb.html THE COUNCIL FOR MUTUAL ECONOMIC ASSISTANCE]</ref> เฟรลีมู ได้ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งใน[[สงครามกลางเมืองโมซัมบิก|สงครามกลางเมือง]] เมื่อ ค.ศ. 1977 โดยมีประเทศเสรีประชาธิปไตย (ชาติมหาอำนาจตะวันตก) เป็นผู้ก่อสงคราม ผ่านทาง[[สาธารณรัฐโรดีเซีย|โรดีเซีย]] และ [[สหภาพแอฟริกาใต้]] ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงิน พร้อมทั้งอาวุธยุทธภัณฑ์ สนับสนุนกลุ่ม [[Mozambique National Resistance]] ("เรนามู" : "Renamo") ในการทำลายสาธารณูปโภคพื้นฐาน สะพาน ทางรถไฟ โรงเรียน สถานพยาบาล รวมถึงการเข้าแทรกแซงทางการเมืองด้วย[[การต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์]] ทำให้การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ปลายทศวรรษที่ 1980.<ref>[https://web.archive.org/web/20091028094746/http://encarta.msn.com/encyclopedia_761572241_6/Communism.html D4 Mozambique]</ref>

เฟรลีมูได้จัดตั้งองค์กร[[ตำรวจลับ]] เรียกว่า [[หน่วยรักษาความปลอดภัยประชาชนแห่งชาติ]] ({{lang-pt|}}''Servicion Segurança Nacional Popular'', SNASP) มีหน้าที่สอดส่องดูแลความมั่นคง ส่องสืบหาบุคคลที่เป็นหรืออาจเป็นภัยคุกคามต่อรัฐ รวมถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง "ทุกกิจกรรมที่ต่อต้านรัฐบาล และ การปฎิวัติสังคมนิยม" โดยได้รับการฝึกศึกษาจาก [[กระทรวงรักษาความปลอดภัยแห่งรัฐ|กระทรวงรักษาความปลอดภัย]] ("Stasi") ของ[[เยอรมนีตะวันออก]] มีหน้าที่[[ข่าวกรอง]], [[กำลังกึ่งทหาร]] (กำลังพลสำรอง). ภายหลังสิ้นสุดสงครามเย็นได้มีการจัดส่วนราชการใหม่ ยกสถานะเป็น [[หน่วยรักษาความปลอดภัย และ สารสนเทศชาติ]] (''Serviço de Informações e Segurança do Estado'', SISE) เมื่อ ค.ศ. 1991.